แม้สภาพเศรษฐกิจปีนี้ยังเป็นจุดสลบ อยู่หลายธุรกิจ รวมถึงวงการอสังหาริมทรัพย์ ซึ่งดีในบางส่วน เช่น คอนโดมิเนียมย่านใจกลางเมือง ยังมีความต้องการสูง เรียกว่าเปิดโครงการไม่นานก็สามารถปิดจ๊อบได้

รวมไปถึงคอนโดฯ ในจังหวัดท่องเที่ยว โดยเฉพาะที่ใกล้กรุงเทพฯ และเป็นแหล่งยอดนิยมของต่างชาติ ยังเป็นตลาดที่เติบโตได้สวยสดอย่างมาก นายภูมิภักดิ์ จุลมณีโชติ กรรมการ ผู้จัดการบริษัท พลัส พร็อพเพอร์ตี้ จำกัด ผู้เชี่ยวชาญด้านบริหารและจัดการอสังหา ริมทรัพย์ครบวงจร เผยถึงผลสำรวจภาพรวมตลาดคอนโดมิเนียมในพื้นที่ชะอำ-หัวหิน-เขาตะเกียบ-เขาเต่า ในพื้นที่ จ.เพชรบุรี ต่อเนื่องถึง จ.ประจวบคีรีขันธ์ ถือเป็นพื้นที่เกรด "เอ" ที่ขายได้อย่าง ต่อเนื่อง "จากการสำรวจของพลัส พร็อพเพอร์ตี้ พบว่ามีโครงการริมทะเล (ด้านซ้ายของถนนเพชรเกษม) ระหว่างขายจำนวน 29 โครงการ ภาพรวมอุปสงค์และอุปทานยังคงสอดรับได้ดี ในพื้นที่มีอุปทานรวมทั้งหมด 14,187 ยูนิต และมีอุปสงค์ทั้งหมด 10,402 ยูนิต คิดเป็นยอดขายเฉลี่ยที่ 73% ซึ่งถือว่าเป็นอัตราการดูดซับที่ดี สูงกว่าอัตรายอดขายคอนโดฯ ในเมืองอย่างกรุงเทพฯ อุปทานส่วนใหญ่กว่า 70% อยู่ในเขตพื้นที่ชะอำ สำหรับอุปทานทั้งหมดแบ่งเป็นที่สร้างเสร็จหรือมีกำหนดการสร้างเสร็จในปี 2557 จำนวน 33% ก่อสร้างแล้วเสร็จปี 2558 จำนวน 62% และก่อสร้างแล้วเสร็จปี 2559 อีก 5% หากพิจารณาเฉพาะอุปทานใหม่ในปีนี้ มีทั้งสิ้น 5 โครงการ จำนวน 1,168 ยูนิต หากวิเคราะห์แยกเป็นแต่ละทำเล พบว่าชะอำมีหาดที่ยาวที่สุดเมื่อเทียบกับหาดที่เหลือในบริเวณนี้ และการที่มีพื้นที่หาดยาวทำให้มีอุปทานป้อนเข้ามาในตลาดมากกว่าบริเวณอื่น ประกอบกับราคายังไม่สูงมาก ทำให้การดูดซับของอุปสงค์ในบริเวณนี้ดีกว่าบริเวณอื่น มีอุปทานทั้งหมดอยู่ที่ 10,462 ยูนิต และมีอุปสงค์อยู่ที่ 8,018 ยูนิต คิดเป็น 77% สัดส่วนของอุปทานแบ่งเป็นที่ก่อสร้างแล้วเสร็จจำนวน 1,629 ยูนิต (16%) จะก่อสร้างแล้วเสร็จปี 2558 จำนวน 8,413 ยูนิต (80%) และจะก่อสร้างแล้วเสร็จปี 2559 อีก 420 ยูนิต (4%) สำหรับราคาขายเฉลี่ยอยู่ที่ 68,000 บาทต่อตารางเมตร แต่สำหรับคอนโดฯ ติดหาดราคาเฉลี่ยจะอยู่ที่ 110,000 บาทต่อตารางเมตร โดยราคาสูงสุดอยู่ที่ 155,000 บาทต่อตารางเมตร

