คมนาคมลงทุนระบบขนส่งภาคตะวันออก

นายอาคม เติมพิทยาไพสิฐ รมช.คมนาคม เปิดเผยภายหลังเป็นประธานประชุมคณะกรรมการพัฒนาพื้นที่บริเวณชายฝั่งทะเลตะวันออก (กพอ.) ว่า ที่ประชุมได้เตรียมการใช้งบประมาณ 109,000 ล้านบาท เพื่อพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานด้านคมนาคมในพื้นที่ภาคตะวันออกในปี 58-59 ครอบคลุม ทั้งการพัฒนาโครงข่ายการขนส่งทางบก ทางน้ำ และทางราง แต่ไม่รวมแผนพัฒนาระบบขนส่งทางอากาศ และรถไฟทางคู่ไทย-จีน โดยโครงการที่จะต้องลงทุนเร็วที่สุด คือมอเตอร์เวย์ พัทยา-มาบตาพุด 32 กิโลเมตร (กม.) ผ่าน 2 จังหวัดคือชลบุรี-ระยอง เพื่อเชื่อมต่อมอเตอร์เวย์สาย 7 (กรุงเทพฯ-ชลบุรี) มูลค่า 20,200 ล้านบาท จะใช้เงินลงทุนจากกองทุนการจัดเก็บค่าธรรมเนียมผ่านทาง 14,200 ล้านบาท ค่าเวนคืนที่ดิน 6,000 ล้านบาท และจะเสนอคณะรัฐมนตรี (ครม.) ขอความเห็นชอบอีกครั้ง นายอาคมกล่าวต่อว่า ที่ประชุมได้เร่งแก้ไขปัญหาจราจรที่เชื่อมต่อจากท่าเรือแหลมฉบัง โดยจะเร่งก่อสร้างทางแยกต่างระดับหนองขามเชื่อมไปยังท่าเรือแหลมฉบัง คาดจะเสร็จเดือน พ.ค.-ส.ค.58 เพื่อช่วยให้การจราจรคล่องตัวขึ้น พร้อมกับเร่งก่อสร้างด่านเก็บค่า ธรรมเนียมมอเตอร์เวย์ ชลบุรี-พัทยา ส่วนการก่อสร้างรถไฟทางคู่ ช่วงฉะเชิงเทรา-คลองสิบเก้า-แก่งคอย 106 กม. นั้น อยู่ระหว่างแก้ไขวิธีคิดต้นทุนบางรายการที่ซ้ำซ้อน หลังจากได้รับการตรวจสอบจากสำนักงานการตรวจเงินแผ่นดิน (สตง.) ซึ่งเชื่อว่าจะเปิดประมูลและทำสัญญาได้ในปี 58 พล.อ.อ.ประจิน จั่นตอง รมว.คมนาคม กล่าวว่า พื้นที่ชายฝั่งทะเลตะวันออกเป็นพื้นที่ที่มีความสำคัญในการพัฒนาโครงข่ายการคมนาคม เพราะเป็นพื้นที่ที่เชื่อมต่อการขนส่งทางทะเล เชื่อมต่อกับเขตนิคมอุตสาหกรรม แหล่งท่องเที่ยว จึงต้องวางแผนการพัฒนาโครงข่ายให้เกิดความสะดวกและลดผลกระทบด้านสิ่งแวดล้อมและชุมชนด้วย.