นายเศรษฐา ทวีสิน กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท แสนสิริ จำกัด (มหาชน) หรือ SIRI เปิดเผยว่า ปัจจุบันแสนสิริมียอดขายรวมจากลูกค้าต่างชาติถึง 8,500 ล้านบาท หรือคิดเป็น 5% ของยอดขายรวมทั้งหมดตั้งแต่อดีตจนถึง 31 สิงหาคม 2557 ซึ่งเป็นยอดขายคอนโดมิเนียม 1,500 ยูนิต ขายให้แก่ลูกค้าต่างชาติจาก 55 ประเทศ โดยลูกค้าต่างชาติที่มียอดซื้อคอนโดมิเนียมสูงสุด 5 อันดับแรก ได้แก่ ฮ่องกง 9.6% (820 ล้านบาท), สิงคโปร์ 5.6% (480 ล้านบาท),รัสเซีย 5.5% (470 ล้านบาท), อังกฤษ 4.7% (400 ล้านบาท) และฝรั่งเศส 4.3% (370 ล้านบาท)
สำหรับยอดขายกลุ่มลูกค้าต่างชาติ 8 เดือนแรกของปี 2557 อยู่ที่ 585 ล้านบาท เพิ่มขึ้น460% จากช่วงเดียวกันของปีก่อนที่อยู่ที่ 127 ล้านบาท และเชื่อมั่นว่ายอดขายจากกลุ่มลูกค้าต่างชาติในปีนี้จะอยู่ที่ 1,100 ล้านบาท ซึ่งเป็นไปตามเป้าที่วางไว้แน่นอน นอกจากนี้ กลุ่มลูกค้าต่างชาติที่ซื้อโครงการของแสนสิริ มีความแตกต่างกันตามทำเล เช่น ในกรุงเทพฯ และปริมณฑลจะเป็นผู้ซื้อเพื่อลงทุน ขณะที่ในเมืองท่องเที่ยวจะเป็นการซื้อเพื่อเป็นบ้านหลังที่สอง และอยู่อาศัยระยะยาวเพื่อทำงานหรือเกษียณอายุ เป็นต้น
โดยคอนโดมิเนียมในกรุงเทพฯ ห้องที่ได้รับความนิยมสูงสุด คือ ห้องแบบ 1 และ 2 ห้องนอนที่ตกแต่งพร้อมปล่อยเช่าในคอนโดมิเนียมใกล้รถไฟฟ้า ส่วนคอนโดมิเนียมในเมืองตากอากาศห้องที่ขายได้ดีจะมีตั้งแต่สตูดิโอไปจนถึงเพนท์เฮ้าส์เพราะกลุ่มลูกค้ามีความหลากหลายทั้งในเรื่องงบประมาณการซื้อและวัตถุประสงค์ของการลงทุน ทั้งนี้ จุดเด่นของแสนสิริที่ดึงดูดให้นักลงทุนต่างชาติสนใจลงทุน คือ การเป็นบริษัทอสังหาริมทรัพย์ครบวงจรเพียงแห่งเดียวในประเทศไทยที่ให้บริการครอบคลุมถึงการบริหารจัดการโครงการที่พักอาศัยและการให้บริการซื้อ-ขาย-ปล่อยเช่า เพราะสิ่งเหล่านี้เป็นสิ่งการันตีว่าการลงทุนในอสังหาฯ จะมีแต่เพิ่มมูลค่า และให้ผลตอบแทนจากการลงทุนที่ดีต่อเนื่องในระยะยาว
ที่มา : หนังสือพิมพ์ข่าวหุ้น