ข่าวทันสถานการณ์ ผู้ว่าการ ธปท. ยังมองจีดีพีปี 58 ขยายตัวร้อยละ 4

ผู้ว่าการธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) ยังมองเศรษฐกิจไทยปีนี้จะขยายตัวได้ร้อยละ 4 แม้จะเปราะบาง แต่ก็ฟื้นตัวแบบค่อยเป็นค่อยไป

นายประสาร ไตรรัตน์วรกุล ผู้ว่าการ ธปท. กล่าวว่า ธปท. คาดว่าจีดีพีในปี 2558 จะขยายตัวได้ร้อยละ 4 แม้เศรษฐกิจโลกยังมีความผันผวนจากปัจจัยต่างๆ ทำให้กองทุนการเงินระหว่างประเทศ (ไอเอ็มเอฟ) คาดว่าจีดีพีโลกขยายตัวร้อยละ 3.5 สูงจากปีก่อนร้อยละ 3.3 โดยอาศัยปัจจัย 3 ส่วนขับเคลื่อนเศรษฐกิจ ประกอบด้วย เศรษฐกิจของสหรัฐยังเติบโตได้ดี จึง คาดว่าธนาคารกลางสหรัฐจะปรับอัตราดอกเบี้ยนโยบายในครึ่งปีหลัง อีกด้านคือ เศรษฐกิจของสหภาพยุโรป (อียู) และญี่ปุ่น ซึ่งยังมีความอ่อนแอ ในส่วนของยุโรปเผชิญปัจจัยเสี่ยงจากวามขัดแย้งในยูเครนกับรัสเซียจึงต้องใช้เงินอัดฉีดสู่ระบบได้ถึง 60,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ สำหรับญี่ปุ่นต้องแก้ปัญหาด้วยการเพิ่มเงินออกสู่ระบบด้วยเช่นกัน ส่วนต่อมาคือ เศรษฐกิจตลาดเกิดใหม่ทั้งจีน อินเดีย อาเซียน ยังชะลอตัวเพราะอยู่ในช่วงปรับโครงสร้างเศรษฐกิจจึงเกิดปัญหาเงินทุนเคลื่อนย้ายไปยังหลายประเทศ

ขณะที่ราคาน้ำมันตลาดโลกลดลงต่อเนื่อง จากสหรัฐประสบความสำเร็จในการผลิตน้ำมันจากหินดินดาน (Shell oil ,Shell Gas) ทำให้ปริมาณน้ำมันในตลาดโลกเพิ่มขึ้น ประเทศผู้เข้านำมัน ซึ่งมีขนาดเศรษฐกิจ 3/4 ของเศรษฐกิจโลก รวมถึงไทย จึงได้รับประโยชน์จากราคาน้ำมันลดลง ทำให้ต้นทุนการผลิตลดลง ค่าครองชีพลดลง แต่ต้องเผชิญกับรายได้เกษตรกรลดลงจากราคาสินค้าเกษตรลดลงตามราคาน้ำมัน ทำให้การบริโภคอาจลดลงไปบ้าง ขณะที่เศรษฐกิจไทยยังมีความเปราะบาง และฟื้นตัวแบบค่อยเป็นค่อยไป โดยมีแรงขับเคลื่อนจากภาคการส่งออก ภาคเอกชนค่อย ๆ ฟื้นตัวจากต้นทุนราคาน้ำมัน โดยเศรษฐกิจไทยครึ่งปีหลังจะขยายตัวดีขึ้น นักธุรกิจเริ่มมีความเชื่อมั่นจากการลงทุนโครงการขนาดใหญ่ภาครัฐ การประมูลโทรศัพท์มือถือระบบ 4 G การขยายการลงทุนของค้าส่งค้าปลีกในต่างจังหวัด ภาคก่อสร้างขยายการลงทุนตามการลงทุนสร้างรถไฟฟ้าหลายเส้นทาง ในด้านสถานการณ์การส่งออกในปีนี้จะดีขึ้นจากปีก่อน และต้องเน้นการส่งออกไปยังประเทศแถบชายแดน CLMV เพราะมีสัดส่วนการส่งออกถึงร้อยละ 9 แทบจะทดแทนการส่งออกไปยังยุโรปได้มีสัดส่วนร้อยละ 10 ส่วนกรณีอัตราเงินเฟ้อในเดือนมกราคมอยู่ในอัตราติดลบร้อยละ 0.4 เป็นเพียงอยู่ในช่วงอัตราเงินเฟ้อต่ำ ได้รับแรงผลักดันจากราคาน้ำมันลดลง จึงเป็นผลจากอุปทานลดลง ไม่ใช่เกิดจากอุปสงค์ความต้องการบริโภคของประชาชนลดลง และขณะนี้หลายหน่วยงานยังคาดการณ์ว่าเศรษฐกิจขยายตัว ธปท.คาดเติบโตร้อยละ 4 ไอเอ็มเอฟคาดเศรษฐกิจเติบโตด้วย ขณะนี้จึงเป็นช่วงของเศรษฐกิจฟื้นตัว เพราะหากเปิดปัญหาเงินฝืด เมื่อต้องเผชิญกับภาวะปัญหาการว่างงานสูง ค่าจ้างลดลง ประชาชนหยุดการบริโภค ธปท. จึงคาดว่า จะดูแลกรอบเงินตราเงินเฟ้อเฉลี่ยทั่วไปทั้งปีได้ตามเป้าหมาย ธปท.จึงต้องการดำเนินนโยบายการเงินผ่อนปรนเพื่อประคองเศรษฐกิจฟื้นตัวได้