คาดปี 58 ทำยอดขายได้ 9 พันล้านบาท โตเพิ่ม 20-30% พร้อมทำส่วนแบ่งเครื่องปรับอากาศบ้าน 25% และเชิงพาณิชย์ 60% จากตลาดรวม 3 หมื่นล้านบาท เร่งเครื่องสร้างแบรนด์และพัฒนาศูนย์จำหน่ายสินค้าให้มีความทันสมัยมากขึ้นรวม 10 สาขาในปี 58 ก่อนเตรียมเปิดร้านแฟล็กชิพสโตร์แห่งแรกในปี 59 หลังลงทุน 40 ล้านบาท เปิดศูนย์ “ไดกิ้น โซลูชั่น พลาซ่า” แห่งแรกในอาเซียน หวังใช้เป็นฐานก้าวสู่ผู้นำตลาดรวมในปี 60

นายทากาโยชิ มิกิ ผู้จัดการใหญ่ บริษัท สยามไดกิ้นเซลส์ จำกัด ผู้นำด้านระบบเครื่องปรับอากาศทั้งเครื่องปรับอากาศเพื่อที่อยู่อาศัยและเครื่องปรับอากาศเชิงพาณิชย์ภายใต้แบรนด์ “ไดกิ้น” (DAIKIN) บริหารงานความร่วมมือระหว่าง บริษัท ไดกิ้น อินดัสทรีส์ (ประเทศญี่ปุ่น) จำกัด และ บริษัท สยามกลการ จำกัด เปิดเผยว่าบริษัทฯ ใช้งบลงทุน 40 ล้านบาท เปิดศูนย์ “ไดกิ้น โซลูชั่น พลาซ่า” (Daikin Solution Plaza) เป็นแห่งแรกของอาเซียน โดยใช้แนวคิดจาก “ไดกิ้น โซลูชั่น พลาซ่า” จากเมืองโตเกียว, เมืองโอซาก้า ประเทศญี่ปุ่น และประเทศจีน

“ไดกิ้น โซลูชั่น พลาซ่า” ตั้งอยู่บนพื้นที่ 500 ตร.ม.ภายในสำนักงานใหญ่ ซ.อ่อนนุช 55/1 ถ.อ่อนนุช-ลาดกระบัง กรุงเทพฯ ถือเป็นศูนย์แสดงเทคโนโลยีระบบปรับอากาศและผลิตภัณฑ์เครื่องปรับอากาศทั้งหมดของ “ไดกิ้น” ที่จำหน่ายในประเทศไทยและยังเป็นแหล่งความรู้ทางวิชาการที่ครบวงจรสำหรับบุคลากรในวงการอุตสาหกรรมเครื่องปรับอากาศ ลูกค้า หรือบุคคลทั่วไปที่สนใจได้รับความรู้เกี่ยวกับเครื่องปรับอากาศพร้อมความสนุกสนาน โดยมีการนำสื่อมัลติมีเดียมาใช้ในการอธิบายเกี่ยวกับระบบปรับอากาศให้เข้าใจง่ายขึ้น

“สำหรับสถานการณ์ทางด้านการเมืองและเศรษฐกิจของประเทศไทยยังถือว่ามีความแข็งแกร่งที่สุดในกลุ่มประเทศอาเซียน แม้รัฐบาลจะประกาศใช้คำสั่ง คสช.โดยอาศัยอำนาจตามความในมาตรา 44 แห่งรัฐธรรมนูญชั่วคราวแทนกฎอัยการศึกแล้วก็ตาม แต่มั่นใจว่าจะยังคงมีความโดดเด่นต่อไปอีก 5-10 ปี บริษัทฯ จึงตั้งใจให้ศูนย์ฯ แห่งนี้เป็นฐานการผลิตและบริการ รวมถึงเป็นศูนย์การเรียนรู้ผลิตภัณฑ์ไดกิ้นในอาเซียน” นายทากาโยชิ มิกิ กล่าวเพิ่มเติม

