“ม.ร.ว.ปรีดิยาธร เทวกุล” รองนายกรัฐมนตรี ได้รับเชิญกล่าวปาฐกถา ปิดในงานสัมมนาทิศทางเศรษฐกิจไทยปี 2558 ก้าวข้ามความเหลื่อมล้ำเศรษฐกิจไทย โดยสมาคมเศรษฐศาสตร์ธรรมศาสตร์ โดย “ม.ร.ว.ปรีดิยาธร” ย้ำว่า เศรษฐกิจไทยจะยั่งยืนได้ต้องเริ่มจากการแก้จุดอ่อนทางโครงสร้างให้ได้ทั้งหมด อาทิ แก้ไขการใช้พลังงานไม่ให้ฟุ่มเฟือย แก้ไขโครงสร้างรายได้ภาษีให้สมดุล หากไม่แก้จุดอ่อนนี้ประเทศไทยยิ่งพัฒนายิ่งแพ้ “สำคัญที่สุดคือภาษีที่ดินและสิ่งปลูกสร้าง รวมทั้งภาษีสรรพสามิตที่ยังไม่ยุติธรรม โดยมุ่งที่จะให้ฐานภาษีกว้างและมีรายได้มากขึ้น หากขยายฐานภาษีได้ ดูให้ดี จัดให้แฟร์ และระมัดระวังเรื่องงบประมาณรายจ่าย เราจะขยายงบการลงทุนที่เป็นประโยชน์ทั่วกันสำหรับคนทั้งประเทศ ไม่ใช่แค่เศรษฐีเท่านั้น”
นอกจากนี้ ยังต้องแก้ไขโครงสร้างต้นทุนการขนส่งสินค้าอย่างจริงจัง รวมทั้งแก้ไขจุดอ่อนเรื่องการศึกษา โดยเฉพาะการบริหารจัดการครูไปสู่อำเภอต่างจังหวัดรอบนอก เพราะขณะนี้ ช่องว่างคุณภาพครูในอำเภอเมืองกับนอกอำเภอต่างกันค่อนข้างมาก และควรผลิตบัณฑิตเพื่อวิชาชีพให้มากขึ้น อย่างไรก็ตาม ในปัจจุบันนักลงทุนไทยกำลังขยายฐานการผลิตไปสู่ต่างประเทศจำนวนมากทั้งภาคเกษตร ภาคอุตสาหกรรมและภาคบริการ ปรับตัวไปสู่การเป็นผู้ค้าโลก ในอนาคตหากทำมีศักยภาพได้ทุกผลิตภัณฑ์ประเทศไทยจะกลายเป็นเทรดดิ้งเนชั่นของภูมิภาค แต่ทั้งนี้รัฐบาลต้องทำหลายอย่าง เช่น สนับสนุนบีโอไอให้นำคนไทยไปลงทุนในต่างประเทศ หากเทรดดิ้งเนชั่นอยู่ที่เมืองไทย จะทำให้ไทยกลายเป็นฮับของของภูมิภาค นอกจากนี้ ยังต้องวางโครงสร้างดิจิทัลอีโคโนมีให้เท่าเทียมกับประเทศอื่น ด้วยการปรับโครงสร้างพื้นฐานดิจิทัลให้คนในประเทศทั่วประเทศเข้าถึงได้ง่ายด้วยการวางระบบไฟเบอร์ออฟติก วางสายเคเบิ้ลเชื่อมโยงเกตเวย์กับต่างประเทศ พัฒนาให้คนไทยคุ้นเคยกับดิจิทัลจนสามารถพัฒนาและสร้างคุณค่าทางเศรษฐกิจได้ เพื่อเป็นฐานรองรับครีเอทีฟอีโคโนมีได้อย่างแท้จริง
ขอบคุณภาพจาก:คลังภาพ ศูนย์สื่อทำเนียบ