นายประทีป ตั้งมติธรรม ประธานกรรมการบริหาร บริษัท ศุภาลัย จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า ในปี 2558 นี้ บริษัทมองว่าภาพรวมตลาดอสังหาริมทรัพย์ยังคงมีการเติบโต โดยเเบ่งเป็นกลุ่มโครงการแนวราบ จะเติบโตในทำเลต่างจังหวัดเป็นหลัก โดยเฉพาะหัวเมืองท่องเที่ยวตามภูมิภาคต่างๆ ขณะที่กลุ่มโครงการคอนโดมิเนียม จะมีการเติบโตในเขตกรุงเทพฯและปริมณฑลเป็นหลัก ทั้งนี้การเติบโตของทำเลต่างจังหวัด จะขึ้นอยู่กับรายได้ของประชากรในพื้นที่นั้นๆด้วย เช่น ประชากรที่ต้องอาศัยรายได้จากการผลิตพืชผลการเกษตร และประชากรที่มีรายได้จากการท่องเที่ยว ขณะที่การเติบโตของทำเลกรุงเทพฯและปริมณฑล จะอยู่ในทำเลรถไฟฟ้าในอนาคต โดยเฉพาะเส้นศรีนครินทร์ , บางกะปิ และรามคำแหง อย่างไรก็ตามบริษัทมองว่าภาพรวมของตลาดอสังหาริมทรัพย์ในปี 2558 นี้จะเติบโตประมาณ 5-10% ขณะที่ผลิตภัณฑ์มวลรวมในประเทศ (GDP) มองว่าจะเติบโตได้ 3% สำหรับในส่วนของบริษัทนั้น ในปี 2558 นี้มีแผนพัฒนาโครงการทั้งสิ้น 28โครงการ คิดเป็นมูลค่ารวม 31,120 ล้านบาท แบ่งเป็นโครงการแนวราบ 19 โครงการ มูลค่ารวม 16,120 ล้านบาท และคอนโดมิเนียม 9 โครงการ มูลค่ารวม 15,000 ล้านบาท ขณะที่งบการซื้อที่ดินอยู่ที่ 6,000 ล้านบาท และงบก่อสร้างอยูที่ 11,000 ล้านบาท
“บริษัทยังคงขยายการลงทุนไปยังหัวเมืองต่างๆในภูมิภาคที่เป็นศูนย์กลางแหล่งธุรกิจและแหล่งท่องเที่ยวอย่างต่อเนื่อง ส่วนใหญ่จะเป็นโครงการแนวราบ ส่วนอาคารสูงจะมีเฉพาะหัวเมืองท่องเที่ยว ทำเลที่บริษัทเลือกลงทุน เช่น เชียงใหม่ สุราษฎร์ธานี สงขลา ภูเก็ต อุดรธานี ขอนแก่น ชลบุรี ระยอง เป็นต้น”นายประทีป กล่าว นายไตรเตชะ ตั้งมติธรรม กรรมการและรองกรรมการผู้จัดการ บริษัท ศุภาลัย จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า เป้ายอดขายของบริษัทในปี 2558 อยู่ที่ 23,000 ล้านบาท เติบโต 14.3% และเป้ารายได้ 22,000 ล้านบาท ปัจจุบันยอดขายในต่างจังหวัด แบ่งสัดส่วนเป็น คอนโดมิเนียม 15% โครงการแนวราบ 85% ส่วนในกรุงเทพฯและปริมณฑล แบ่งเป็น โครงการแนวราบ 35% คอนโดมิเนียม 65% และขณะนี้งานในมือที่จะทยอยรับรู้รายได้ในปี 2558 นี้ประมาณ 16,664 ล้านบาท
5 ปีย้อนหลังผลประกอบการ "บริษัทอสังหาฯ" TOP10 ประจำปี 2557 เทอร์ร่า บีเคเค

จากผลประกอบการบริษัทจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ในกลุ่มพัฒนาอสังหาริมทรัพย์เพื่อการอยู่อาศัย TerraBKK Research มองว่า Ananda เป็นบริษัทที่มีการเจริญเติบโตของผลประกอบการดีที่สุด รองลงมาคือ Raimon Land และ Land and House ตามลำดับ สำหรับ Supalai ยังสามารถทำผลประกอบการได้ค่อนข้างคงที่สม่ำเสมอทุกๆปี สำหรับ Pruksa เติบโตช้าลงหลังจากที่ได้เติบโตอย่างมากในช่วงหลายปีที่ผ่านมา และบริษัทอสังหาฯที่ทำผลประกอบการได้ต่ำลง ได้แก่ L.P.N. เติบโตช้าลงมากและมีแนวโน้มลดลง ส่วน Property Perfect ถึงแม้จะทำผลงานได้ดีขึ้นจากปีที่แล้วแต่ก็ยัมีศักยภาพต่ำที่สุดเมื่อเทียบกับทั้ง 10 บริษัท มีรายละเอียดของแต่ละบริษัทดังนี้


หมายเหตุ : ภาพประกอบบทความ บางภาพไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับเนื้อหาแต่อย่างใด Photo credit by : acnews.net

ขอบคุณข้อมูลจาก : แนวหน้า