หวั่นถูกเก็บภาษีทะลัก! สมาคมโรงแรมไทยผวากฎหมายที่ดิน

ผู้ประกอบการโรงแรมผวากฎหมายที่ดินและสิ่งปลูกสร้าง หวั่นถูกเรียกเก็บจากมูลค่าทรัพย์สิน ที่แต่ละโรงแรมล้วนตั้งในทำเลย่านธุรกิจ แต่สวนทางกับกิจการที่ยังซบเซา ขึ้นราคาห้องพักไม่ได้ พร้อมจี้จัดระเบียบคอนโด เหตุให้ห้องเช่ารายวัน นายสุรพงษ์ เตชะหรูวิจิตร นายกสมาคมโรงแรมไทย (ทีเอชเอ) เปิดเผยว่า จากการหารือร่วมกับ กระทรวงมหาดไทย ผลักดันร่างกฎกระทรวงว่าด้วยการนำอาคารประเภทอื่นมาใช้ประกอบธุรกิจโรงแรม พ.ศ..... เริ่มมีความคืบหน้า และคาดว่าจะมีผลบังคับใช้ในเร็วๆนี้ แต่มีประเด็นต่อเนื่องซึ่งก่อให้เกิดความกังวลต่อผู้ประกอบการอย่างมาก โดยได้รับการติดต่อมาจากสมาคมอาคารชุดไทย เพื่อหารือเรื่องการรับมือกับร่างกฎหมายภาษีที่ดินและสิ่งปลูกสร้าง ที่มีแนวคิดจะจัดเก็บภาษีในเพดานไม่เกิน 4% จากมูลค่าทรัพย์สิน ซึ่งทั้งกลุ่มผู้ประกอบการอาคารชุด และโรงแรมต่างๆ จะได้รับผลกระทบอย่างรุนแรง

ทั้งนี้ เนื่องจากส่วนใหญ่ธุรกิจประเภทนี้จะตั้ง อยู่ในทำเลสำคัญต่างๆ ซึ่งมีมูลค่าที่ดินสูง เช่น ย่านสีลม ที่มีการปรับราคาเพิ่มขึ้นทุกปี แต่ในส่วนของ ราคาห้องพักในไทยนั้น ไม่สามารถเพิ่มขึ้นได้สูงเพราะมีผลกระทบที่เป็นปัจจัยลบมาต่อเนื่อง ดังนั้นหากปรับเกณฑ์โดยยึดจากมูลค่าทรัพย์สิน จะทำให้เดือดร้อนจนบางรายอาจมีปัญหาสภาพคล่องถึงปิดกิจการได้เช่นกัน นอกจากนั้น ทีเอชเอเริ่มเตรียมมาตรการแก้ไขปัญหาห้องพักเถื่อนในคอนโดมิเนียมเป็นลำดับต่อไป เพราะปัจจุบันมีเจ้าของห้องพัก ได้เปิดบริการให้เช่ารายวัน ขณะนี้ได้รับเรื่องร้องเรียนมาจากนิติบุคคลและลูกบ้านของคอนโดฯแห่งหนึ่งว่าได้รับความเดือดร้อน จากการที่มีนักท่องเที่ยวต่างชาติผลัดเปลี่ยนเข้าออกห้องพักในอาคารเดียว หรือชั้นเดียวกัน ทำให้รู้สึกไม่ปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สิน และบางครั้งเกิดการจัดปาร์ตี้รบกวน นายสุรพงษ์กล่าวต่อว่า ตลอดสัปดาห์ที่ผ่านมา ได้ช่วยกลุ่มผู้เดือดร้อน โดยเข้ายื่นหนังสือกับศูนย์ดำรงธรรม และนำเสนอปัญหากับกรมการปกครอง กระทรวงมหาดไทยแล้ว และได้รับคำมั่นว่าจะรวบรวมหลักฐาน และนำมาเทียบกับข้อกฎหมายที่มีอยู่ เพื่อเร่งดำเนินการจัดการเอาผิดกับคอนโดฯดังกล่าวภายในสัปดาห์นี้ ซึ่งทางทีเอชเอวางเป้าหมายเบื้องต้น ทำให้เกิดการจับกุมผู้กระทำผิดเป็นกรณีตัวอย่าง และเป็นการแจ้งทางอ้อมให้ผู้ที่ยังละเมิดกฎหมายได้รับทราบว่า ต่อไปจะมีการจับกุม รวมถึงหามาตรการทางกฎหมายมาป้องกันที่เข้มงวดเป็นลำดับต่อไป “เชื่อว่าหากมีการจับกุมให้เห็น 2-3 คดี คนที่ยังทำผิด จะได้หยุดการกระทำดังกล่าวก่อนจะมีความผิดโทษหนัก เพราะการนำที่พักซึ่งไม่จดทะเบียนเป็นธุรกิจโรงแรมอย่างถูกต้อง มาปล่อยให้ลูกค้ารายวัน นอกจากจะผิดกฎหมายแล้ว ยังจะเสี่ยงไปพัวพันกับการทำงานของหน่วยงานอื่นๆ อาทิ สำนักงานตรวจคนเข้าเมือง ที่ต้องตรวจตราชาวต่างชาติที่เข้ามา และอาจใช้วิธีการผิดกฎหมาย หรือเข้ามาเพื่อจุดประสงค์ที่ไม่ดี และที่พักเหล่านี้ก็ไม่มีการจัดเก็บข้อมูลตรวจสอบที่เหมือนโรงแรมทั่วไป และยังเกี่ยวข้องกับกรมสรรพากร ที่จะเสียรายได้จากการจัดเก็บภาษี หากมีคอนโดฯอาศัยช่องว่างนี้ มาแข่งขันธุรกิจกับโรงแรมที่ถูกกฎหมาย โดยขณะนี้กรมสรรพากรเองก็เริ่มให้ความสนใจกับกรณีมากขึ้นแล้ว” นอกจากนี้ เพื่อให้การบังคับใช้กฎหมายธุรกิจโรงแรมที่กำลังแก้ไข มีการบังคับใช้เต็มที่ และเตรียมนำรายชื่อโรงแรมที่ทำผิดกฎหมาย ซึ่งทีเอชเอ ได้รวบรวมและส่งมอบให้ผู้ว่าราชการจังหวัด เพื่ออำนวยความสะดวกให้เจ้าหน้าที่ผู้บังคับใช้กฎหมาย โดยหลังจากนี้หวังว่า การกวาดล้างอย่างเป็นระบบ และต่อเนื่อง จะไม่ทำให้เกิดปัญหาโรงแรมที่ทำผิดถูกจับกุม แต่กลับมาเปิดให้บริการซ้ำอีกในอีกไม่กี่เดือนต่อมา โดยมั่นใจว่าหากสามารถรวบรวมห้องพักนอกกฎหมายให้เข้ามาจดทะเบียนถูกต้องได้ ประกอบกับเริ่มมาตรการจัดการกับคอนโดมิเนียมปล่อยให้เช่ารายวันอีกทาง จะช่วยยกระดับราคาห้องพัก ให้กับธุรกิจโรงแรมไทยได้ในปี 2559 เป็นต้นไป โดยให้อยู่ในระดับเหมาะสมทัดเทียมกับเพื่อนบ้าน จากที่ผ่านมาไทยมีราคาขายห้องพักเฉลี่ยต่ำกว่า.