นายอิสระ ว่องกุศลกิจ ประธานกรรมการหอการค้าไทย และสภาหอการค้าแห่งประเทศไทย Photo credit by : matichon.co.th

นายอิสระ ว่องกุศลกิจ ประธานกรรมการหอการค้าไทย และสภาหอการค้าแห่งประเทศไทย เปิดเผยว่า ภาคเอกชนกังวลว่าความผันผวนของเศรษฐกิจโลกและอัตราแลกเปลี่ยน จะส่งผลกระทบต่อการส่งออกและนำเข้าของไทย ซึ่งปัจจัยเสี่ยงที่สำคัญต่อเศรษฐกิจภาพรวมและการส่งออกของไทยขณะนี้ ประกอบด้วย อัตราแลกเปลี่ยน ราคาน้ำมัน และการที่ประเทศไทยถูกตัดสิทธิประโยชน์พิเศษทางภาษี(จีเอสพี) โดยในส่วนของอัตราแลกเปลี่ยนทางผู้บริหารของหอการค้าไทย ก็เตรียมจะหารือกับผู้ว่าการธนาคารแห่งประเทศไทย(ธปท.) หรือแบงก์ชาติ เพื่อหามาตรการ หรือเครื่องมือในการดูแลอัตราแลกเปลี่ยนไม่ให้ผันผวนเร็วเกินไป รวมถึงหารือให้ปรับอัตราค่าเงินอ่อนลงมาใกล้เคียงกับประเทศคู่แข่ง เพื่อไม่ให้กระทบต่อภาระหนี้สินต่างประเทศ การลงทุนในระบบสาธารณูปโภคต่างๆ นอกจากนี้ จะหารือเกี่ยวกับการใช้อัตราแลกเปลี่ยนตามชายแดน เพราะหากสามารถใช้เงินสกุลใดสกุลหนึ่งได้ก็จะทำให้การค้าตามชายแดนคล่องตัวขึ้น เนื่องจากระบบธนาคารของประเทศเพื่อนบ้านยังไม่สะดวกนัก

นายวิชัย อัศรัสกร รองประธานกรรมการหอการค้าไทย Photo credit by : komchadluek.net

นายวิชัย อัศรัสกร รองประธานกรรมการหอการค้าไทย กล่าวว่า การที่หอการค้าฯ จะหารือกับแบงก์ชาติ เพื่อเป็นการส่งสัญญาณว่า ว่าต้องการให้แบงก์ชาติดูแลค่าเงินบาท ให้ทันสถานการณ์มากขึ้น โดยเฉพาะให้ทันต่อการเปลี่ยนแปลงของค่าเงินของประเทศคู่แข่ง และต้องให้เกิดการสมดุล ไม่ให้มีความผันผวน เพราะตอนนี้สถานการณ์อัตราแลกเปลี่ยนในโลกมีความผันผวนเร็วมาก และไทยจำเป็นต้องมีมาตรการที่ทันสถานการณ์ ประกอบกับการที่เศรษฐกิจโลกเปลี่ยนแปลงเร็วมาก จึงอยากให้ผู้ประกอบการ ควรเตรียมความพร้อมต่อปัจจัยเสี่ยงด้านการส่งออกที่ควรต้องจับตามองอย่างใกล้ชิดด้วย ทั้งการใช้เวลาช่วงนี้พัฒนามาตรฐานสินค้าให้เป็นมาตรฐานสากล ให้ความสำคัญกับการพัฒนามาตรฐานด้านสิ่งแวดล้อม แรงงาน และสิทธิมนุษยชน รวมทั้งต้องพัฒนาด้านศักยภาพการผลิต โดยเฉพาะแรงงานภาคเกษตรที่ต่ำกว่ามาเลเซีย อินโดนีเซีย และฟิลิปปินส์ และต้องพัฒนาแบรนด์สินค้าไทยด้วย

ทั้งนี้ ในปี 2557 ที่ผ่านมา ค่าเงินบาทอยู่ที่ 32.86 บาทต่อเหรียญสหรัฐ อ่อนค่าลง 0.49% จากปี 2556 ซึ่งอยู่ที่ 32.70 บาทต่อเหรียญสหรัฐ ในขณะที่ค่าเงินคู่แข่งก็อ่อนค่าลงมากเช่นกัน โดยมาเลเซียอ่อนค่าลง 6.28% อินโดนีเซียอ่อนค่าลง 2.22% สิงคโปร์อ่อนค่าลง 4.41% เมียนมาร์อ่อนค่าลง 6.28% เกาหลีใต้อ่อนค่าลง 4.23% ญี่ปุ่นอ่อนค่าลง 11.86% สหภาพยุโรป (อียู) อ่อนค่าลง 13.07% รัสเซียอ่อนค่าลง 43.33% และบราซิลอ่อนค่าลง 11.19% ส่วนในปี 2558 ค่าเงินบาทกลับมาแข็งค่าขึ้นอีกครั้ง 0.83%

หมายเหตุ : ภาพประกอบบทความ บางภาพไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับเนื้อหาแต่อย่างใด

ขอบคุณข้อมูลจาก : หนังสือพิมพ์แนวหน้า Photo credit by : mcot.net

สามารถติดตามข้อมูลข่าวสารอสังหาริมทรัพย์ เพิ่มเติมได้ที่ : www.TerraBKK.com

Facebook : TerraBKK Facebook

Google+ : TerraBKK Google+

Twitter : TerraBKK Twitter