คสช.ไล่บี้ปล่อยคืนคนยากจนตัวจริง ส.ป.ก.เร่งตรวจถือครองที่ดิน พบนายทุนยึดจากชาวบ้านอื้อ
นายสรรเสริญ อัจจุตมานัส เลขาธิการสำนักงานการปฏิรูปที่ดินเพื่อเกษตรกรรม (ส.ป.ก.) เปิดเผยถึงความคืบหน้าการตรวจสอบการถือครองที่ดิน ส.ป.ก.อย่างผิดกฎหมาย เพื่อยึดคืน และนำมาจัดสรรให้แก่คนจน ตามนโยบายของรัฐบาลว่า ขณะนี้ ส.ป.ก.อยู่ระหว่างการตรวจสอบที่ดินที่จัดสรรให้เกษตรกรแล้ว 35 ล้านไร่ แบ่งการตรวจเป็น 3 ปี ระหว่างปี 58-60 ปีละ 12 ล้านไร่ โดยในปี 58 ซึ่งเป็นปีแรก ผ่านมา 3 เดือน (ม.ค.-มี.ค.) ได้ตรวจสอบแล้วประมาณ 3.6 ล้านไร่ หรือประมาณ 30% จากเป้าหมาย ถือว่ายังตรวจสอบได้น้อยเกินไป จึงได้เรียกประชุมเจ้าหน้าที่ เพื่อเร่งเดินหน้าการตรวจสอบให้ได้รวดเร็วมากยิ่งขึ้น
“การตรวจสอบระยะแรกยังล่าช้า พอประชุมเจ้าหน้าที่ถึงรู้ว่าหลักเกณฑ์การตีความ ความเป็นเกษตรกร การถือครอง และการเปลี่ยนมือยังไม่ชัดเจน ทำให้การประเมินในพื้นที่ล่าช้า จึงได้วางหลักเกณฑ์ใหม่ไปแล้ว 4 ด้าน เช่น จะต้องดูจากเอกสารก่อนว่าผู้ที่ถือครองสิทธิ์มีตัวตนจริงหรือไม่ ถ้ามีจริง ให้ไปดูหลักฐานการกู้ยืมเงินจากธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธ.ก.ส.) ถ้ามีจริง และใช้ที่ดินปัจจุบันเป็นหลักค้ำประกันก็ถือว่าใช้ได้ นอกจากนี้ ส.ป.ก.ยังได้ส่งชุดตรวจสอบเฉพาะกิจ 7 ชุดลงไปตรวจสอบทั่วประเทศด้วย น่าจะทำให้การทำงานรวดเร็วขึ้น”
สำหรับผลการตรวจสอบในช่วง 3 เดือนแรกปี 58 เบื้องต้นพบการถือครองที่ไม่ถูกต้อง แบ่งเป็น 2 กลุ่ม คือ กลุ่มแรก เป็นกลุ่มนายทุน ที่เข้ามายึดครองที่ดิน ส.ป.ก.จากชาวบ้าน มีพื้นที่มากกว่า 1 ล้านไร่ ซึ่งกลุ่มนี้ยอมรับว่าตรวจสอบได้ยาก เพราะไม่ยอมแสดงตนง่ายๆ แต่มั่นใจว่ามีวิธีการที่จะทำให้ตรวจสอบเข้าถึงตัวนายทุนเหล่านี้ได้แน่นอน เพียงแค่ขอให้ได้ชื่อ หรือที่อยู่ก็เพียงพอแล้ว ซึ่งตนจะใช้วิธีการเชิญคนเหล่านี้เข้ามาเจรจาเพื่อให้คืนพื้นที่ ส.ป.ก.กลับสู่รัฐ แต่หากยังไม่ยอม ตนได้รับการประสานจากเจ้าหน้าที่ของคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) แล้วว่า ให้ ส.ป.ก.ส่งรายชื่อไปให้ คสช. เพื่อเรียกตัวนายทุนกลุ่มนี้เข้าไปพบ
“ตอนนี้เจ้าหน้าที่ทหารเข้ามาแจ้ง ส.ป.ก.แล้วว่า อยากจะให้ ส.ป.ก.ส่งข้อมูลเรื่องที่ดินที่ถือครองผิดกฎหมายไปให้ เพื่อทหารจะได้แก้ปัญหา จัดเกษตรกรรายใหม่เข้าไปอยู่แทน จากก่อนหน้านี้ที่ ส.ป.ก.จัดเกษตรกรรายใหม่ลงไปในพื้นที่ที่ยึดคืนมาได้ลำบาก เพราะเจ้าของในที่ดินเดิมมีอิทธิพลในพื้นที่ เกษตรกรรายใหม่ก็ไม่กล้าเข้าไปอยู่ มั่นใจว่า ส.ป.ก.ทำได้ แต่ขอเวลาอีกหน่อยจะชี้เป้าให้ทหารได้แน่”
สำหรับกลุ่มที่ 2 เป็นกลุ่มใหญ่ประมาณ 80% เกิดจากเกษตรกรเปลี่ยนมือผู้ถือครองที่ดิน ส.ป.ก.กันเอง มีจำนวนนับหมื่นราย ถือว่าเป็นจำนวนมาก จะต้องวางแนวทางเพื่อแก้ไขปัญหาในพื้นที่ให้ได้ เนื่องจากหากดำเนินการไปตามขั้นตอนกฎหมาย เจ้าหน้าที่ ส.ป.ก.จะต้องรวบรวม และส่งให้อัยการฟ้องร้อง แต่ในทางปฏิบัติเป็นไปได้ยาก หากฟ้องเป็นหมื่นคดี อัยการคงไม่ยอมทำให้แน่นอน.
ขอบคุณข้อมูลจาก : ไทยรัฐออนไลน์
Discussion
Follow breaking news Investment property articles on Facebook, click here.