ถึงยุคราคาโรงแรมทั่วโลกดีดตัวขึ้นต่อเนื่อง

ราคาโรงแรมทั่วโลกอยู่ในช่วงขาขึ้น ขยับเพิ่มต่อเนื่อง 5 ปีติดต่อกัน หลังร่วงครั้งเกิดวิกฤติการเงินในปี 2008 Hotels.com ระบุปี 2014 รับเพิ่มขึ้นจากปีก่อน 3% ผลจากเศรษฐกิจที่กระเตื้องขึ้น ฉุดให้คนใช้จ่ายเพื่อท่องเที่ยวมากตามไปด้วย Hotel Price Index (HPI) ของ Hotels.com ชี้ว่าเมื่อสิ้นปี 2014 ค่า HPI ทั่วโลกอยู่ที่ 113 มากกว่าในปี 2004 ปีแรกที่จัดทำดัชนี 13 แต้ม เท่ากับดัชนีในปี 2008 แต่ยังต่ำว่าค่าดัชนีปี 2007 ซึ่งสูงที่สุด 117 Johan Svanstrom ประธาน Hotels.com กล่าวว่า นี่เป็นเรื่องดีสำหรับผู้บริโภค อุตสาหกรรมการท่องเที่ยวในแต่ละปีก็จะแตกต่างกันไป ในปีที่ผ่านมามีทั้งจุดส่งเสริมและความท้าทาย งานระดับโลกอย่างโอลิมปิกฤดูหนาวและฟุตบอลโลกช่วยดูดนักท่องเที่ยวให้เดินทางไปที่ใหม่ๆ ขณะที่เหตุการณ์ที่ไม่คาดคิดอย่างเชื้ออีโบล่าระบาด เที่ยวบิน MH370 ของมาเลเซียแอร์ไลน์หายสาปสูญ รวมทั้งสูญเสียเที่ยวบิน MH17 ก็ส่งผลกระทบเช่นกัน ดัชนี HPI คิดคำนวณทั้งหมด 6 ภูมิภาค มีการเติบโตใน 4 ภูมิภาค คงที่และลดลงอย่างละหนึ่งภูมิภาค อเมริกาเหนือ เติบโต 5% ดัชนี 116 แคริบเบียน เติบโต 4% ดัชนี 137 ยุโรปและตะวันออกกลาง เติบโต 4% ดัชนี 108 ลาตินอเมริกา เติบโต 2% ดัชนี 131 แปซิฟิก เติบโต 0% ดัชนี 123 เอเชีย เติบโต -2% ดัชนี 104 ทั่วโลก เติบโต 3% ดัชนี 113 ภูมิภาคอเมริกาเหนือเติบโตสูงสุด 5% เนื่องจากเศรษฐกิจที่เข้มแข็ง และเงินดอลลาร์ที่แข็งค่าขึ้น ขณะที่แคริบเบียนสร้างสถิติของตัวเองด้วยคะแนนดัชนี 137 สูงสุดของภูมิภาคนี้ตั้งแต่เริ่มคิดคำนวณ เนื่องจากเป็นแหล่งท่องเที่ยวของชาวอเมริกัน ส่วนยุโรปและตะวันออกกลางก็มีอัตราเติบโตเร็วที่สุดในรอบ 7 ปี หลายประเทศรายงานว่าในปีที่ผ่านมามีจำนวนนักท่องเที่ยวมากที่สุด และลาตินอเมริกาที่เติบโต 2% มาจากบราซิลซึ่งเป็นเจ้าภาพฟุตบอลโลก ได้เตรียมความพร้อมด้านที่พักได้ดีเกินความคาดหมาย ดัชนีของภูมิภาคแปซิฟิกที่ไม่เติบโต แต่ด้วยค่าเงินดอลลาร์ออสเตรเลียที่ยังคงอ่อนตัว สะท้อนว่าจะเป็นแหล่งดึงดูดนักท่องเที่ยวได้มากขึ้นในปี 2015 เช่นเดียวกับเอเชียที่ลดลง 2% ก็ถือว่าสถานที่ท่องเที่ยวที่คุ้มค่าเงินมากที่สุดในโลก และยังคงเป็นเช่นนี้ต่อไปอีกระยะ Svanstrom กล่าวต่อว่า ในปี 2014 นักท่องเที่ยวมากกว่า 1.1 พันล้านคนเดินทางท่องเที่ยวต่างประเทศ มากกว่าปีก่อนหน้าเกือบถึง 5% ขณะที่ตัวเลขคนเดินทางท่องเที่ยวภายในประเทศรวมกันทั่วโลกมากกว่า 4-5 เท่า การท่องเที่ยวเป็นอุตสาหกรรมที่มีการแข่งขันสูงและฟื้นตัวได้เร็ว โดยมีแต่ละประเทศแข่งขันกันดึงดูดนักท่องเที่ยวที่พร้อมจะจ่าย ด้วยการปรับปรุงระบบสาธารณูปโภค เพิ่มตัวเลือกของที่พัก และลดความเข้มงวดในการออกวีซ่า