นายชัยวัฒน์ โควาวิสารัช กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท บางจากปิโตรเลียม จำกัด (มหาชน) เปิดเผยถึงวิสัยทัศน์ในการบริหารงาน ว่า บางจากจะยังคงดำเนินธุรกิจปิโตรเลียมและธุรกิจต่อเนื่อง ควบคู่กับการมีส่วนร่วมในการพัฒนาชีวิตความเป็นอยู่ที่ดีขึ้นของสังคมไทย แต่จะมีการปรับตัวให้ทันต่อการเปลี่ยนแปลงของปัจจัยแวดล้อมภายในและภายนอก เพิ่มประสิทธิภาพในการแข่งขันทั้งในระดับประเทศและอาเซียน เพื่อให้บางจากฯ เป็นองค์กรที่ทันสมัยเติบโตอย่างมั่นคงและยั่งยืน ตามยุทธศาสตร์ 3S ดังนี้ 1.Security เป็นการสร้างความมั่นคงด้านพลังงานให้กับประเทศ โดยขยายการลงทุนไปยังธุรกิจต้นน้ำ เพื่อจัดหาพลังงานให้เพียงพอกับความต้องการใช้ของภาคธุรกิจและประชาชน อันเป็นการต่อยอดในส่วนของธุรกิจปิโตรเลียม
2.Stability เสริมสร้างเสถียรภาพด้านพลังงานและการเงิน ด้วยการลงทุนด้านพลังงานทดแทนทั้งในและต่างประเทศ เช่น พลังงานใต้พื้นพิภพ (Geothermal) พลังงานชีวมวล (Biomass) พลังงานชีวภาพ (Biogas) พลังงานจากเซลล์แสงอาทิตย์ (Solar cell) ทั้งในและต่างประเทศ และ 3.Sustainability เป็นการสร้างความยั่งยืนให้กับองค์กร โดยเพิ่มรายได้จากธุรกิจ Non-Oil ในสถานีบริการน้ำมันบางจาก ซึ่งจะพัฒนาให้เป็นรูปแบบเฉพาะในลักษณะ Bangchak Model ตอบโจทย์ความต้องการของผู้บริโภคยุคใหม่ที่หันมาดูแลใส่ใจสุขภาพมากขึ้น ในขณะเดียวกันเป็นการทำธุรกิจเพื่อสังคม Social Enterprise อันเป็นการต่อยอดจาก CSR / CSV เพื่อสร้างงาน สร้างรายได้ พร้อมส่งเสริมให้คนในชุมชนร่วมกันรักษาสิ่งแวดล้อมในพื้นที่ที่ตนอาศัยอยู่ ตามแผนการดำเนินงานในปี 2558 คาดว่าจะมีกำไรก่อนหักดอกเบี้ยภาษีและค่าเสื่อม (EBITDA) ไม่ต่ำกว่า 10,400ล้านบาท และจะเพิ่มเป็น 25,000 ล้านบาทในปี 2563 โดยจะขยายการลงทุนทั้งในและต่างประเทศ เช่น ขยายธุรกิจพลังงานที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม (Green Power) มีกำลังการผลิตเพิ่มประมาณ 100-150 เมกะวัตต์ เพื่อเป็นการเพิ่มความมั่นคงทางพลังงาน เพิ่มรายได้และกระจายความเสี่ยงธุรกิจเดิม สร้างความมั่นคงให้กับองค์กร พร้อมพัฒนาเพิ่มศักยภาพโรงกลั่นให้มีความทันสมัย ปลอดภัย เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม (YES-R Project) และจะเพิ่มกำลังการกลั่นเป็น 105,000 บาร์เรลต่อวัน คาดว่าจะมีค่าการกลั่นเฉลี่ย 6-7 ดอลลาร์สหรัฐฯ ต่อบาร์เรล ส่วนด้านการตลาด ตั้งเป้าการจำหน่ายผลิตภัณฑ์น้ำมันกว่า 450 ล้านลิตรต่อเดือน พร้อมขยายสถานีบริการน้ำมันเพิ่มขึ้นอีก 70 แห่ง โดยเป็นสถานีบริการขนาดใหญ่ (Flagship) 2 แห่ง ซึ่งในอีก 6 ปีข้างหน้า จะเพิ่มสถานีบริการน้ำมันทั่วประเทศไม่ต่ำกว่า 400 แห่ง หรือเพิ่มเป็นกว่า 1,500 แห่ง เพื่อก้าวสู่ The Most Admired Brand ภายในปี 2563 ในปี 2558 จะเพิ่ม EBITDA ของธุรกิจ Non-oil จาก 145 ล้านบาท เป็นกว่า 200 ล้านบาท หรือเพิ่มขึ้นร้อยละ 40 นอกจากนี้ นอกจากขยายร้านสะดวกซื้อบิ๊กซีมินิเพิ่มขึ้นไม่น้อยกว่า 100 แห่ง จากปัจจุบัน 92 แห่ง และขยายร้านกาแฟอินทนิลบางจากอีก 100 แห่ง จากที่มีอยู่ 343แห่งแล้วยังจะพัฒนาธุรกิจใหม่ เช่น อินทนิล Organic หรือ Grocery Store เพื่อตอบสนองวิถีชีวิตคนรุ่นใหม่ให้ได้รับความสะดวกสบายยิ่งขึ้น สำหรับผลการดำเนินงานในปี 2557 บริษัท บางจากฯ มี EBITDA 5,162 ล้านบาท จากผลการดำเนินงานธุรกิจตลาดและธุรกิจผลิตไฟฟ้าจากเซลล์แสงอาทิตย์อยู่ในเกณฑ์ดี อย่างไรก็ตาม บริษัทฯ ยังคงได้รับผลกระทบจากการขาดทุนสต๊อกน้ำมัน ส่งผลให้ EBITDA ลดลงจากปีก่อนหน้า4,300 ล้านบาท

ขอบคุณข้อมูลจาก : สำนักข่าวไทย