นายสุภัคร ลดาวัลย์ ณ อยุธยา รองผู้ว่าการการเคหะแห่งชาติ (กคช.) กล่าวว่า ภายหลังจากที่การเคหะฯ นำโครงการที่อยู่อาศัยแพกเกจ 1 เปิดขายตั้งแต่ปลายเดือน ก.ย. ที่ผ่านมา จนถึงขณะนี้ปรากฏว่าได้รับการตอบรับจากลูกค้าเป็นอย่างดี ล่าสุด การเคหะฯ เตรียมเปิดตัวโครงการแพกเกจ 1 และเปิดการขยายอย่างเป้นทางการ โดยมีแผนจะจัดงานรณรงค์ขายโครงการแพกเกจ 1 ในเดือน ม.ค.2558 ที่จะถึงนี้
นอกจากการเตรียมจัดงานดังกล่าวแล้ว กคช. ยังอยู่ระหว่างการปรับปรุงระบบภายในด้านการรบริหารงานอีกหลายอย่าง เช่น การพิจารณาและติดสินในเลือกที่จะใช้การออกแบบก่อสร้างในระบบ BIM มาใช้กับการก่อสร้างโครงการทั้งหมดของการเคหะแห่งชาติ เริ่มตั้งแต่การออกแบบ 3 มิติ และนำมาใช้บริหารโครงการได้เบ็ดเสร็จสารพัด ซึ่งขณะนี้ก็ทำลังให้ทีมงานมีการนำเสนอมาแล้วจะมีการคัดเลือกจะเลือกใช้การออกแบบโปรแกรมใด
สำหรับความคืบหน้าผลการขายโครงการที่อยู่อาศัยแพกเกจ 1 หลังจากที่ได้เปิดขายระยะที่ 2 เมื่อช่วงวันที่ 24 ต.ค.-2 พ.ย. ที่ผ่านมา การเคหะฯ สามารถทำยอดขายได้ 2,286 หน่วย จากยอดรวมที่นำมาขายทั้งหมด 6,107 หน่วย หรือประมาณ 40% และยังคงมียอดจองที่ทยอยเพิ่มขึ้น สำหรับโครงการที่ได้รับความสนใจมากในการเปิดขายครั้งที่ผ่านมา ประกอบด้วย โครงการเชียงใหม่ (ไนซ์ซาฟารี) ระยะที่ 1 โครงการเชียงใหม่ (หนองหาร) ระยะที่ 1 โครงการเชียงใหม่ (สันผีเสื้อ) โครงการจังหวัดกระบี่ (กระบี่น้อย) โครงการการจังหวัดภูเก็ต (เทพกระษัตรี) โครงการจังหวัดศรีษะเกษ (โนนข่า) และโครงการจังหวัดชลบุรี (กุฎโง้ง) โดยกลุ่มลูกค้าที่มาจองโครงการมีความต้องการที่อยู่อาศัยเป็นของตัวเอง และมีความเชื่อมั่นในศักยภาพของการเคหะฯ ในการสร้างที่อยู่อาศัย และราคาขายที่สามารถจับจองเป็นเจ้าของได้ อย่างไรก็ตาม มีบางโครงการ เช่น ที่จังหวัดภูเก็ต (เทพกระษัตรี) และโครงการที่จังหวัดชลบุรี (นาจอมเทียน) มีลูกค้าที่ลงชื่อไว้ และแห่มาซื้อกันจำนวนมาก โดยเฉพาะพื้นที่ด้านหน้าโครงการจนทางการเคหะแห่งชาติต้องยุติการขายโครงการด้านหน้าเอาไว้ก่อน แต่เปิดขายพื้นที่ด้านในโครงการก่อน