กฟผ.เตรียมเปิดให้เอกชนยื่นข้อเสนอขายเครื่องกำเนิดไฟฟ้าและอุปกรณ์ก่อสร้างโรงไฟฟ้าถ่านหินสะอาดกระบี่ 800 เมกะวัตต์ เดือนเมษายนนี้ นายสุนชัย คำนูณเศรษฐ์ ผู้ว่าการ การไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย (กฟผ.) เปิดเผยว่า เดือนเมษายนนี้จะเปิดเชิญชวนให้เอกชนยื่นข้อเสนอขายเครื่องกำเนิดไฟฟ้าและอุปกรณ์ก่อสร้างโรงไฟฟ้าถ่านหินสะอาดกระบี่ 800 เมกะวัตต์ โดยในเนื้อหาประกาศประกวดราคาครั้งนี้จะกำหนดชัดเจนว่าการจะดำเนินโครงการได้จะต้องอยู่บนพื้นฐานการได้รับอนุมัติจาก ครม. และการอนุมัติผลการศึกษาผลกระทบด้านสิ่งแวดล้อมและสุขภาพ (อีเอชไอเอ) ซึ่งขณะนี้อยู่ระหว่างดำเนินการและคาดจะทราบผลปลายปี 2558 ซึ่งนับว่าเป็นการดำเนินการควบคู่กันไปโดยตามแผนเดิมนั้นโรงไฟฟ้ากระบี่จะก่อสร้างเสร็จปี 2562
“แผนสร้างโรงไฟฟ้ากระบี่วงเงินลงทุน 40,000-50,000 ล้านบาท กำหนดเรื่องการป้องกันมลพิษสูงกว่ามาตรฐานของรัฐ เพื่อสร้างความเชื่อมั่นและป้องกันมลพิษสูงสุดโดยในภาคใต้ไฟฟ้าไม่เพียงพอต้องสร้างโรงไฟฟ้าใหม่และถ่านหินเป็นเชื้อเพลิงที่เหมาะสมในด้านต้นทุนค่าไฟฟ้าและสามารถป้องกันมลพิษได้” นายสุนชัย กล่าว ทั้งนี้ จากสำรองไฟฟ้าที่มีปริมาณสูงมากในปี 2562-2563 ทางคณะกรรมการกำกับกิจการพลังงาน (กกพ.) มอบหมาย กฟผ.เจราจากับเอกชนทั้งไอพีพีและเอสพีพีเลื่อนการก่อสร้างปี 2553-2555 และระยะเวลาส่งมอบไฟฟ้าออกไปก่อน โดยไม่กระทบค่าไฟฟ้าตามสัญญาขณะนี้มีไอพีพี คือ โรงไฟฟ้าถ่านหินเอ็นพีเอส และเอสพีพี 4-5 ราย รวมกำลังผลิต 1,000 เมกะวัตต์ ระบุเลื่อนได้ 1-2 ปี ซึ่งขึ้นอยู่กับ กกพ. จะพิจารณาอย่างไร ขณะที่ กฟผ.พร้อมจะเลื่อนการก่อสร้างโรงไฟฟ้าวังน้อยทดแทนโรง 1-2 กำลังผลิต 1,200 เมกะวัตต์ออกไปก่อน ด้านนายดิดิเอร์ ฟาเรส ประธานอัลสตอม (ประเทศไทย) กล่าวว่า บริษัทจะเข้าแข่งขันโครงการโรงไฟฟ้ากระบี่แน่นอน เพราะมั่นใจเทคโนโลยีและราคาแข่งขันได้ โดยอัลสตอมมีโรงงานในอินโดนีเซีย จีน และอินเดีย ขณะที่บริษัทมีประสบการณ์ก่อสร้างโรงไฟฟ้าถ่ายหินในชุมชน เช่น เยอรมัน ฝรั่งเศส ล่าสุดยังร่วมกับมารูเบนิ คอร์ปอเรชั่นชนะประมูลโครงการโรงไฟฟ้าแม่เมาะทดแทนแม่เมาะเครื่องที่ 4-7.

ขอบคุณข้อมูลจาก : สำนักข่าวไทย