สายการบินสัญชาติไทยกระอัก ถูกกรมการบินพลเรือนของญี่ปุ่นเข้มงวดความปลอดภัย หลัง ICAO ไม่มั่นใจระบบมาตรฐานการทำงานของกรมการบินพลเรือนไทย เบื้องต้น 4 สายการบินถูกระงับการอนุมัติเพิ่มจุดบินไปญี่ปุ่น "ประจิน" ได้แต่บ่นผิดหวัง เพราะพยายามแก้ปัญหาอยู่ ขณะที่บริษัททัวร์วุ่นหลังขายแพ็กเกจคนไทยเที่ยวญี่ปุ่นช่วงสงกรานต์ไปหมดแล้ว

นายสมชาย พิพุธวัฒน์ อธิบดีกรมการบินพลเรือน เปิดเผยว่า เมื่อวันที่ 24 มี.ค.ที่ผ่านมา กรมฯได้รับจดหมายอิเล็กทรอนิกส์จากกรมการบินพลเรือนญี่ปุ่น ระบุว่า ได้รับทราบผลการตรวจสอบจากองค์การการบินระหว่างประเทศ ICAO ตรวจพบข้อบกพร่องที่มีนัยสำคัญต่อความปลอดภัย เกี่ยวกับกระบวนการรับรองการเดินอากาศของกรมการบินพลเรือนไทย กรมการบินพลเรือนญี่ปุ่นจึงไม่อนุมัติให้มีการขยายหรือเปลี่ยนบริการขนส่งทางอากาศ ไม่ว่าจะเป็นการเพิ่มท่าอากาศยานหรือเปลี่ยนแบบอากาศยานที่จะทำการบินจากไทยไปยังประเทศญี่ปุ่น ขณะเดียวกันจะเพิ่มความถี่ในการตรวจสอบข้อปฏิบัติเกี่ยวกับอากาศยานของไทยมากขึ้นด้วย

ทั้งนี้ มาตรการของญี่ปุ่นจะไม่กระทบกับสายการบินที่ให้บริการแบบประจำ และจะยกเลิกมาตรการดังกล่าวเมื่อไทยสามารถปรับแก้ไขข้อบกพร่องต่างๆได้แล้ว ส่วน 4 สายการบินที่ยื่นขอทำการบินแบบเช่าเหมาลำหรือชาร์เตอร์ไฟลท์จากประเทศไทยไปยังญี่ปุ่นจะไม่ได้รับอนุมัติ ประกอบด้วย
  • สายการบินไทยสมายล์
  • แอร์เอเชีย เอ็กซ์ จะไม่ให้เพิ่มจุดบินไปยังฮอกไกโด
  • สายการบินนกสกู๊ต ไม่ได้รับอนุญาตให้บินเช่าเหมาลำช่วงวันหยุดสงกรานต์ไปยังเกียวโตและโอซากา
  • สายการบินเอเชีย แอตแลนติก ไม่ได้รับอนุญาตให้บินช่วงเทศกาลสงกรานต์เช่นกัน

สำหรับแนวทางแก้ไขขณะนี้กรมได้เดินทางไปชี้แจงกับประเทศญี่ปุ่นแล้ว เพื่อทำความเข้าใจถึงข้อเท็จจริงและแนวทางการดำเนินการของไทย ส่วนประเทศอื่นๆ กรมการบินพลเรือนจะได้ดำเนินการชี้แจงเกี่ยวกับสถานะด้านมาตรฐานความปลอดภัยของสายการบินในประเทศไทย รวมถึงการแก้ไขข้อบกพร่องจากการตรวจสอบให้ทราบอย่างเร็วที่สุด

"ประจิน" ผิดหวังถูกห้ามก่อนกำหนด

พล.อ.อ.ประจิน จั่นตอง รมว.คมนาคม กล่าวว่า ทางการญี่ปุ่นได้ทำหนังสือถึงกรมการบินพลเรือน ประเทศไทย 2 เรื่อง คือ

  1. ให้สายการบินที่จดทะเบียนในประเทศไทยทุกสายการบินที่บินเข้าญี่ปุ่นต้องเท่าเดิม ไม่สามารถเปลี่ยนเส้นทาง ขนาดของเครื่องบิน หรือปลายทางลงได้ ฉะนั้นไม่ว่าจะเป็นการบินไทย นกสกู๊ต ไทยแอร์เอเชีย เอ็กซ์ หรือสายการบินอื่นๆ จะต้องชะลอแผนขอเพิ่มเที่ยวบินไปญี่ปุ่นทั้งหมด
  2. อีกข้อคือขอให้ไทยส่งแผนการแก้ไขข้อบกพร่องให้ญี่ปุ่นทราบเป็นระยะ และญี่ปุ่นจะพิจารณาอีกครั้งหนึ่ง