"ในส่วน ของหัวหิน ช่วง 4-5 ปีที่ผ่านมา กระแสการเที่ยวพักผ่อนเติบโตขึ้นมาก สถานที่ท่องเที่ยวที่เกิดขึ้นมาใหม่จะเปิดตัวเร็วๆ นี้คือ สวนน้ำวานา นาวา ยังไม่นับโครงการบลูพอร์ต ศูนย์การค้าแห่งใหม่ ซึ่งหัวหินเป็นพื้นที่สำคัญที่สุดในบริเวณนี้ เนื่องจากเป็นพื้นที่ดั้งเดิมที่มีการพัฒนาอสังหาริมทรัพย์มานานแล้ว ผนวกกับความสะดวกสบายครบทุกด้าน ประกอบกับมีชายหาดที่ขาวและสวยที่สุด ทำให้คอนโดมิเนียมในหัวหินมีราคาสูงกว่าบริเวณอื่น"


อย่างไรก็ดีไม่พบโครงการระหว่างขายในพื้นที่หาดหัวหินช่วงที่มีหาดทรายที่สวยที่สุด (ตั้งแต่โรงแรมโซฟิเทลถึงชีวาศรม) เนื่องจากหาพื้นที่ทำโครงการยาก แต่ยังพบการซื้อขายในตลาดรีเซลบ้างเท่านั้น โครงการที่เสนอขายปัจจุบันจะอยู่บริเวณต้นของหัวหินซึ่งเลยสนามบินเพียงเล็กน้อย ทำให้ราคาขายของโครงการในบริเวณนี้ไม่สูงเหมือนกับปีที่ผ่านมา ราคาซื้อขายเฉลี่ยของโครงการระหว่างขายปัจจุบันอยู่ที่ 86,000 บาทต่อตารางเมตร มีอุปทานทั้งสิ้น 1,290 ยูนิต และมีอุปสงค์ 887 ยูนิต หรือคิดเป็น 69% สำหรับโครงการติดหาดซึ่งมีเสนอขายอยู่โครงการเดียว ณ ขณะนี้มีราคาขายเฉลี่ยอยู่ที่ 130,000 บาทต่อตารางเมตร โดย ทุกโครงการระหว่างขายเป็นโครงการที่ก่อสร้างแล้วเสร็จหรือมีแผนที่จะสร้างแล้วเสร็จภายในปี 2557 นี้ เขาตะเกียบ ถือเป็นพื้นที่ส่วนต่อของหาดหัวหิน มีหาดทรายที่สวย มีโครงการระหว่างขายเพียงโครงการเดียวที่ติดหาด ที่เหลือเป็นโครงการอิงวิวทะเล และโครงการ Low Rise ไม่มีวิวทะเล อุปทานโดยรวมอยู่ที่ 816 ยูนิต และมีอุปสงค์อยู่ที่ 538 ยูนิต คิดเป็น 66% ราคาเฉลี่ยอยู่ที่ 85,000 บาทต่อตารางเมตร ตลาดรีเซลของโครงการที่ขายไปหมดแล้วก่อนหน้านี้ ห้องชุดที่เห็นวิวทะเลมีราคาขายอยู่ที่ประมาณ 100,000 บาทต่อ ตารางเมตร ข้อดีของพื้นที่ในบริเวณเขาตะเกียบก็คือไม่ไกลจากตัวเมืองหัวหินสามารถเดินทางไปมาได้สะดวก ทุกโครงการระหว่างขายเป็นโครงการที่ก่อสร้างแล้วเสร็จหรือจะสร้างแล้วเสร็จภายในปี 2557 นี้ ด้านเขาเต่า เป็นพื้นที่สุดท้ายในบริเวณนี้ซึ่งต้องเดินทางออกมาไกลขึ้น แต่มีความสงบเหมาะสำหรับครอบครัวที่ต้องการความเป็นส่วนตัว ในช่วง 5 ปีที่ผ่านมามีโครงการเปิดขายใหม่ในบริเวณนี้ไม่มาก เพียงปีละ 2-3 โครงการ ใช้เวลานานกว่าโครงการในหัวหินบ้าง โดยเฉลี่ยแล้วไม่เกิน 2 ปีหลังโครงการสร้างเสร็จ ปัจจัยสำคัญที่จะทำให้พื้นที่ในบริเวณนี้เติบโตต่อไปได้ดีก็คือ ไม่ควรมีการเปิดโครงการใหม่ในแต่ละปีที่มากเกินไป จนทำให้อุปสงค์ไม่สามารถดูดซับอุปทานได้ทัน โครงการที่เปิดขายในบริเวณนี้เป็นโครงการติดทะเลทั้งสิ้น มีราคาขายเฉลี่ยอยู่ที่ 86,000 บาทต่อตารางเมตร และมีราคาขายสูงสุดอยู่ที่ 152,000 บาทต่อตารางเมตร มีอุปทานทั้งหมด 1,619 ยูนิต มีอุปสงค์ที่ 959 ยูนิต คิดเป็นอัตรายอดขายที่ 59% โดยสัดส่วนของโครงการที่ก่อสร้างแล้วเสร็จคือ 60% ก่อสร้างแล้วเสร็จปี 2558 จำนวน 20% และอีก 20% จะก่อสร้างแล้วเสร็จในปี 2559 "ตลาดชะอำ-หัวหิน-เขาตะเกียบ-เขาเต่า ไม่น่ากังวล สภาพตลาดยังแข็งแกร่งและ นักท่องเที่ยวยังคงเดินทางมาเรื่อยๆ ส่วนนักท่องเที่ยวต่างชาติปัจจุบันมีชาวรัสเซีย จีน ที่สำคัญนักท่องเที่ยวคนไทย ส่วนหนึ่งเพราะการเดินทางสะดวกจากกรุงเทพฯ-หัวหิน ใช้เวลา 2 ชั่วโมงเศษเท่านั้น" นายภูมิภักดิ์กล่าวอีกว่า ในส่วนของโครงการเสนอขายที่มีราคาสูงสุดระหว่างหัวหินและชะอำนั้น พบว่าชะอำมีราคาแพงกว่า สาเหตุเพราะโครงการของหัวหินที่เสนอขายอยู่นั้นอยู่ในทำเลที่ ด้อยกว่า จากข้อมูลที่บริษัทสำรวจตลาดพบว่าราคาคอนโดมิเนียมติดหาดหัวหินในตลาดรีเซลนั้นได้มีการขยับราคาขึ้นทุกปี "สถิติราคาซื้อขายสูงสุดของบริษัทขณะนี้อยู่ที่โครงการบ้านไข่มุก ในราคา 72,000,000 ล้านบาท หรือ 195,000 บาทต่อตารางเมตร ส่วนสถิติราคาต่อตารางเมตรสูงสุดอยู่ที่โครงการบ้านสบาย สบาย ในราคา 203,000 บาทต่อตารางเมตร จากราคาห้องชุดที่ 24,000,000 ล้านบาท ซึ่งทั้ง 2 ยูนิตที่ยกตัวอย่างมานี้เป็นห้องที่ติดทะเล" แต่โดยรวมแล้วถ้าเทียบตามตำแหน่งห้องคล้ายๆ กันถือว่าราคาซื้อขายปรับตัวเพิ่มขึ้นปีละประมาณ 10% อย่างไรก็ดีจากราคาต่อตารางเมตรร่วม 200,000 บาทนั้น ทำให้ห้องชุดที่ติดริมหาดหัวหินมีราคา ไม่แตกต่างอะไรไปจากห้องชุดบริเวณซอยทองหล่อ ในกรุงเทพฯ

