1.ตั้งราคาเกินจริง การตั้งราคาขายหรืออัพราคาบ้านจนสูงเกินความเป็นจริง เป็นความผิดพลาดอย่างหนึ่งของการประกาศขายที่ผู้ขายอาจนึกไม่ถึง เพราะเมื่อราคาขายของเราแพงเกินไปก็คงไม่มีใครยอมจ่ายแบบไม่สมเหตุสมผล ดังนั้นทางที่ดีผู้ขายควรตั้งราคาขายบนพื้นฐานของความเป็นจริง ไม่เอาเปรียบผู้ซื้อ โดยคำนวณจากขนาดของพื้นที่ โครงสร้าง สภาพบ้าน อายุการใช้งาน ราคากลางในตลาด แล้วค่อยประกาศขายในราคาที่เหมาะสมจะเป็นการดีที่สุด
2.สภาพบ้านไม่พร้อมขาย บ้านที่ดูดีพร้อมขายย่อมมีชัยไปกว่าครึ่ง เพราะสภาพบ้านนั้นมีผลอย่างมากต่อการตัดสินใจซื้อ เมื่อเจอบ้านที่สวยและมีสภาพดีไม่ว่าใครเห็นก็ต้องอยากเป็นเจ้าของ ช่วยดึงดูดให้ผู้คนสนใจมาสอบถามแน่นอน ดังนั้นผู้ขายจึงควรดูแลปรับปรุงบ้านให้อยู่ในสภาพที่สมบูรณ์ที่สุด เพื่อให้สะดุดตาสะดุดใจ
3.เร่งเร้าจนเกินไป การเร่งเร้าโน้มน้าวจนเกินงามเพื่อปิดการขายให้ได้เร็วที่สุดนั้น อาจจะทำให้คุณเสียลูกค้าไปได้ง่ายๆ เพราะนอกจากจะสร้างความอึดอัดให้ผู้ซื้อแล้ว ยังแสดงถึงความไม่ชอบมาพากลบางอย่างที่แฝงอยู่ แม้ว่าจริงๆ แล้วผู้ขายจะไม่มีเจตนาที่ไม่ดีอยู่ก็ตาม ผู้ขายควรให้ผู้ซื้อได้มีเวลาเยี่ยมชมและสำรวจบริเวณบ้าน รวมทั้งเปิดโอกาสให้ผู้ซื้อสามารถสอบถามได้อย่างอิสระ เพราะความจริงใจจะช่วยให้คุณขายบ้านได้ง่ายกว่าการใช้คำพูดหว่านล้อม 4.โฆษณาน้อย การปิดประกาศขายบ้าน ณ จุดขาย หรือการติดป้ายหน้าบ้าน ไม่ได้สร้างการรับรู้เพียงพอที่จะทำให้คุณขายบ้านได้ดั่งใจต้องการ เนื่องจากมีคนผ่านมาพบเห็นน้อย ทำให้โอกาสในการขายลดน้อยลง ถ้าคุณอยากขายบ้านให้ได้เร็วขึ้น ต้องขยายช่องทางการโฆษณา เช่น เพิ่มป้ายหรือติดใบปลิวในพื้นที่ที่มีคนสัญจรมากมายสามารถพบเห็นได้ง่าย ใช้วิธีการบอกต่อในกลุ่มคนที่รู้จัก อีกหนึ่งช่องทางที่กำลังได้รับความนิยมอย่างยิ่งในเวลานี้ ก็ต้องลงประกาศขายในเว็บไซต์ขายอสังหาริมทรัพย์ต่างๆ ซึ่งช่วยกระตุ้นการขายได้อย่างเห็นผล ที่สำคัญคืออย่าลืมอัพเดตข้อมูลบ้านอยู่เรื่อยๆ เพราะเมื่อมีการเคลื่อนไหว คนย่อมจะเห็นบ่อยขึ้นและยิ่งเพิ่มโอกาสในการขายได้มากขึ้นเช่นกัน 5.ประเมินลูกค้าผิดพลาด “สนใจคนไม่ซื้อ แต่คนซื้อกลับไม่สนใจ” เรียกได้ว่าผู้ขายเกือบทุกคนต้องเจอปัญหานี้แน่นอน การประเมินลูกค้าผิดพลาดเป็นเรื่องที่เกิดขึ้นได้เสมอ เพราะเราไม่อาจรู้ได้ว่าคนที่ติดต่อเข้ามามีแนวโน้มในการซื้อมากน้อยเพียงใด โดยทั่วไปคนส่วนใหญ่มักจะโทรมาสอบถามราคาบ้านเอาไว้ก่อนและไม่ค่อยลงรายละเอียดอะไร เพื่อเก็บไว้เปรียบเทียบราคากับรายอื่น ดังนั้น ผู้ขายจึงไม่ควรใส่ใจลูกค้าประเภทนี้มากนัก ในทางกลับกันถ้ามีลูกค้าที่สนใจรายละเอียดต่างๆ ตั้งใจสอบถามข้อมูล และเก็บรายละเอียดแทบทุกเรื่อง นี่คือกลุ่มคนที่เราควรเอาใจใส่ หากผู้ซื้อเริ่มต่อรองราคาก็ไม่ควรยื่นคำขาดไปในทันที แต่ควรที่จะต่อรองราคากลับไปให้อยู่ในราคาที่รับได้และพึงพอใจทั้งสองฝ่าย เคล็ดลับนี้จะช่วยให้คุณมีโอกาสที่จะขายบ้านได้ง่ายขึ้น 6.ทำเองทุกขั้นตอน สำหรับผู้ขายที่ไม่ได้จ้างนายหน้านั้นควรจะศึกษาข้อมูลและรายละเอียดเชิงลึกเกี่ยวกับการขายบ้านให้ดีเสียก่อน ทำความเข้าใจด้วยตนเอง ทั้งเทคนิคการขาย ข้อกฎหมายและปัญหาต่างๆ ให้มากที่สุดเท่าที่จะทำได้ อย่างน้อยควรมีผู้เชี่ยวชาญด้านอสังหาริมทรัพย์ไว้เป็น|ที่ปรึกษาสักคน จะดีกว่าการทำทุกขั้นตอนเพียงลำพัง และช่วยลดความเสี่ยงในหลายๆ ด้านที่จะตามมา 7.รอขายช่วงพีก!?! บ้านและอสังหาริมทรัพย์ต่างๆ ถือเป็นสินค้าที่มีความแตกต่างจากสินค้าทั่วไป เพราะมีความต้องการซื้ออยู่ตลอดเวลา ไม่ต้องอาศัยช่วงเทศกาลใดๆ ดังนั้นผู้ขายจึงไม่จำเป็นต้องรอขายบ้านในช่วงพีกของตลาดที่เข้าใจกันว่ามีความต้องการซื้อจำนวนมาก เพราะคนส่วนใหญ่ก็มีแนวคิดแบบนี้เช่นกัน จึงทำให้เกิดการแข่งขันในช่วงเวลานั้นสูง ส่งผลให้โอกาสในการขายบ้านของเราลดน้อยลงไปด้วย ดังนั้นเมื่อเตรียมบ้านและเอกสารต่างๆ พร้อมแล้ว ผู้ขายจึงควรจะประกาศขายทันทีจะเป็นตัวเลือกที่ดีที่สุด
แหล่งข้อมูล : Posttoday