น้ำมันโลกร่วง ฉุดบริษัทด้านพลังงานเจ๊ง?
บริษัทด้านพลังงานหลายแห่งทั่วโลก เริ่มปรับตัวรับมือกับวิกฤตราคาน้ำมันตกต่ำแล้ว โดยตัดลดงบประมาณด้านการสำรวจและการผลิตน้ำมันในปีนี้ลง ขณะที่ บริษัทที่เกี่ยวข้องกับการผลิตน้ำมัน ก็เริ่มได้รับผลกระทบแล้ว และอาจจะต้องปลดพนักงานหลายร้อยคนในอนาคต ซึ่งถือเป็นสถานการณ์ที่มีความสุ่มเสี่ยงเป็นอย่างยิ่ง
Evercore บริษัทที่ปรึกษาด้านการลงทุนสัญชาติอเมริกัน เปิดเเผยรายงานฉบับล่าสุด ที่เกิดจากการสำรวจความคิดเห็นเกี่ยวกับการใช้งบประมาณประจำปี 2558 ของบริษัทน้ำมันและก๊าซธรรมชาติจากทั่วโลกกว่า 300 บริษัท ซึ่งเป็นผลสำรวจที่เกิดขึ้นในช่วงที่ราคาน้ำมันในตลาดโลกกำลังตกต่ำลงอย่างต่อเนื่อง
ผลปรากฏว่า บริษัทด้านพลังงานเหล่านี้ มีแผนที่จะปรับลดงบประมาณประจำปีลง โดยเฉพาะงบประมาณด้านการสำรวจและผลิตน้ำมัน ซึ่งแผนการตัดลดดังกล่าวคิดเป็นสัดส่วนร้อยละ 15-20 ทั่วโลก แต่ในทวีปอเมริกาเหนือนั้น จะถูกปรับลดลงถึงร้อยละ 25-30 ส่วนในยุโรปจะปรับลดลงร้อยละ 20 โดยเฉพาะการผลิตน้ำมันในทะเลเหนือ แหล่งผลิตน้ำมันแหล่งใหญ่ระหว่างเกาะอังกฤษกับคาบสมุทรสแกนดิเนเวีย และในเอเชีย รวมถึงลาตินอเมริกา ก็จะถูกปรับลดลงเช่นเดียวกัน
อย่างไรก็ตาม บริษัทส่วนใหญ่ ยังคงเลือกที่จะเพิ่มการลงทุนด้านการสำรวจและผลิตน้ำมันในทวีปแอฟริกาและตะวันออกกลางต่อไป เพื่อผลการผลิตน้ำมันในระยะยาว จะเห็นได้ว่า การปรับลดงบประมาณที่เกิดขึ้นกับบริษัทด้านพลังงานทั่วโลกนั้น เป็นผลโดยตรงมาจากราคาน้ำมันในตลาดโลกตกต่ำ ทำให้บริษัทเหล่านี้ ต้องปรับตัวและรับมือกับปัญหาที่เกิดขึ้น เนื่องจากตอนนี้ ยังไม่มีแนวโน้มว่า ราคาน้ำมันจะทรงตัว หรือปรับสูงขึ้น มีแต่แนวโน้มว่าจะปรับลดลงอย่างต่อเนื่องเท่านั้น
โดย Evercore มองว่า การที่ราคาน้ำมันในตลาดโลกร่วงลงมาต่ำกว่า 60 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล ได้ทำให้หลายบริษัทเริ่มตัดลดงบประมาณและค่าใช้จ่ายที่ไม่จำเป็นลง เพราะราคาดังกล่าว เริ่มเป็นราคาที่ไม่มีเสถียรภาพสำหรับการค้าขายน้ำมันเท่าใดนัก ซึ่งราคาจำหน่ายน้ำมันที่จะทำให้บริษัททั้งหลายคุ้มทุนอยู่ที่ 115-122 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล แต่ราคาในตอนนี้ กลับร่วงลงมากว่าครึ่งหนึ่ง ซึ่งถือเป็นสถานการณ์ที่สุ่มเสี่ยงเป็นอย่างมาก ต่อบริษัทพลังงาน และบริษัทอื่นๆที่เกี่ยวข้องกับพลังงานด้วย
แม้ว่าก่อนหน้านี้ ทางการสหรัฐฯจะออกมาประกาศว่า ราคาน้ำมันที่ตกต่ำ กลายเป็นปัจจัยกระตุ้นเศรษฐกิจสหรัฐฯได้เป็นอย่างดี โดยเฉพาะอุตสาหกรรมยานยนต์ เนื่องจากยอดจำหน่ายรถยนต์ในช่วงท้ายปีที่ผ่านมา เพิ่มสูงขึ้นอย่างเห็นได้ชัด แต่อย่างไรก็ตาม ผลกระทบจากราคาน้ำมันตกต่ำ เริ่มส่งผลให้เห็นกับบริษัทเหล็กกล้าบ้างแล้ว
โดย US Steel บริษัทผลิตเหล็กกล้าสัญชาติอเมริกัน ที่มีโรงงานอยู่หลายแห่งในสหรัฐฯ ยุโรปกลาง และแคนาดา มีแผนที่จะปรับลดพนักงานหลายร้อยคน โดยสื่อสหรัฐฯรายงานว่า อาจมีพนักงานของ US Steel ที่ต้องตกงานกว่า 750 คน อันเป็นผลสืบเนื่องมาจากยอดการสั่งซื้อท่อส่งน้ำมันลดลงอย่างเห็นได้ชัด อีกทั้ง สภาพคล่องทางการเงินของบริษัทพลังงานทั้งหลาย ก็ฝืดเคืองเป็นอย่างมาก บางบริษัทไม่มีเงินสดในมือหมุนเวียนมากพอในการลงทุนก่อสร้างเพิ่มเติมในตอนนี้
หากสถานการณ์ยังเป็นเช่นนี้ต่อไป และราคาน้ำมันไม่ปรับขึ้นมากพอ ที่จะสู่จุดคุ้มทุนของบริษัทพลังงานทั้งหลายได้ ก็อาจทำให้บริษัทพลังงานเหล่านี้ ตกอยู่ในภาวะวิกฤตอย่างเลี่ยงไม่ได้ ซึ่งนอกจากจะขายน้ำมันไม่ได้กำไรแล้ว ก็ยังเผชิญจากวิกฤตศรัทธาของนักลงทุนทั้งหลาย ที่ไม่กล้าลงทุนเพิ่มในตลาดหลักทรัพย์ ดังจะเห็นได้จากการที่หุ้นของบริษัทด้านพลังงานยักษ์ใหญ่หลายแห่ง ร่วงลงอย่างหนักในช่วงหลายวันที่ผ่านมา
ขอบคุณข้อมูลจาก : voicetv.co.th
สามารถติดตามข้อมูลข่าวสารอสังหาริมทรัพย์ เพิ่มเติมได้ที่ : www.TerraBKK.com
Facebook : TerraBKK Facebook
Google+ : TerraBKK Google+
Twitter : TerraBKK Twitter
Discussion
Follow breaking news Investment property articles on Facebook, click here.