เอกชนร้องพาณิชย์ยุติไต่สวนทุ่มตลาดเหล็กลวดคาร์บอนต่ำจากจีน
ผู้นำเข้าเหล็กลวดคาร์บอนต่ำจากจีนร้องกระทรวงพาณิชย์ยุติไต่สวนการทุ่มตลาด ยันถ้าประกาศเก็บภาษีเอดี อุตสาหกรรมผู้ใช้หลายพันราย แรงงานกว่าแสนคน และผู้บริโภคได้รับผลกระทบแน่ ชี้นำเข้าสินค้าจีนคุณภาพดีใช้เทคโนโลยีสูงกว่าทำตั้งราคาขายถูกได้ ส่งมอบตรงเวลา
นายสุเทพ ก้องธรณินทร์ สมาชิกสมาคมโลหะไทย เปิดเผยว่า สมาคมฯ ร่วมกับชมรมเหล็กลวดคาร์บอนต่ำ ยื่นหนังสือต่อกรมการค้าต่างประเทศ เพื่อเรียกร้องให้ยุติการเปิดไต่สวนการทุ่มตลาดสินค้าเหล็กลวดคาร์บอนต่ำ เหล็กลวดคาร์บอนต่ำที่เจือธาตุอื่น เหล็กลวดคาร์บอนต่ำ สำหรับงานย้ำหัวและงานทุบขึ้นรูปเย็น และเหล็กลวดคาร์บอนสำหรับงานย้ำหัวและงานทุบขึ้นรูปเย็นที่เจือ ธาตุอื่น ที่นำเข้าจากจีน หากเปิดการไต่สวนจนได้ผลสรุปให้มีการเรียกเก็บภาษีตอบโต้การทุ่มตลาด (เอดี) สินค้าดังกล่าวจากจีนจะทำให้สมาคมฯ และชมรมฯ ซึ่งเป็นผู้นำเข้ามาผลิตเป็นสินค้าสำเร็จรูปใช้ในประเทศ และส่งออก ได้รับผลกระทบจนอาจต้องประสบปัญหาขาดทุนและแรงงานในอุตสาหกรรมที่เกี่ยวข้องกว่าแสนคนอาจได้รับผลกระทบต้องนำเข้าเหล็กลวดคาร์บอนต่ำจากจีน เพราะมีคุณภาพดีกว่าสินค้าชนิดเดียวกันที่ผลิตได้ในประเทศ เนื่องจากใช้เทคโนโลยีในการผลิตที่ทันสมัยกว่า ทำให้สามารถขายได้ในราคาต่ำกว่าสินค้าที่ผลิตได้ในประเทศมาก เช่น ราคาในประเทศตันละ 18,800 บาท หรือประมาณตันละ 570 ดอลลาร์สหรัฐ แต่สินค้าที่นำเข้าจากจีนตันละประมาณกว่า 400 ดอลลาร์สหรัฐเท่านั้น ยืนยันได้ว่า ไม่ได้มีการทุ่มตลาด หรือขายต่ำกว่าต้นทุนการผลิตและมีหลายขนาดที่ต้องการ พร้อมทั้งส่งมอบตรงเวลาอีกด้วย
สำหรับสาเหตุที่สินค้าในไทยคุณภาพด้อยกว่า เพราะใช้เศษเหล็กเป็นวัตถุดิบในการผลิตและใช้เทคโนโลยีการผลิตที่ล้าสมัย และผู้ผลิตส่วนใหญ่ผลิตเหล็กเส้นป้อนตลาดมากกว่า เพราะขายดีกว่า ทำให้ผลิตเหล็กลวดคาร์บอนต่ำน้อยไม่เพียงพอต่อความต้องการใช้ในประเทศ และมีขนาดไม่หลากหลาย ดังนั้น หากเรียกเก็บภาษีเอดีสินค้าดังกล่าวจากจีน ผู้นำเข้าและผู้ใช้เดือดร้อนมาก ทำให้ต้นทุนนำเข้าเหล็กชนิดนี้สูงขึ้นและต้องขึ้นราคาขายสินค้ากระทบผู้บริโภคในประเทศและเมื่อผลิตสินค้าสำเร็จรูปส่งออกไปต่างประเทศ ก็ไม่สามารถแข่งขันกับสินค้าจากคู่แข่ง เช่น เวียดนาม ที่ใช้เหล็กชนิดนี้จากจีนได้ จนอาจต้องปิดกิจการ หรือย้ายฐานการผลิตไปประเทศเพื่อนบ้านที่มีต้นทุนต่ำกว่า ที่สำคัญยังจะทำให้แรงงานกว่าแสนคนในอุตสาหกรรมผู้ใช้ได้รับผลกระทบด้วย
อย่างไรก็ตาม ปัจจุบันมีการนำเข้าเหล็กลวดคาร์บอนต่ำจากจีนจำนวนมากและปริมาณการนำเข้าเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง เพราะราคาสินค้าจากจีนต่ำและอุตสาหกรรมผู้ใช้เหล็กดังกล่าวภายในประเทศขยายตัวมากขึ้น โดยมีอุตสาหกรรมที่ใช้เหล็กลวดคาร์บอนต่ำผลิตเป็นสินค้าใช้ในประเทศและส่งออกรวมกันกว่า 1,000 ราย สามารถใช้ผลิตเป็นสินค้าที่หลากหลาย ได้แก่ อุตสาหกรรมก่อสร้าง เช่น น็อต ตะปู อุตสาหกรรมรถยนต์ คอมพิวเตอร์ ทำตะแกรงปิ้งย่าง รถเข็นในห้างสรรพสินค้า
ขอบคุณข้อมูลจาก : สำนักข่าวไทย
Discussion
Follow breaking news Investment property articles on Facebook, click here.