ทิศทางตลาดหุ้นปรับตัวขึ้นกรอบจำกัด กูรูแนะซื้อขายเร็ว
24 ต.ค.57 KGI มอง SET วันศุกร์ทรงตัวแดนบวก แต่ไม่ขึ้นแรง แม้ปัจจัยต่างประเทศเมื่อวานจะเป็นบวกหลายประการ เช่นสหรัฐฯ รายงานยอดขอสวัสดิการว่างงานต่ำกว่าคาด และเงินเฟ้อพื้นฐาน ก.ย. ชะลอ, ผลประกอบการ บ.ยักษใหญ่เช่น 3M และ Caterpillars แข็งแกร่ง, ดัชนีภาคการผลิตเบื้องต้น ต.ค. ของจีนและยุโรปเพิ่มขึ้นสูงที่คาด, และ ธ.กลางยุโรปซื้อพันธบัตรต่อเนื่อง แต่เช้านี้ข่าวเรื่องพบผู้ติดเชื้อ Ebola ในนิวยอร์ก จะกดดันจิตวิทยาหุ้นเอเชียในระดับหนึ่ง ดังนั้นกลยุทธ์สั้นยังเน้นขึ้นขาย-ลงแรงซื้อ ส่วนสัปดาห์หน้ามีปัจจัยสำคัญได้แก่การประชุม ธ.กลางสหรัฐฯ วันที่ 28-29 ต.ค. ซึ่งหากมีการยุติ QE อาจกระทบตลาดหุ้นเชิงลบบ้าง เนื่องจากก่อนหน้านี้นักลงทุนมีความหวังอยู่บ้างว่าสหรัฐฯ อาจมีการคง QE ไว้ก่อน
หุ้นเด่นวันนี้ ตามปัจจัยพื้นฐาน
สะสมหุ้นกลุ่มพลังงานทดแทนและเดินเรือต่อ / ซื้อ PTG ได้ประโยชน์จากการอ่อนตัวของราคาน้ำมันและแนวโน้มการปรับราคา NGV/LPG
-สะสมหุ้นกลุ่มพลังงานทดแทน: คณะกรรมการนโยบายพลังงานแห่งชาติ(กพช.) มีมติให้ขยายการรับซื้อไฟฟ้าจากพลังงานแสงอาทิตย์แบบติดตั้งบนพื้นดิน(โซลาร์ฟาร์ม)อีก 800 เมกะวัตต์ (MW) ทำให้กรอบการรับซื้อไฟฟ้าโซลาร์ฟาร์มขยับเป็น 2.8 พันเมกะวัตต์ โดยจะต้องจ่ายไฟฟ้าภายในเดือนธ.ค.2558 ฝ่ายวิจัยคาดว่า หุ้นที่จะได้รับประโยชน์โดยตรงคือ ผู้ผลิตแผงโซ่ล่าร์ และรู้รับเหมาก่อสร้าง เช่า หุ้น SOLAR, DEMCO และ GUNKUL ในขณะที่ผู้ประกอบการจะขึ้นอยู่กับขนาดของโครงการ (จำนวนเมกะวัตต์) เพราะราคาซื้อไฟฟ้าจะต่ำกว่าโครงการในอดีต
-หุ้นกลุ่มเดินเรือ (TTA* เป้า Consensus 26.0 บาท) (PSL* เป้า Consensus 27.5 บาท) (RCL เป้า Consensus 11.7 บาท) ยังคงแนะนำให้สะสมต่อ ราคาหุ้นปรับตัวลงมามาก ในขณะที่ค่าระวางเรือ (Baltic Dry Index) หลังจากที่ปรับขึ้นมาแรง เมื่อวันพุธที่ผ่านมาและยังปรับขึ้นอีก 6% โดยมีปัจจัยบวกจากการสั่งซื้อสินแร่เหล็กของประเทศจีน แนวโน้มระยะสั้นยังมีโอกาสปรับตัวขึ้นได้อีกเนื่องจากเข้าสู่ช่วงไฮซีซั่นของการขนส่งสินค้า
-ซื้อ PTG (เป้า Consensus 4.96 บาท): เริ่มกลับมาน่าสนใจโดย ฝ่ายวิจัยคาดว่ายอดขายน้ำมันของ PTG จะขยายตัวได้ดีขึ้นจากการใช้น้ำมันที่เพิ่มขึ้นในอนาคต เนื่องจากราคาน้ำมันที่ปรับตัวลงมาอยู่ที่ 85 เหรียญสหรัฐต่อบาเรลล์และแนวโน้มการปรับราคา LPG และ NGV จะส่งผลให้ผู้บริโภคหั้นมาใช้น้ำมันเพิ่มขึ้น
