จ่อลุย 4 จี–พลังงานทดแทน "เฉลิมชัย" พลิกโฉมทีทีเอสู่โฮลดิ้งคอมปะนี
นับตั้งแต่ปลายปี 2544 ที่ตระกูล “มหากิจศิริ” ได้รุกคืบเข้ามาเป็นผู้ถือหุ้นใหญ่และยึดอำนาจการบริหารในบริษัทโทรีเซนไทย เอเยนต์ซีส์ จำกัด (มหาชน) หรือทีทีเอ ผู้ประกอบธุรกิจขนส่งทางเรือ ซึ่งขณะนั้นวัฏจักรของธุรกิจขนส่งทางเรือทั่วโลก กำลังตกต่ำสุดๆโดยส่ง “เฉลิมชัย มหากิจศิริ” เข้ามาทำหน้าที่เป็นหัวเรือใหญ่ในการขับเคลื่อนและพลิกฟื้นธุรกิจ!!
กว่า 3 ปีผ่านมาจนกระทั่งวันนี้ โฉมหน้าของทีทีเอเปลี่ยนไปอย่างมาก พลิกจากบริษัทขนส่งทางเรือก้าวสู่การเป็นบริษัทเพื่อการลงทุน หรือโฮลดิ้ง คอมปะนีอย่างเต็มตัว และพลิกจากบริษัทที่มีผลการดำเนินงานขาดทุน มาโชว์กำไรสูงสุดในรอบ 5 ปีได้ในปี 2557 ที่ผ่านมา
“เฉลิมชัย มหากิจศิริ” กรรมการผู้จัดการใหญ่และประธานเจ้าหน้าที่บริหารทีทีเอ เปิดเผยกับ “ทีมเศรษฐกิจ” ว่าวันนี้ทีทีเอมีความแข็งแกร่งมาก ทั้งด้านเงินทุนและโครงสร้างธุรกิจ รวมทั้งยังกำลังมองหาการเติบโตที่จะสร้างผลตอบแทนให้ผู้ถือหุ้นอย่างไม่สิ้นสุด
ขณะนี้บริษัทมีเงินทุนที่พร้อมจะขยายธุรกิจโดยมีเป้าหมายเข้าซื้อกิจการ หรือเทคโอเวอร์ธุรกิจที่สามารถรับรู้รายได้หรือกำไรจากการลงทุนได้ทันที เป็นธุรกิจมีสถานะที่มั่นคงในอุตสาหกรรม มีทีมผู้บริหารที่ดี แต่หากต้องเริ่มต้นธุรกิจใหม่ก็ต้องเป็นธุรกิจที่มีอนาคตหรือโอกาสในการเติบโตสูง
โดยกำลังสนใจลงทุนในธุรกิจพลังงานทดแทน โดยจะเป็นการเข้าไปซื้อโรงไฟฟ้าพลังงานทดแทนที่เริ่มดำเนินการหรือมีการผลิตอยู่แล้ว นอกจากนี้ยังสนใจลงทุนในธุรกิจสื่อสาร ในการประมูลคลื่น 4 จี ที่คณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ (กสทช.) กำลังจะเปิดประมูล เพราะเห็นว่าในสังคมปัจจุบันการติดต่อหรือการติดตามข้อมูลข่าวสารถือเป็นสิ่งจำเป็นในชีวิตประจำวันของคนสมัยใหม่ทั่วโลกการเป็นเจ้าของคลื่นเพื่อให้บริการเครือข่ายอินเตอร์เน็ต จึงน่าจะเป็นโอกาสของธุรกิจ โดยอาจจับมือกับพันธมิตรที่มีความเชี่ยวชาญเข้าไปร่วมประมูล ส่วนเรื่องเงินทุนไม่มีปัญหา เพราะบริษัทมีเงินทุนเพื่อรองรับการลงทุนอยู่แล้ว อย่างไรก็ตาม สิ่งสำคัญต้องดูเรื่องราคาในการประมูลด้วย ต้องมีความเหมาะสมเพื่อความเป็นไปได้ของธุรกิจ ต้องไม่สูงเกินไป ซึ่งขณะนี้กำลังรอศึกษาหลักเกณฑ์และเงื่อนไขในการประมูลที่จะออกมา
