ประธานกรรมการบริหารธนาคารกรุงเทพ ชี้คณะกรรมการนโยบายการเงิน(กนง.)ยังไม่จำเป็นลดดอกเบี้ยนโยบาย แม้หลายประเทศเพิ่มมาตรการคิวอี จีนลดดอกเบี้ย โดยสิ่งที่จะต้องติดตามและมีผลหลักคือ สหรัฐจะปรับขึ้นดอกเบี้ยเมื่อไร หลังมีทิศทางชะลอ นายโฆสิต ปั้นเปี่ยมรัษฎ์ ประธานกรรมการบริหาร ธนาคารกรุงเทพ จำกัด(มหาชน) กล่าวถึงกรณีจีนปรับลดอัตราดอกเบี้ยเงินกู้และอัตราดอกเบี้ยเงินฝากระยะเวลา 1 ปีลงร้อยละ 0.25 เป็นร้อยละ 5.35 และร้อยละ 2.5 ตามลำดับ เพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจที่ชะลอการเติบโต โดยมีผลบังคับใช้ตั้งแต่วันที่ 1 มีนาคม 2558ว่าไม่กระทบต่อประเทศไทย เป็นเรื่องที่จีนต้องการเห็นเศรษฐกิจเติบโตตามเป้าหมายที่กำหนดไว้ที่ร้อยละ 7 จึงลดดอกเบี้ย ขณะเดียวกันการที่หลายประเทศออกมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจด้วยคิวอี เสริมสภาพคล่องทำให้เงินทุนเคลื่อนย้าย ประเทศเหล่านี้ส่วนใหญ่เป็นประเทศรายได้สูงอยู่แล้ว ก็ไม่ส่งผลให้ไทยต้องปรับนโยบายตามด้วยการลดดอกเบี้ย
“หากไทยลดดอกเบี้ย ทำให้ดอกเบี้ยต่ำสภาพคล่องสูงเป็นเรื่องที่ต้องระมัดระวังหากใช้จ่ายและลงทุนเกินตัว โดยสิ่งที่ต้องจับมามองและกระทบทั่วโลกคือสหรัฐจะปรับขึ้นดอกเบี้ยเมื่อไหร่ จากที่ขณะนี้ประกาศชะลอการปรับขึ้น หากขึ้นก็กระทบไทยแน่”นายโฆสิตกล่าว นายโฆสิต ยังเชื่อมั่นว่าการปล่อยสินเชื่อของธนาคารกรุงเทพ จะขยายตัวตามเป้าหมายร้อยละ3-5 ในปีนี้ แม้ว่าเดือนมกราคมเศรษฐกิจไทยจะซบเซาและยอดปล่อยสินเชื่อลดลง แต่คาดว่าช่วงที่เหลือของปียอดปล่อยสินเชื่อจะได้ตามเป้าหมาย จากที่รัฐบาลเร่งงบทุน ขณะที่เดือนกุมภาพันธ์ประชาชนก็มียอดใช้จ่ายเพิ่มขึ้น จากเทศกาลตรุษจีน จึงเชื่อมั่นจีดีพีไทยปีนี้จะขายตัวร้อยละ 3-4

ขอบคุณข้อมูลจาก : สำนักข่าวไทย