เอเอฟพี - ราคาน้ำมันปิดลบแรง ส่วนทองคำร่วงเกือบ 32 ดอลลาร์เมื่อวันศุกร์(6มี.ค.) หลังข้อมูลภาคแรงงานที่สดใสดันสกุลเงินอเมริกาแข็งค่าขึ้น นอกจากนี้แล้วตัวเลขดังกล่าวยังฉุดให้วอลล์สตรีทปิดลบหนัก ท่ามกลางความกังวลว่าเฟดจะขึ้นดอกเบี้ยเร็วๆนี้ น้ำมันดิบเวสต์เทกซัสอินเตอร์มีเดียต หรือไลต์สวีตครูด งวดส่งมอบเดือนเมษายน ลดลง 1.15 ดอลลาร์ ปิดที่ 49.61 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล ส่วนเบรนท์ทะเลเหนือลอนดอน งวดส่งมอบเดือนเดียวกัน ลดลง 75 เซนต์ ปิดที่ 59.73 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล ความเคลื่อนไหวของราคาน้ำมัน มีขึ้นหลังจากข้อมูลภาคแรงงานของสหรัฐฯออกมาแข็งแกร่งเกินคาดหมาย โดยเศรษฐกิจใหญ่ที่สุดของโลกแห่งนี้ มีการจ้างงานเพิ่มเติม 295,000 อัตราในเดือนกุมภาพันธ์ ขณะที่อัตราการว่างงานลดลงสู่ระดับร้อยละ 5.5 ต่ำที่สุดนับตั้งแต่เดือนพฤษภาคม 2008
ตัวเลขภาคแรงงานที่ออกมาสดใส ผลักให้่ดอลลาร์แข็งค่าที่สุดในรอบ 11 ปีครึ่งเมื่อเทียบกับยูโร ซึ่งปัจจัยนี้ส่งผลให้น้ำมันดิบมีราคาแพงขึ้นสำหรับผู้ซื้อที่ใช้สกุลเงินต่างประเทศ ทั้งนี้ดอลลาร์ที่แข็งค่าขึ้นจากข้อมูลภาคแรงงานสหรัฐฯ ส่งกระทบแบบเดียวกันมายังตลาดทองคำ และฉุดให้ราคาทองคำเมื่อวันศุกร์(6มี.ค.) ร่วงลงอย่างหนัก โดยทองคำตลาดโคเม็กซ์ ลดลง 31.90 ดอลลาร์ ปิดที่ 1,164.30 ดอลลาร์ต่อออนซ์ ด้านตลาดหุ้นสหรัฐฯในวันศุกร์(6มี.ค.) ปิดลบหนัก หลังข้อมูลภาคแรงงานอันแข็งแกร่งของอเมริกา กระพือความคาดหมายว่าธนาคารกลางสหรัฐฯ(เฟด) อาจปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยเร็วๆนี้ ดาวโจนส์ ลดลง 278.94 จุด (1.54 เปอร์เซ็นต์) ปิดที่ 17,856.78 จุด เอสแอนด์พี ลดลง 29.78 จุด (1.42 เปอร์เซ็นต์) ปิดที่ 2,071.26 จุด แนสแดค ลดลง 55.44 จุด (1.11 เปอร์เซ็นต์) ปิดที่ 4,927.37 จุด นักวิเคราะห์มองว่าตัวเลขการจ้างงานล่าสุด ที่ถูกเผยแพร่ออกมาตามหลังข้อมูลที่สดใสอื่นๆในภาคแรงงาน เพิ่มโอกาสให้เฟดจะขยับขึ้นอัตราดอกเบี้ยเร็วขึ้น จากเดิมที่วางกรอบไว้ในเดือนมิถุนายน ขอขอบคุณข้อมูลจาก: ผู้จัดการ