บอร์ด ทอท.อนุมัติปรับแผยขยายสนามบินสุวรรณภูมิ เฟส 2 มูลค่า 6.1 หมื่นล้านบาท ลดลง 764 ล้านบาท แยกก่อสร้างเป็น 2 ช่วง เริ่มดำเนินการปี 2559-2563 รองรับผู้โดยสาร 85 ล้านคนต่อปี พร้อมเสนอกระทรวงคมนาคมพิจารณา ก.พ. ก่อนเข้า ครม.อนุมัติ
นายประสงค์ พูนธเนศ อธิบดีกรมสรรพากร ในฐานะประธานคณะกรรมการ (บอร์ด) บริษัท ท่าอากาศยานไทย จำกัด (มหาชน) หรือ ทอท. เปิดเผยว่า เมื่อวันที่ 18 กุมภาพันธ์ ที่ประชุมเห็นชอบการปรับแผนการลงทุนขยายท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ ระยะที่ 2 ที่เคยอนุมัติกรอบวงเงิน 62,503.214 ล้านบาท โดยได้ปรับแบ่งการดำเนินงานเป็น 2 ช่วง และปรับลดวงเงินลงเหลือ 61,738.420 ล้านบาท หรือลดลงประมาณ 764 ล้านบาท ซึ่งขั้นตอนหลังจากนี้จะสรุปเสนอเรื่องไปยังกระทรวงคมนาคมพิจารณาภายในเดือนกุมภาพันธ์นี้ รวมถึงสำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ (สศช.) เพื่อพิจารณาตามขั้นตอน และเสนอคณะรัฐมนตรี (ครม.) ต่อไป นายประสงค์กล่าวว่า สำหรับแผนขยายสุวรรณภูมิระยะที่ 2 ช่วงแรก ประกอบด้วย 1.งานก่อสร้างลานจอดอากาศยาน 28 หลุมจอด เป็นหลุมจอดระยะไกลสำหรับเที่ยวบินระหว่างประเทศ แบ่งเป็น 8 หลุมจอด รองรับเครื่องบินเอ 380 และอีก 20 หลุมจอด รองรับเครื่องบินโบอิ้ง 747-400 พร้อมกับก่อสร้างทางขับเข้าสู่ลานจอดและสิ่งอำนวยความสะดวก 2.งานก่อสร้างอุโมงค์ส่วนต่อขยายเพื่อเป็นถนนเชื่อมต่อในเขตปฏิบัติการบิน รวมทั้งระบบไฟฟ้าเครื่องกลภายในอุโมงค์ที่จะรองรับระบบต่างๆ ในอนาคต 3.งานระบบไฟฟ้าแรงสูงและสถานีไฟฟ้าย่อย ระบบจำหน่าย ระบบประปา ระบบน้ำเสีย และระบบการจัดการขยะ คาดว่าจะเริ่มก่อสร้างภายในเดือนมีนาคม 2559 กำหนดแล้วเสร็จภายในเดือนกุมภาพันธ์ 2561

นายประสงค์กล่าวว่า ช่วงที่สอง ประกอบด้วย 1.งานก่อสร้างอาคารเทียบเครื่องบินรองหลังที่ 1 2.งานก่อสร้างส่วนขยายอาคารผู้โดยสารหลักด้านทิศตะวันออก 3.งานก่อสร้างอาคารสำนักงานสายการบินและที่จอดรถด้านทิศตะวันออก 4.งานติดตั้งระบบขนส่งผู้โดยสาร คาดว่าจะเริ่มก่อสร้างในเดือนตุลาคม 2560 กำหนดแล้วเสร็จเมษายน 2563 นายประสงค์กล่าวว่า ในส่วนของการออกแบบและก่อสร้างอาคารผู้โดยสารหลังที่ 2 ด้านเหนือ วงเงิน 27,684.392 ล้านบาท จะดำเนินการก่อสร้างได้ภายในปี 2558 กำหนดแล้วเสร็จในปี 2560 ทำให้รองรับผู้โดยสารได้เพิ่มอีก 25 ล้านคนต่อปี ทำให้ขีดความสามารถท่าอากาศยานสุวรรณภูมิรวมอาคารผู้โดยสารเดิมเป็น 70 ล้านคนต่อปี และเมื่อรวมกับอาคารเทียบเครื่องบินรองหลังที่ 1 ที่รองรับผู้โดยเพิ่มอีก 15 ล้านคน จะทำให้รองรับผู้โดยสารได้รวม 85 ล้านคนต่อปี เพียงพอจะรองรับการเติบโตของผู้โดยสารที่เพิ่มขึ้นในอนาคต ส่วนโครงการก่อสร้างทางวิ่งสำรองความยาว 2,900 เมตร วงเงิน 20,243 ล้านบาท คาดว่าจะเริ่มก่อสร้างได้ภายในปี 2558 กำหนดแล้วเสร็จปี 2560 จากนั้นจะเริ่มดำเนินการก่อสร้างทางวิ่งเพิ่มความยาวเป็น 3,700 เมตร เพี่อใช้เป็นรันเวย์ที่ 3 ซึ่งคาดว่าจะดำเนินการแล้วเสร็จในปี 2562 ซึ่งจะรองรับจำนวนเที่ยวบินได้เพิ่มขึ้น นายประสงค์กล่าวว่า แผนการก่อสร้างวิ่งสำรอง และการก่อสร้างอาคารผู้โดยสารหลังใหม่ ด้านเหนือ ทอท.ได้เสนอเรื่องไปยังกระทรวงคมนาคมในช่วงต้นเดือนกุมภาพันธ์ที่ผ่านมา คาดว่าจะนำเข้าสู่การพิจารณาของ ครม.ในเดือนนี้ จากนั้นจึงจะเปิดประกวดราคาเพื่อดำเนินโครงการต่อไป

ขอบคุณข้อมูลจาก : มติชน