“บิ๊กตู่” สั่ง 4 หน่วยเรียกขวัญนักลงทุน

พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) ได้สั่งการให้ 4 หน่วยงานด้านเศรษฐกิจมาแถลงข่าวรายงานความคืบหน้าตัวเลขเศรษฐกิจที่มีผลต่อการสร้างความเชื่อมั่นให้กับนักลงทุนทั้งในและต่างประเทศ ผู้ประกอบการ และประชาชน ที่ทำเนียบรัฐบาล ซึ่งนายเอกนิติ นิติทัณฑ์ประภาศ รองผู้อำนวยการสำนักงานเศรษฐกิจการคลัง(สศค.) กล่าวว่า สศค.คาดเศรษฐกิจไทยปีนี้จะขยายตัว 3.4-4.4% หรือเฉลี่ยที่ 3.9% มาจากปัจจัยหลักคือการเบิกจ่ายงบประมาณภาครัฐและการท่องเที่ยวที่ดีขึ้น ส่วนเศรษฐกิจจะขยายตัวได้สูงกว่านี้หรือไม่อยู่ที่ปัจจัยการส่งออก ซึ่ง สศค.มองที่ 1.9% ทั้งนี้ ในปีนี้มีความจำเป็นที่นโยบายการคลังของภาครัฐจะต้องเป็นตัวนำในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจ ซึ่งรัฐบาลมีเม็ดเงินสำหรับใช้จ่ายในปีนี้รวม 3.475 ล้านล้านบาท มาจากงบประมาณรายจ่าย 2.575 ล้านล้านบาท ที่เหลือเป็นเงินส่วนที่อยู่นอกงบประมาณ โดยใส่ลงไปในระบบเศรษฐกิจแล้ว 1.539 ล้านล้านบาท นอกจากนั้น มีเงินช่วยเหลือชาวนาและชาวสวนยางจะค่อยๆเข้ามากระตุ้นเศรษฐกิจ และมีเม็ดเงินที่เพิ่มขึ้นมาตามที่คณะรัฐมนตรี(ครม.)เพิ่งอนุมัติให้กู้เงิน 80,000 ล้านบาท เพื่อใช้สร้างถนนและบริหารจัดการน้ำ โดย จะมีการเบิกจ่ายเฉพาะในปีนี้ 57,000 ล้านบาท ทำให้ปีนี้มีเม็ดเงินจากรัฐเข้าระบบรวม 3.532 ล้านล้านบาท ด้านนายวิมล จันทรโรทัย รองปลัดกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ กล่าวว่า จากปัญหาภัยแล้งที่เกิดขึ้นตั้งแต่เดือน ต.ค.2557-ปัจจุบัน มีความเสียหายด้านเกษตร 5,835 ล้านบาท พื้นที่เสียหาย 1.14 ล้านไร่ คาดว่าผลเสียหายที่เกิดขึ้นจากภัยแล้งทั้งหมดจะมีผลกระทบต่อจีดีพี 0.24% ซึ่งกระทรวงเกษตรฯได้เตรียมเสนอโครงการปรับโครงสร้างภาคการเกษตรในสินค้า 3 ชนิด คือ ข้าว ปศุสัตว์ และประมง โดยใช้งบ 30,000 ล้านบาท เพื่อลดต้นทุนการผลิต เพิ่มประสิทธิภาพการผลิต และมีตลาดรองรับ ขณะที่นางดวงกมล เจียมบุตร รองอธิบดีกรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ กล่าวว่า ยอดส่งออกในเดือน ก.พ.คาดว่าจะใกล้เคียงกับเดือน ม.ค.ที่ผ่านมา ซึ่งหดตัว 3.46% ส่วนเป้าหมายการส่งออกที่กระทรวงพาณิชย์ตั้งไว้ 4% จะต้องปรับตัวเลขหรือไม่ ขอดูตัวเลขไตรมาสแรกของปีนี้ก่อน นายสมชาย หาญหิรัญ รองปลัดกระทรวงอุตสาหกรรม กล่าวว่า ตัวเลขขอประกอบกิจการโรงงานใหม่และขยายโรงงาน ของปีนี้จนถึงวันที่ 17 มี.ค.ที่ผ่านมา มี 988 แห่ง มีเงินลงทุน 72,163 ล้านบาท คาดว่าจะมีการจ้างงาน 30,000 คน สำหรับยอดการผลิตรถยนต์ในปีนี้คาดว่าจะอยู่ที่ 2.15 ล้านคัน นำไปส่งออก 1.2 ล้านคัน สะท้อนให้เห็นว่าภาคเอกชนยังเชื่อมั่นการลงทุน.