“ทุกวันนี้ สิ่งจำเป็นที่แทบทุกคนต้องการคือเครือข่ายอินเตอร์เน็ตไวไฟ เพื่อให้สามารถติดต่อสื่อสาร ดูทีวี โทรศัพท์ หรือติดตามข่าวสารต่างๆผ่านเครือข่ายอินเตอร์เน็ต ซึ่งถือเป็นปัจจัยที่ 6 ของชีวิตคนในยุคปัจจุบันและอนาคตแล้ว ดังนั้น จึงสนใจศึกษาเข้าร่วมประมูลคลื่น 4 จี มองว่าเป็นโอกาสของธุรกิจและการลงทุน”
“เฉลิมชัย” ยังฉายภาพธุรกิจของทีทีเอในภาพรวมว่า หลังตระกูลมหากิจศิริเข้ามาถือหุ้นใหญ่ทีทีเอกว่า 40% ได้ปรับโครงสร้างธุรกิจและเพิ่มทุนเข้าไปในธุรกิจเดิมที่มีอยู่แล้วให้ดียิ่งขึ้น รวมถึงตัดจำหน่ายสินทรัพย์หลายรายการ เพื่อให้สะท้อนภาพรวมที่แท้จริงของมูลค่าบริษัทโดยธุรกิจของทีทีเอประกอบด้วย 3 กลุ่มหลักคือ 1.ธุรกิจขนส่ง บริษัท โทรีเซน ชิปปิ้ง สิงคโปร์ พีทีอี แอลทีดี ผู้บริการเรือบรรทุกสินค้าแห้งเทกอง ได้เข้าไปปรับกองเรือให้มีประสิทธิภาพมากขึ้น ปลดระวางเรือเก่าและซื้อกองเรือเข้ามาเพิ่มเพื่อรองรับการฟื้นตัวกลับมาของธุรกิจขนส่งเรือเทกอง
2.ธุรกิจพลังงาน บริษัทเมอร์เมด มาริไทม์ จำกัด (มหาชน) ผู้บริการวิศวกรรมใต้ทะเล และบริการเรือขุดเจาะน้ำมันนอกชายฝั่งซึ่งเป็นบริษัทที่อยู่ในตลาดหุ้นสิงคโปร์ และ 3.ธุรกิจโครงสร้างพื้นฐาน บริษัทบาคองโค จํากัด ผู้ผลิตและจำหน่ายปุ๋ยและให้บริการคลังสินค้าในเวียดนาม ซึ่งถือหุ้น 100% โดยบริษัทลูกของทีทีเอคือ บริษัทพีเอ็ม โทรีเซน เอเชีย โฮลดิ้งส์ จำกัด (มหาชน) หรือพีเอ็มทีเอ ที่กำลังจะเข้าจดทะเบียนในตลาดหุ้นไทย และยังถือหุ้นในบริษัทยูนิค ไมนิ่ง เซอร์วิสเซส จำกัด (มหาชน) หรือยูเอ็มเอส ผู้จัด จำหน่ายถ่านหินและให้บริการโลจิสติกส์ ขนส่งถ่านหินแบบครบวงจรในไทยด้วย
และเมื่อไม่นานมานี้ ทีทีเอยังเข้าไปลงทุนถือหุ้นในบริษัทไซโน แกรนด์เนส ฟู้ด อินดัสตรี กรุ๊ป จำกัด (Sino Grandness) ผู้ผลิตและผู้จัดจำหน่ายน้ำผลไม้และผักบรรจุกระป๋องในจีน ที่ครองส่วนแบ่งตลาดผลิตภัณฑ์เครื่องดื่มโลโคท (loquat juice) ได้กว่า 75% ทั้งหมดนี้ สอดคล้องกับนโยบายของทีทีเอ ในการแสวงหาโอกาสในการลงทุน เพื่อสร้างผลตอบแทนที่ดีให้กับผู้ถือหุ้น และยังเป็นการกระจายความเสี่ยงไม่พึ่งพิงธุรกิจใดธุรกิจหนึ่งมากจนเกินไป.
ขอบคุณข้อมูลจาก : ไทยรัฐออนไลน์
Discussion
Follow breaking news Investment property articles on Facebook, click here.