นักบริหารเงิน เปิดเผยว่า เงินบาทปิดตลาดเย็นนี้อยู่ที่ระดับ 32.54/56 บาท/ดอลลาร์ ใกล้เคียงจากช่วงเช้าที่เปิดตลาดที่ระดับ 32.53/55 บาท/ดอลลาร์ วันนี้ตลอดทั้งวันเงินบาทเคลื่อนไหวอยู่ในกรอบแคบๆ เนื่องจากไม่มีปัจจัยใหม่ที่มีผลต่อการเคลื่อนไหวของค่าเงิน ประกอบกับเป็นวันทำงานสุดท้ายก่อนที่จะหยุดยาวในช่วงเทศกาลสงกรานต์ ตลาดจึงค่อนข้างเงียบ "วันนี้บาทแกว่งแคบ ไม่มีปัจจัยอะไรใหม่ๆ และก็ใกล้จะหยุดยาวสงกรานต์ด้วย" นักบริหารเงิน ระบุ นักบริหารเงิน คาดว่า เงินบาทในสัปดาห์หน้าจะเคลื่อนไหวอยู่ในกรอบ 32.50-32.60 บาท/ดอลลาร์ โดยปัจจัยสำคัญสำหรับสัปดาห์หน้าคือ จับตาผลการประชุมธนาคารกลางยุโรป(ECB) * ปัจจัยสำคัญ - ปิดตลาดเย็นนี้ เงินเยนอยู่ที่ระดับ 120.26 เยน/ดอลลาร์ จากช่วงเช้าที่ระดับ 120.55 เยน/ดอลลาร์ - ส่วนเงินยูโร อยู่ที่ระดับ 1.0616 ดอลลาร์/ยูโร จากช่วงเช้าที่ระดับ 1.0675 ดอลลาร์/ยูโร
- ดัชนี SET ปิดวันนี้ที่ระดับ 1,547.83 เพิ่มขึ้น 2.72 จุด (+0.18%) โดยมีมูลค่าการซื้อขาย 30,299 ล้านบาท - สรุปปริมาณการซื้อขายรายกลุ่ม ต่างชาติขายสุทธิ 291.66 ลบ.(SET+MAI) - กองทุนการเงินระหว่างประเทศ(IMF) ประเมินภาวะเศรษฐกิจไทยปี 2558 โดยมองว่าเศรษฐกิจไทยมีแนวโน้มฟื้นตัวต่อเนื่องในปีนี้ และคาดว่าจะกลับมาขยายตัวได้ที่ร้อยละ 3.7ตามการฟื้นตัวของการบริโภคที่ได้รับอานิสงค์จากราคาพลังงานที่ปรับลดลง และการลงทุนของภาคเอกชนที่จะเพิ่มขึ้นหลังจากที่ทางการได้อนุมัติโครงการลงทุนต่างๆ ในช่วงที่ผ่านมา ทั้งนี้นโยบายการเงินที่ผ่อนปรนจะช่วยสนับสนุนการฟื้นตัวของเศรษฐกิจ อย่างไรก็ดี เศรษฐกิจไทยอาจขยายตัวได้ต่ำกว่าคาด โดยปัจจัยเสี่ยงภายในประเทศ ได้แก่ ความล่าช้าของนโยบายภาครัฐ อุปสงค์ภาคเอกชนที่อ่อนแอกว่าคาด และความไม่แน่นอนทางการเมือง ในขณะที่ความเสี่ยงจากภายนอกประเทศ ได้แก่ความผันผวนของตลาดการเงินโลก และการชะลอลงของเศรษฐกิจประเทศพัฒนาแล้วและเศรษฐกิจประเทศตลาดเกิดใหม่ ขณะที่ปัจจัยด้านบวกจะมาจากการบริโภคภายในประเทศและการส่งออกที่อาจได้รับผลดีมากกว่าที่คาดไว้จากราคาน้ำมันที่ลดลงมาก - ศูนย์วิจัยกสิกรไทย คาดว่า ในการรายงานผลประกอบการไตรมาส 1/2558 ของธนาคารพาณิชย์ในอีกไม่กี่วันข้างหน้านี้ ธนาคารพาณิชย์ไทยทั้ง 10 แห่ง จะยังคงสามารถรายงานผลกำไรสุทธิโดยรวมที่ปรับตัวเพิ่มขึ้น 5.7% QoQ และ 2.5% YoY โดยปัจจัยที่สำคัญในการส่งผลกำไรสุทธิของธนาคารพาณิชย์ได้สามารถยืนในแดนบวกได้ในไตรมาส 1/2558 มาจากค่าใช้จ่ายดำเนินงานที่ลดลง ซึ่งส่วนหนึ่งเป็นผลมาจากปัจจัยทางฤดูกาลจากที่ค่าใช้จ่ายได้เพิ่มขึ้นเป็นอย่างมากในไตรมาสก่อนหน้า ประกอบกับคาดว่าทุกธนาคารคงจะพยายามควบคุมค่าใช้จ่ายมากขึ้นในรูปแบบต่างๆในภาวะที่รายได้จากธุรกิจหลักยังไม่ฟื้นตัว อาทิเช่น การปรับลดงบประมาณในการประชาสัมพันธ์ การจัดแคมเปญบางรายการ เป็นต้น ทั้งนี้ คาดว่าค่าใช้จ่ายการดำเนินงานในไตรมาส 1/2558 จะลดลง 13% QoQ จากการขยายตัวที่ 11.7% QoQ ในไตรมาส 4/2557 - กระทรวงพลังงาน-การไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย(กฟผ.)-บมจ.ปตท. เปิดเฝ้าระวังวิกฤติพลังงานช่วงสงกรานต์ ซึ่งแหล่งก๊าซยาดานาและเยตากุนในเมียนมาร์ จะปิดซ่อมตั้งแต่วันที่ 10-19 เม.ย.นี้ - รัฐบาลญี่ปุ่นเปิดเผยภายหลังดัชนีนิกเกอิตลาดหุ้นโตเกียวพุ่งเหนือระดับ 20,000 จุดเป็นครั้งแรกในรอบ 15 ปีในการซื้อขายเช้านี้ว่า รัฐบาลญี่ปุ่นจะเดินหน้าส่งเสริมมาตรการ"ลูกศร 3 ดอก" ตามนโยบาย"อาเบะโนมิกส์"อย่างต่อเนื่อง เพื่อสกัดภาวะเงินฝืดและฟื้นฟูเศรษฐกิจและความแข็งแกร่งทางการคลัง สำหรับมาตรการลูกศร 3 ดอก ประกอบด้วย 1.การผ่อนคลายทางการเงินเชิงรุก 2.การใช้จ่ายด้านการคลังมูลค่ามหาศาล และ 3.กลยุทธการเติบโต ซึ่งมีเป้าหมายกระตุ้นการลงทุนภาคเอกชน - สมาคมแลกเปลี่ยนทองคำและเงินของจีน เปิดเผยว่า ราคาทองคำที่ตลาดฮ่องกงเพิ่มขึ้น 100 ดอลลาร์ฮ่องกง ปิดที่ระดับ 11,120 ดอลลาร์ฮ่องกง/ตำลึงในวันนี้ โดยราคาดังกล่าวเทียบเท่ากับ 1,202.88 ดอลลาร์สหรัฐ/ทรอยออนซ์ เพิ่มขึ้น 10.82 ดอลลาร์ ที่อัตราแลกเปลี่ยนล่าสุด 1 ดอลลาร์สหรัฐ/ 7.76 ดอลลาร์ฮ่องกง ขอบคุณข้อมูล จาก : RYT9 ขอบคุณรูปภาพ จาก : มติชน ออนไลน์