"ขณะนี้มีสายการบินที่ขอเพิ่มเที่ยวบินไปญี่ปุ่นจำนวนมาก เช่น นกสกู๊ต ไทยสมายล์ แอร์เอเชีย เอ็กซ์ ฯลฯ ซึ่งเป็นช่วงฤดูร้อน จึงมีผู้โดยสารต้องการเดินทางเยอะที่ขอไปลงเมืองใหม่ โดยญี่ปุ่นพูดถึงเปลี่ยนเส้นทางใหม่ เปลี่ยนขนาดของเครื่องบินใหม่ เปลี่ยนปลายทางลงของเครื่องบินใหม่ ถ้าถามว่าเสียโอกาสหรือไม่ ตอบได้ว่าเหมือนอุบัติเหตุที่เราไม่อยากให้เกิด พอเกิดแล้วก็เสียโอกาส รถพังก็เจ็บตัว"

พล.อ.อ.ประจินกล่าวว่า รู้สึกผิดหวัง เพราะที่ผ่านมา กระทรวงคมนาคมพยายามทำแผนแก้ไขอย่างชัดเจน มีการแยกบทบาทของกรมการบินพลเรือน รวมทั้งได้ตั้งคณะทำงานดูแลสนามบิน คณะกรรมการสะสางเรื่องกฎหมาย และคณะทำงานปรับปรุงบุคลากรและการฝึกอบรม อีกทั้งยังเตรียมการพัฒนาการตรวจใบอนุญาตต่างๆ ทั้งหมด แต่องค์การการบินพลเรือนระหว่างประเทศ ยังไม่ผ่านความเห็นชอบและให้ไทยแก้ไขอีก ซึ่งกระทรวงคมนาคมผิดหวังส่วนนี้ ทั้งที่เชื่อมั่นว่าได้ทำดีแล้ว ส่วนที่ผิดหวังอีกเรื่องคือ ปกติแผนแก้ไขข้อบกพร่องของประเทศกลุ่มสมาชิกจะต้องดำเนินการหลัง 90 วันที่แก้ไข แต่ทางญี่ปุ่นกลับออกมาตรการมาก่อนครบ 90 วัน

"ผิดหวังการตอบรับขององค์การการบินพลเรือนระหว่างประเทศ และผิดหวังญี่ปุ่น ซึ่งควรให้เวลาเราครบตามมาตรฐานทั่วไป 90 วันก่อน ถามว่ามาตรฐานการบินไทยถูกประเมินต่ำหรือไม่ ตอบได้ว่า ไม่ได้ประเมินต่ำ เราก็เป็นห่วงว่าจะเหมือนอินโดนีเซียแต่ก็ได้เตรียมแผนงานรองรับไว้แล้ว"

พล.อ.อ.ประจินกล่าวว่า มาตรการที่กระทรวงคมนาคมได้เดินหน้าขณะนี้คือ จัดทีม ประกอบด้วยตัวแทนกรมการบินพลเรือน ตัวแทนสายการบิน เช่น บริษัท การบินไทย ไปชี้แจงที่ญี่ปุ่นเป็นอันดับแรก จากนั้นจะเดินทางไปชี้แจงที่เกาหลีใต้ เยอรมนี จีน หรือประเทศในเส้นทางหลักที่สายการบินของไทยต้องบินไปและกลับ นอกจากนี้ ในสัปดาห์หน้าทางคณะทำงานแก้ไขเรื่องที่เกี่ยวข้องกับมาตรฐานการบินจะประชุมติดตามความคืบหน้าต่อไป

นกสกู๊ตใช้ไลเซ่นส์สิงคโปร์แทน

ด้านนายพาที สารสิน ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร สายการบินนกแอร์ กล่าวว่า ขณะนี้สายการบินนกแอร์ แต่ให้บริการในเส้นทางบินต่างประเทศ ในนาม "นกสกู๊ต" กำลังหาแนวทางออก หากภายใน 90 วัน บพ.ไม่ได้รับรองจากไอซีเอโอ ทำให้ไม่สามารถทำการบินได้นั้น ในวันนี้ (27มี.ค.) ฝ่ายบริหารจะมีมติเสนอให้บอร์ดอนุมัติให้นกสกู๊ตทำการบินไปยังญี่ปุ่นด้วยใบอนุญาตประกอบการบิน (ไลเซ่นส์) การบินจากสิงคโปร์ เนื่องจากมีผู้ถือหุ้น เป็นสายการบินสกู๊ตจากสิงคโปร์

