นางสร้อยทิพย์ ไตรสุทธิ์ ปลัดกระทรวงคมนาคม เปิดเผยภายหลังการประชุมคณะกรรมการพิจารณาการเชื่อมต่อระบบรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนกับขนส่งสาธารณะ ว่า กรมเจ้าท่าได้ลงนามปรับปรุงท่าเทียบเรือริมแม่น้ำเจ้าพระยารวม 17 ท่า ด้วยงบประมาณ 70 ล้านบาท เพื่อให้ได้ท่าเรือที่ทันสมัยและมีความปลอดภัยแก่ประชาชน โดยเบื้องต้นจะปรับปรุงก่อน 3 ท่า คือ ท่าเรือพรานนก ท่าเรือราชวงศ์ และท่าเรือสี่พระยา ให้แล้วเสร็จในเดือน ก.ย.2558 ส่วนที่เหลือจะดำเนินการแล้วเสร็จภายในเดือน ก.ย.2559 “ท่าเทียบเรือในแม่น้ำเจ้าพระยามีทั้งหมด 35 ท่า แต่การดำเนินการในครั้งนี้จะเป็นการปรับปรุงท่าเทียบเรือที่มีผู้ใช้บริการเป็นจำนวนมาก และมีการชำรุดหรืออยู่ในสภาพทรุดโทรมก่อน โดยจะเน้นในด้านความปลอดภัยในการให้บริการแก่ประชาชนเป็นหลัก”
นางสร้อยทิพย์กล่าวว่า ส่วนการพัฒนาท่าเทียบเรืออีก 19 ท่า ให้เป็นระบบปิดในลักษณะเดียวกับสถานีรถไฟฟ้า และรองรับการให้บริการระบบตั๋วร่วม หรือบัตรใบเดียวสามารถใช้ได้ทั้งเรือ รถไฟฟ้า รถเมล์ และทางด่วนนั้น ขณะนี้กรมเจ้าท่าอยู่ระหว่างหารือกับกรมธนารักษ์ในฐานะเจ้าของพื้นที่ท่าเทียบเรือ เพื่อเปิดทางให้บริษัทเอกชนเข้าไปพัฒนา โดยคาดว่าจะได้ข้อสรุปภายในเดือน เม.ย.-พ.ค.นี้ และเปิดให้บริการตั๋วร่วมได้ในเดือน ส.ค.ปีหน้า ทั้งนี้ ท่าเทียบเรือนำร่องที่มีการพัฒนาก่อนมี 3 ท่า คือ ท่าเรือสาทร ท่าเรือนนทบุรี และท่าเรือปิ่นเกล้า โดยให้ภาคเอกชนเป็นผู้ลงทุนทั้งหมด โดยจะมีการจัดทำพื้นที่ด้านหลังท่าเทียบเรือ ซึ่งอยู่บนฝั่งให้เป็นที่นั่งรอเรือโดยสารแทนไปยืนรอที่ท่าเรือเพื่อให้เกิดความปลอดภัยมากขึ้น นอกจากนี้ ยังจะปรับปรุงท่าเรือบางโพ เพื่อเชื่อมต่อกับรถไฟฟ้าสายสีน้ำเงิน ช่วงบางซื่อ-ท่าพระ และท่าเรือพระนั่งเกล้า เชื่อมรถไฟฟ้าสายสีม่วง ช่วงบางใหญ่-บางซื่อ ตลอดจนเปิดให้บริการท่าเรือคลองแสนแสบ เพื่อเชื่อมต่อการเดินทางกับรถไฟฟ้าแอร์พอร์ตลิงก์ สถานีรามคำแหงด้วย.

ขอบคุณข้อมูลจาก : ไทยรัฐออนไลน์