คลังสั่งธนารักษ์ยกเครื่องที่ราชพัสดุ 4 มาตรการ เดินหน้าเขตเศรษฐกิจพิเศษ-สร้างจุดพักรถ 41 แห่งทั่วประเทศ เร่งพัฒนาที่มักกะสันที่รับโอนจากรฟท. พร้อมใช้พื้นที่ใกล้สนามบินเล็งทำเป็นโซลาร์ฟาร์ม ผลิตไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์

นายวิสุทธิ์ ศรีสุพรรณ รมช.คลัง กล่าว หลังตรวจเยี่ยมและมอบนโยบายให้กับกรมธนารักษ์ว่า สั่งนโยบายเร่งด่วน 4 เรื่อง ประกอบด้วย

  • นโยบายที่ 1 การพัฒนาพื้นที่เขตเศรษฐกิจพิเศษ โดยให้กรมธนารักษ์เข้าไปจัดหาพื้นที่ 2 แห่งคือ อรัญประเทศ จ.สระแก้ว และแม่สอด จ.เชียงราย จากทั้งหมด 6 พื้นที่ โดยธนารักษ์จะเข้าไปบริหารจัดการพื้นที่ และดึงเอกชนเข้ามาบริหาร แต่ให้ไปหาข้อสรุปว่าเอกชนจะบริหารพื้นที่ทั้งหมด หรือแค่บางส่วน
  • นโยบาย ที่ 2 มอบหมายให้ธนารักษ์ ไปเร่งจัดสรรพื้นที่ตามแนวทางหลวง เพื่อพัฒนาเป็น จุดพักรถขนาดใหญ่ ในลักษณะเหมือนต่างประเทศ รวมทั้งหมด 41 แห่งทั่วประเทศ แบ่งเป็น จุดพักรถที่มี ร้านค้าบริการด้วย 13 แห่ง และจุดพักรถเพียงอย่างเดียว 28 แห่ง ในหลักการจะมีการว่าจ้างเอกชนเข้ามาบริหารพื้นที่ และกำหนดสัญญาว่าจ้างถึงแนวทางการบริหารพื้นที่ ซึ่งที่ผ่านมาได้นำร่องไปแล้วใน จ.นครราชสีมา โดยธนารักษ์ต้องไปกำหนดจุดให้แล้วเสร็จภายในรัฐบาลชุดนี้
  • นโยบายที่ 3 ใช้ประโยชน์จากการเช่าพื้นที่มักกะสันที่ธนารักษ์จะรับโอนจากการรถไฟแห่งประเทศไทย (รฟท.) 490 ไร่ มาพัฒนาเป็นพื้นที่สวนสาธารณะ พื้นที่แก้มลิง และใช้ประโยชน์เชิงพาณิชย์ ตามนโยบายรัฐบาล โดยจะหารือกับ รฟท.ในวันที่ 8 เม.ย.นี้ เพื่อพิจารณาว่าจะตีมูลค่าที่ดินมาหักภาระหนี้ได้เท่าใด จากปัจจุบัน รฟท.มีภาระหนี้ค้างกระทรวงการคลังกว่า 8 หมื่นล้านบาท โดยคาดว่ามูลค่าพื้นที่จะไม่ต่ำกว่า 5 หมื่นล้านบาท" นายวิสุทธิ์กล่าวว่า พื้นที่มักกะสันยังไม่ได้ข้อสรุปว่าจะพัฒนาเป็นรูปแบบใด แต่ยังคงตามกรอบนโยบายรัฐบาล คือ ธนารักษ์จะเป็นผู้เช่าและพัฒนาพื้นที่เป็นสวนสาธารณะและพื้นที่แก้มลิงก่อน ส่วนที่เหลือจึงนำมาใช้เชิงพาณิชย์ หากตีมูลค่าไม่คุ้มกับมูลหนี้ที่มีอยู่ รฟท.ต้องส่งพื้นที่อื่นมาให้ธนารักษ์เช่าเพิ่ม เช่น พื้นที่ริมแม่น้ำเจ้าพระยา
  • นโยบายที่ 4 คือ พัฒนาพื้นที่ราชพัสดุอื่นๆ เช่นพื้นที่ของ บริษัท ท่าอากาศยานไทย จำกัด (มหาชน) หรือ ทอท. จะนำมาพัฒนาเป็นแหล่งพลังงานแสงอาทิตย์ หรือโซลาร์ฟาร์ม เหมือนในต่างประเทศ เพื่อใช้เป็นพลังงานทางเลือกตามนโยบายรัฐบาล
ขอบคุณข้อมูล จาก : ข่าวสด