บริษัททัวร์กลุ้มขายทัวร์ไปแล้ว

นายเอนก ศรีชีวะชาติ นายกสมาคมส่งเสริมการท่องเที่ยวไทย-ญี่ปุ่นและประธานที่ปรึกษาสมาคมไทยบริการการท่องเที่ยว (ทีทีเอเอ) เปิดเผยว่า ทีทีเอเอได้แจ้งให้สมาชิกที่ทำทัวร์นำนักท่องเที่ยวไทยไปญี่ปุ่นได้รับทราบ โดยการยกเลิกในครั้งนี้ยังไม่เห็นถึงความแน่ชัดว่าจะยกเลิกทั้งเที่ยวบินที่ได้จองการบินไว้แล้ว หรือยกเลิกเที่ยวบินที่กำลังจะจองตั้งแต่ 1 เม.ย.เป็นต้นไป ทั้งนี้จะส่งผลกระทบต่อการทำทัวร์อย่างแน่นอน เนื่องจากนักท่องเที่ยวไทยเดินทางไปญี่ปุ่นจำนวนมากจนทำให้การแข่งขันสูงขึ้น รวมถึงต่อเนื่องมาจนถึงการแข่งขันด้านราคาด้วยการใช้เครื่องบินเช่าเหมาลำและสายการบินต้นทุนต่ำเพื่อลดราคาทัวร์ อย่างไรก็ตาม จะส่งผลให้คุณภาพของทัวร์ไปญี่ปุ่นเป็นทัวร์คุณภาพดีไม่แข่งขันกันด้านราคาเพียงอย่างเดียว อีกทั้งจะยังทำให้การเข้มงวดเรื่องความปลอดภัยดีขึ้นด้วย

นายศุภฤกษ์ ศูรางกูร นายกสมาคมไทยบริการท่องเที่ยว (ทีทีเอเอ) เปิดเผยว่า ขณะนี้พยายาม ประสานงานไปทางกรมการบินพลเรือนเพื่อขอรับทราบข้อเท็จจริง ตอนนี้พยายามประสานงานอยู่ว่าจะแก้ปัญหานี้อย่างไร เท่าที่คาดการณ์เชื่อว่า เฉพาะช่วงวันหยุดสงกรานต์นี้จะมีนักท่องเที่ยวไทยเดินทางไปญี่ปุ่นถึง 40,000-50,000 ราย ผ่านทั้งสายการบินที่เป็นสายการบินปกติ และสายการบินเช่าเหมาลำ ถือเป็นตัวเลขที่สูงเพราะมีวันหยุดยาวติดต่อกันหลายวัน แต่ถ้าเป็นตลอดเดือนจะมากกว่านี้ ทั้งนี้ ทางสมาคมได้มีการคุยกับบริษัททัวร์ให้แจ้งเรื่องราวให้ลูกทัวร์ทราบโดยเบื้องต้น กรณีเลวร้ายที่สุดแล้วในการดูแลลูกทัวร์ที่ซื้อทัวร์ไปแล้ว คือ

  1. ให้เปลี่ยนไปใช้สายการบินอื่น ซึ่งจะเป็นไปได้ยากเพราะที่นั่งน่าจะขายไปหมดแล้ว
  2. นำเสนอแหล่งท่องเที่ยวอื่นแทน
  3. คืนเงินจองให้ลูกค้า

แผนสำรองหากยังอยากไปฮอกไกโด หลังญี่ปุ่นระงับขยายเที่ยวบินจากไทย สายการบินและนักท่องเที่ยวต่างตกอยู่ภาวะปั่นป่วน หลังจากกรมการบินพลเรือนของญี่ปุ่นสั่งระงับการขยายเที่ยวบินจากไทยไปญี่ปุ่น โดยเฉพาะเส้นทางเปิดใหม่อย่างซับโปโร ซึ่งนักท่องเที่ยวจำนวนมากได้จองตั๋วและเตรียมตัวไว้เกือบหมดแล้ว.. ขณะนี้ผู้โดยสารซึ่งซื้อตั๋วของแอร์เอเชียไปแล้วต่างกังวลว่าจะได้เดินทางหรือไม่? ซึ่งถือแม้เที่ยวบินปฐมฤกษ์จะเริ่มบินในวันที่ 1 พฤษภาคม แต่จนถึงขณะนี้ทางแอร์เอเชียก็ยังไม่มีแถลงการณ์ใดๆ ออกมาบรรเทาความร้อนใจของบรรดาผู้โดยสาร โดยแอร์เอเชียก็อยู่ในสภาพ "กลืนไม่เข้า คายไม่ออก" เพราะต้องรอการแก้ไขปัญหาจากกรมการบินพลเรือนก่อน

ขอบคุณที่มา จาก : ไทยรัฐออนไลน์