นักธุรกิจยุโรปในประเทศไทยเรียกร้องไทยลดอุปสรรคทางการค้าเพื่อสร้างบรรยากาศการลงทุน ขณะที่เศรษฐกิจของไทยยังไม่มีสัญญาณฟื้นตัว ส่งผลให้ดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคลดลงต่อเนื่องเป็นเดือนที่ 2 ผู้บริโภคยังคงกังวลต่อความไม่แน่นอนของการฟื้นตัวทางเศรษฐกิจ หลังจากที่ภาคการส่งออกและการท่องเที่ยวยังฟื้นตัวไม่ชัดเจนและค่าเงินบาทมีแนวโน้มแข็งค่าขึ้น นอกจากนี้ราคาสินค้าเกษตรยังคงตกต่ำและการเบิกจ่ายงบประมาณของภาครัฐยังล่าช้า ส่งผลให้สำรวจดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคของศูนย์พยากรณ์เศรษฐกิจและธุรกิจ มหาวิทยาลัยหอการค้าไทย ในเดือนกุมภาพันธ์ปรับลดลงเป็นเดือนที่ 2
สัญญาณเศรษฐกิจที่ยังไม่ฟื้นตัวชัดเจน ทำให้ศูนย์พยากรณ์เศรษฐกิจอาจจะต้องปรับลดคาดการณ์อัตราการขยายตัวทางเศรษฐกิจของไทย เหลือร้อยละ 3 - 3.5 จากร้อยละ 3.5 - 4 ขณะที่นักธุรกิจของสหภาพยุโรปในไทย เห็นว่าขณะนี้ไทยยังคงเผชิญกับความเสี่ยงของเศรษฐกิจโลกและการเมืองภายในประเทศ ที่เป็นปัจจัยกดดันเศรษฐกิจของไทยและขณะนี้ไทยยังติดกับดักประเทศรายได้ปานกลาง จึงได้เสนอให้ไทยเร่งฟื้นการเจรจาเขตการค้าเสรี หรือ เอฟทีเอ, ไทย-อียู, ปรับปรุงแก้ไขกฎหมายสรรพสามิตซึ่งยังล้าหลัง รวมถึงการประเมินภาษีที่ต้องโปร่งใสและไม่เลือกปฏิบัติ โดยประเด็นเหล่านี้ยังคงสร้างความกังวลต่อนักธุรกิจยุโรปในไทย พร้อมเสนอให้ไทยปรับปรุงกฎหมายภาษีศุลกากรให้ทันสมัย ลดความซ้ำซ้อน ซึ่งจะช่วยลดปัญหาการทุจริตจากเจ้าหน้าที่รัฐ และผ่อนคลายเงื่อนไขการค้าเพื่อความสะดวกในการทำธุรกิจมากขึ้น เช่น ออกวีซ่านักธุรกิจไม่ต้องใช้เวิร์ค เพอร์มิต หรือใบอนุญาตทำงาน รวมถึงอนุญาตให้ชาวต่างชาติเป็นเจ้าของที่ดินได้

ขอบคุณข้อมูลจาก : Thai PBS