ปัจจัยนี้ชี้ชัดให้เห็นถึงความต้องการห้องชุดบริเวณหาดหัวหินได้เป็นอย่างดี

ข่าวอื่นๆในรอบวัน :

ราคาทอง′58 ทุบสถิติต่ำสุดใหม่ ศูนย์วิจัยฯฟันธงราคาไม่เกิน 1.7 หมื่นบาท เนื้อเรื่องขึ้นต้นของบทความ (ประมาณ 2 บรรทัดแรก)...


“ดี-แลนด์” เผยปี 58 ยึดโซนพระราม 2 ฐานลงทุน วางเป้ารายได้ทะลุ 1,200 ล. “ดี-แลนด์ฯ” มั่นใจปี 58 ตลาดขยายตัวดีหลัง รับปัจจัยบวก ดอกเบี้ยต่ำ รัฐโหมลงทุนสาธารณูปโภคกระตุ้นอัตราการเติบโตของเศรษฐกิจ จับตาปัจจัยลบภาระหนี้ครัวเรือน แบงก์เข้มงวดปล่อยสินเชื่อ


ขอบคุณข้อมูลจาก : ข่าวสดออนไลน์ โดย วิภา สุนันท์สถาพร

สามารถติดตามข้อมูลข่าวสารอสังหาริมทรัพย์ เพิ่มเติมได้ที่ : www.TerraBKK.com

Facebook : TerraBKK Facebook

Google+ : TerraBKK Google+

Twitter : TerraBKK Twitter