นายวีระพล จิรประดิษฐกุล กรรมการกำกับกิจการพลังงาน ในฐานะโฆษก กกพ.เปิดเผยว่า ที่ประชุม คณะกรรมการกำกับกิจการพลังงาน หรือ กกพ. เมื่อเร็วๆนี้ ได้พิจารณาให้ความเห็นชอบต่อ TPA Code ของ บริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน) (บมจ.ปตท.) ที่ใช้ชื่อว่า "ข้อกำหนดเกี่ยวกับการเปิดให้ใช้หรือเชื่อมต่อระบบส่งก๊าซธรรมชาติบนบกแก่บุคคลที่สาม" สำหรับการเปิดให้บุคคลที่สามสามารถเข้ามาใช้หรือเชื่อมต่อระบบท่อส่งก๊าซธรรมชาติได้

นอกจากนี้ยังได้เห็นชอบข้อกำหนดของ บริษัท พีทีที แอลเอ็นจี จำกัด PTTLNG ที่ใช้ชื่อว่า "ข้อกำหนดเกี่ยวกับการให้บริการสถานี LNG แก่บุคคลที่สามและการเชื่อมต่อ (Third Party Access Code: TPA Code) สำหรับสถานีแอลเอ็นจี มาบตาพุด" สำหรับการเปิดให้บุคคลที่สามสามารถเข้ามาใช้หรือเชื่อมต่อสถานีแอลเอ็นจีได้

โดยสองรายได้มีการประกาศใช้ TPA Code ดังกล่าวแล้ว ตั้งแต่วันที่ 1 เม.ย.2558 เป็นต้นไป ซึ่งผู้ที่สนใจสามารถดูรายละเอียดได้ทาง www.erc.or.th

สำหรับ TPA Code เป็นข้อกำหนด และเงื่อนไขในการปฏิบัติที่ผู้เป็นเจ้าของระบบท่อส่งก๊าซธรรมชาติ หรือสถานีแอลเอ็นจี ต้องจัดทำขึ้นเพื่อเปิดโอกาสให้บุคคลที่สามที่ได้รับใบอนุญาตจัดหาและค้าส่งก๊าซธรรมชาติ จาก กกพ. หรือ ผู้ประกอบกิจการพลังงานรายอื่น สามารถเข้ามาใช้หรือเชื่อมต่อระบบท่อส่งก๊าซ หรือสถานีแอลเอ็นจีได้ เพื่อมุ่งเน้นการส่งเสริมให้มีการแข่งขันในกิจการก๊าซธรรมชาติและมีการบริการของระบบโครงข่ายพลังงานอย่างเป็นธรรม โปร่งใส และไม่เลือกปฏิบัติภายใต้การกำกับดูแลของ กกพ.

ทั้งนี้ สาระสำคัญใน TPA Code ประกอบด้วย ทธิภาระผูกพันและหน้าที่ ขอบเขตการเปิดใช้หรือเชื่อมต่อ ข้อกำหนดการเชื่อมต่อ การเชื่อมต่อใหม่และการปรับปรุงการเชื่อมต่อ การจัดสรรสิทธิการใช้ความสามารถในการให้บริการ ประเภทการให้บริการ ข้อกำหนดคุณสมบัติก๊าซ การวัดก๊าซ การยื่นคำขอเชื่อมต่อสถานี และอัตราค่าบริการ เป็นต้น

การประกาศเพื่อเปิดให้บุคคลที่สามสามารถเข้ามาใช้หรือเชื่อมต่อระบบท่อส่งก๊าซธรรมชาติของ บมจ.ปตท. และสถานีแอลเอ็นจีของ PTTLNG นี้ ถือได้ว่าเป็นจุดเริ่มต้นที่จะช่วยให้ระบบท่อส่งก๊าซธรรมชาติ และสถานีแอลเอ็นจี มีการใช้งานอย่างเต็มสมรรถนะ ลดการผูกขาด และทำให้เกิดการแข่งขันในธุรกิจการค้าก๊าซธรรมชาติมากขึ้น สุดท้ายผู้ใช้ก๊าซธรรมชาติจะได้รับประโยชน์ด้านราคาจากกลไกการแข่งขันดังกล่าว

ขอบคุณข้อมูล จาก : แนวหน้า