ทางด้าน นายสมพร จันกรีนภาวงศ์ ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการ บริษัท สยามไดกิ้นเซลส์ จำกัด กล่าวว่า ในปี 2557 บริษัทฯ มียอดขายประมาณ 7 พันล้านบาท จากสัดส่วนยอดขายเครื่องปรับอากาศเพื่อที่อยู่อาศัยและเครื่องปรับอากาศเชิงพาณิชย์เท่ากันประมาณ 50:50 ส่วนในปี 2558 คาดว่าจะเพิ่มขึ้นเป็น 9 พันล้านบาท หรือเติบโตขึ้นประมาณ 20-30%

ปัจจุบันบริษัทฯ มีตัวแทนจำหน่ายประเภทขายปลีก ประมาณ 200 ราย และตัวแทนจำหน่ายประเภทวิศวกรโครงการ ประมาณ 300 ราย คิดเป็นสัดส่วนการขายในกรุงเทพฯ 60% ต่างจังหวัด 40% โดยมีส่วนแบ่งการตลาดเครื่องปรับอากาศเพื่อที่อยู่อาศัย ประมาณ 25% และเครื่องปรับอากาศเชิงพาณิชย์ ประมาณ 60% จากมูลค่าตลาดรวมทั้งสองประเภท 3 หมื่นล้านบาท มีอัตราการเติบโตปีละประมาณ 10-20%

“บริษัทฯ มีเป้าหมายก้าวสู่ผู้นำตลาดรวมเครื่องปรับอากาศทั้ง 2 ประเภทภายใน 3 ปี หรือปี 2560 โดยเน้นกลยุทธ์การสร้างแบรนด์และลงทุนด้านการฝึกอบรมพนักงานให้มีมาตรฐานการซ่อมแซมและให้บริการแก่ลูกค้า รวมถึงการกระจายวัสดุและอะไหล่ ตลอดจนการโชว์สินค้าที่มีความหลากหลายและสวยงามเพื่อดึงดูดใจลูกค้าโดยในปี 2558 เพิ่มงบประมาณการตลาดเป็น 5-7% ของยอดขาย จากเดิมที่กำหนดปีละมาณ 4-5%”

นายสมพร กล่าวอีกว่า ในปี 2558 บริษัทฯ ยังมีแผนลงทุนศูนย์ “ไดกิ้น มินิ โซลูชั่น พลาซ่า” รวมถึงสำนักงานและศูนย์ซ่อมและบริการบนพื้นที่ 300-400 ตร.ม. ใน 4 พื้นที่คือเชียงใหม่, ขอนแก่น, ภูเก็ต และหาดใหญ่ นอกจากนั้นยังจะลงทุนร่วมกับศูนย์จำหน่ายสินค้าที่มียอดขายผลิตภัณฑ์ “ไดกิ้น” 70% ขึ้นไปในการพัฒนาและปรับปรุงให้มีลักษณะเป็น Pro Shop ที่มีความทันสมัยมากขึ้น โดยใช้เงินลงทุนสาขาละ 1.5-2 ล้านบาท

“การพัฒนาและปรับปรุงศูนย์จำหน่ายสินค้าดังกล่าวจะใช้อาคารพาณิชย์ในพื้นที่ต่างๆ ประมาณ 1-2 คูหา โดยในปี 2558 คาดว่าจะมีการเปิดศูนย์จำหน่ายสินค้าในลักษณะ Pro Shop ประมาณ 10 สาขาทั่วประเทศจากล่าสุดที่เปิดบริการแล้ว 2 แห่งย่านลาดพร้าวและพัฒนาการ โดยคาดว่าแต่ละศูนย์ฯ ที่พัฒนาแล้วจะสามารถทำยอดขายเพิ่มขึ้น 20-30% โดยบริษัทฯ ยังมีแผนลงทุนเปิดร้านในลักษณะแฟล็กชิพสโตร์ขึ้นภายในปี 2559” นายสมพร กล่าวในที่สุด

ขอขอบคุณข้อมูลจาก : ASTVผู้จัดการรายวัน