ธ.สแตนดาร์ดฯ มองบวกจีดีพีปีนี้อาจโตร้อยละ 6

ธนาคารสแตนดาร์ดชาร์เตอร์ดไทยยังมองบวกจีดีพีปีนี้โตพุ่งร้อยละ 6 ผลบวกจากราคาน้ำมันถูกและการเมืองมีเสถียรภาพ นางสาวอุสรา วิไลพิชญ์ นักเศรษฐศาสตร์อาวุโส ธนาคารสแตนดาร์ดชาร์เตอร์ดไทย เปิดเผยว่า เศรษฐกิจไทยปีนี้จะขยายตัว ร้อยละ 4 และมีโอกาสที่จะขยายตัวถึงร้อยละ 6 และปี 2559 โตร้อยละ 6.5 เนื่องจากมีปัจจัยบวกเข้ามาสนับสนุนมากขึ้นกว่าปีก่อน โดยเฉพาะเสถียรภาพทางด้านการเมืองที่มีรัฐบาลบริหารงานอย่างเต็มประสิทธิภาพ สามารถผลักดันการเบิกจ่ายงบประมาณและการลงทุนภาครัฐ หากรัฐบาลสามารถรักษาเสถียรภาพดังกล่าวไว้ได้ถึงปลายปีนี้จะเป็นการสร้างความเขื่อมั่นให้กับนักลงทุนทั้งไทยและต่างประเทศ ประกอบกับราคาน้ำมันที่ปรับตัวลดลงแรง หากเทียบกับราคาน้ำมันที่เคยลดลงร้อยละ 67 ในปี 2529 ทำให้เศรษฐกิจไทยปี 2530 ขยายตัวได้ถึงร้อยละ 9.5

ทั้งนี้ จากการศึกษาของธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) ราคาน้ำมันที่ลดลงร้อยละ 10 จะมีผลให้จีดีพีขยายตัวขึ้นร้อยละ 0.2 ดังนั้น ราคาน้ำมันที่ลดลงร้อยละ 50 จะช่วยจีดีพีโตขึ้นร้อยละ 1 รวมทั้งราคาน้ำมันที่ลดลงทำให้เกิดความเชื่อมั่นด้านการบริโภคและเอื้ออำนวยต่อการลงทุน เพื่อเตรียมความพร้อมการเปิดประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน (เออีซี) ปลายปีนี้และการปรับโครงสร้างเศรษฐกิจสู่ดิจิตอลอิโคโนมี นอกจากนี้ ยังมั่นใจว่าจากปัจจัยบวกเหล่านี้จะดึงดูดให้นักลงทุนต่างชาติ โดยเฉพาะญี่ปุ่น จีน และสหรัฐเข้ามาลงทุนในไทย เพื่อเป็นฐานการผลิตเพื่อส่งออกสินค้าไปยังประเทศเพื่อนบ้านได้ ซึ่งจะทำให้ภาคเอกชนมีช่องทางการทำธุรกิจได้มากขึ้น โดยคาดการณ์การส่งออกของไทยปีนี้ขยายตัวร้อยละ 4-5

ส่วนอัตราแลกเปลี่ยนปีนี้เชื่อว่าค่าเงินบาทมีเสถียรภาพเมื่อเทียบกับค่าเงินของภูมิภาค เนื่องจากเงินทุนต่างชาติเคลื่อนไหวใน 2 ทิศทาง และไทยเป็นประเทศที่มีสถานะทางการเงินแข็งแกร่ง โดยเกินดุลบัญชีเดินสะพัดมาโดยตลอดและเป็นผู้ให้กู้สุทธิ เชื่อว่าต่างชาติสนใจลงทุนในไทย ดังนั้น จะมีเงินลงทุนไหลเข้าไทยมากขึ้น ทำให้ค่าเงินบาทแข็งค่าขึ้น โดยระหว่างปีอาจแข็งค่าถึง 32.50 บาทต่อดอลลาร์สหรัฐ ขณะที่เชื่อว่าหากเศรษฐกิจไทยขยายตัวได้ดีมีโอกาสที่คณะกรรมการนโยบายการเงิน (กนง.) จะปรับขึ้นดอกเบี้ยเดือนมิถุนายน โดยอาจจะปรับขึ้นร้อยละ 0.50 ปีนี้ ทำให้อัตราดอกเบี้ยนโยบายปรับขึ้นเป็นร้อยละ 2.50 ซึ่งถือว่าเป็นระดับที่ไม่ต่ำจนเกินไป.