... หุ้นที่แนะนำก่อนหน้า i) KAMART (เป้าสูงสุดใน Consensus 7.6 บาท) แนวโน้มรายได้ยังเติบโตเด่นคาดปีหน้า +20-25% YoY และราคาหุ้น Laggard BEUATY ii) KCE* (เป้า Consensus 45.8 บาท) 1) แนวโน้มกำไรสุทธิไตรมาส 3/57 ประเมินเบื้องต้นไว้ที่ +/- 600 ล้านบาท (+25% QoQ) iii) CPF* (เป้าพื้นฐาน 33 บาท เป้า Consensus 35.6 บาท) 1) Consensus คาดกำไรไตรมาส 3/57 ~ 4 พันล้านบาท (+50% YoY และ +~12% QoQ) โตเด่น YoY และ QoQ iv) BJCHI* (เป้าพื้นฐาน 51 บาท) ประเมินแนวโน้มกำไร 2H57 โต 125% HoH + PE <10 เท่า Dividend yield ~6%
(+) AOT* บอร์ด ทอท. ไฟเขียวลงทุน สุวรรณภูมิเฟส 2 มูลค่า 6.16 หมื่นล้าน รองรับฝูงบิน-ผู้โดยสาร ทั้งนี้ นสพ ลงข่าว ไม่จะเป็นต้องใช้เงินกู้ลงทุน เพราะขณะนี้มีเงินสดสูง 4.4 หมื่นล้านบาท รวมกับรายได้แต่ละปีสามารถลงทุนได้จนจบโครงการ
... กลุ่มสายการบิน (AAV*, NOK*) 1) มีประเด็นบวก 2 เรื่อง i) ราคาน้ำมันที่เป็นต้นทุนหลักของธุรกิจปรับลงแรง ii) ครม มีมติ อนุมัติมาตรการภาษีกระตุ้นการท่องเที่ยว 2) เราประเมิน AAV และ NOK จะได้อานิสงค์สูงสุดจาก 2 ประเด็นนี้ (THAI* รายได้อิงกับประเทศในยุโรป ที่เศรษฐกิจมีแนวโน้มชะลอตัว ขณะที่ AAV และ NOK เน้นเส้นทางในภูมิภาคฯ)
... หุ้นกลุ่มหลักที่แนะนำ “ซื้อสะสม” ตอนตลาดฯย่อ Sentiment จากตลาดหุ้นต่างประเทศเมื่อคืนเป็นกลางหรือบวกเล็กน้อย สำหรับนักลงทุนที่ซื้อตามที่เราแนะนำไปแล้ว แนะนำ “ถือ” หุ้นที่น่าสนใจได้แก่ i) BBL* (เป้าพื้นฐาน 225 บาท) ราคาหุ้นยัง Laggard กลุ่มแบงก์ (ราคาลงมาก่อนหน้า จาก MSCI ปรับลดน้ำหนัก ไม่เกี่ยวกับพื้นฐาน) ii) CK* (เป้าพื้นฐาน 33.6 บาท) ราคาหุ้นปรับฐานเป็นโอกาสสะสม คาดผลการดำเนินงานเป็นขาขึ้นต่อเนื่องใน 2-3 ปีข้างหน้า (อุตสาหกรรมฯโต + บ.ลูก (BMCL*, BECL*, CKP*) ธุรกิจโตเด่น ) iii) SPALI* (เป้าพื้นฐาน 29 บาท) เป็นหุ้นเด่นกลุ่มอสังหาฯ คาดกำไรปีหน้าโต >50% YoY ... นักลงทุนอาจพิจารณาเลือกเก็งกำไร SIRI* (เก็งกำไรประเด็นจับมือ BTS*) และ RICHY (เตรียมเปิดตัวโครงการคอนโดใหม่ภายในเดือนนี้ .. ปลดล๊อกตั้งแต่ IPO ยังไม่มีโครงการใหม่)
ขอบคุณข้อมูลจาก : www.naewna.com
สามารถติดตามข้อมูลข่าวสารอสังหาริมทรัพย์ เพิ่มเติมได้ที่ : www.TerraBKK.com
Facebook : TerraBKK Facebook
Google+ : TerraBKK Google+
Twitter : TerraBKK Twitter
Discussion
Follow breaking news Investment property articles on Facebook, click here.