How to Choose Feng Shui Colours

Jun 21, 2017 | view 15,386

เมื่อพูดถึงเรื่องศาสตร์ของฮวงจุ้ย สิ่งที่อยู่คู่กันมาอีกเรื่องหนึ่งก็คือการเลือกสีสันที่เหมาะสมไม่ว่าจะเป็นกับดวงของตัวเองหรือของบ้านพักอาศัย อาคารสำนักงานหรือกระทั่งโรงงาน จนหลายๆท่านก็คงมีความสงสัยกันว่าเพราะอะไรสีสันถึงได้มีอิทธิพลในเรื่องศาสตร์ฮวงจุ้ย ใครเป็นผู้คิดค้นหรือกำหนดขึ้นมา จำเป็นแค่ไหนในการเลือกใช้สีให้ถูกต้องและเหมาะสม โดยหลักการพื้นฐานของการเลือกสีนั้นมาจากตำราที่เรียกว่า “เจี่ยโหงวเฮ้ง” หรือ “5 ธาตุแท้” ที่เราคุ้นเคยกับการใช้ในการพิจารณารูปร่าง ลักษณะ หน้าตา ของมนุษย์ เพราะหลายๆครั้งเราใช้คำว่า “ดูโหงวเฮ้ง” กับการวิเคราะห์ลักษณะทางกายภาพของเราโดยเฉพาะใบหน้า แต่แท้จริงแล้วคำว่า “โหวงเฮ้ง” หรือ “5 ธาตุ” นั้นมีความหมายกว้างกว่านั้น ต้องถือว่าเป็นวิชาพื้นฐานที่ใช้ในการพิจารณาทั้งการดูฮวงจุ้ย ดวงจีน ฤกษ์ยาม และ รูปร่างลักษณะของมนุษย์ หรือ แม้กระทั่งการแพทย์แผนจีน เรียกได้ว่าเป็นหลักการสำคัญของ “อภิมหาปรัชญาของจีน” (China Metaphysics)

ทั้งภาพซ้ายและภาพขวาแสดงถึง “วงจรธาตุ” จากหลักของ “เจี่ยโหงวเฮ้ง” หรือ “5 ธาตุแท้” ที่ถือว่าเป็นหลักวิชาพื้นฐานอย่างหนึ่งของอภิมหาปรัชญาของชาวจีน

หลักของ “เจี่ยโหงวเฮ้ง” หรือ “5 ธาตุแท้” ว่าด้วยการแบ่งสรรพสิ่งทุกอย่างบนโลกใบนี้ออกมาเป็น “5 ธาตุ” ได้แก่ “ธาตุน้ำ” “ธาตุไม้” “ธาตุไฟ” “ธาตุดิน” และ “ธาตุทอง” ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของฤดูกาล เวลา รูปทาง ทิศทาง รวมไปถึงสีสัน และทุกสรรพสิ่งล้วนมีการเกี่ยวข้องโยงใยกันเป็นพลวัต เรียกว่า “วงจรธาตุ” ได้แก่ ธาตุน้ำส่งเสริมธาตุไม้ เช่นการทำให้ไม้เติบโตได้ต้องใช้น้ำ ธาตุไม้ส่งเสริมธาตุไฟ เพราะไม้นั้นเป็นเชื้อเพลิงให้ไฟ ธาตุไฟส่งเสริมธาตุดิน ก็เพราะเมื่อเราเผาทุกสรรพสิ่งก็ล้วนแล้วต้องกลายเป็นเถ้าธุลีลงสู่ผืนดิน ธาตุดินส่งเสริมธาตุทอง เพราะเมื่อดินสะสมเรียงตัวกันดีเป็นเวลานานก็จะเกิดโลหะแร่ธาตุอยู่ในนั้น และท้ายที่สุดธาตุทองก็กลับมาส่งเสริมธาตุน้ำ เพราะเมื่อของแข็งโดนความร้อนก็ต้องปรับเปลี่ยนกลายเป็นของเหลว เมื่อดูแล้วก็ช่างน่าอัศจรรย์ที่หลักการนี้นั้นถูกคิดค้นมามากกว่า 2,000 ปีแล้ว (มีการเริ่มใช่อย่างจริงจังในสมัยราชวงศ์ฮั่น) ถือว่าเป็น “สัจธรรม” อีกอย่างหนึ่งที่ไม่มีความล้าสมัย

เราสามารถแบ่งสีสันออกมาเป็น 5 ธาตุ และนำมาใช้ให้เหมาะสมกับกิจการการงานของเราได้ดังนี้ 1.ธาตุน้ำ ได้แก่สีฟ้า น้ำเงิน เทา ดำ ของใสๆ หรือ บรรยากาศที่มีน้ำเยอะๆ โดยพลังของธาตุน้ำนั้นหมายถึงการไหลลื่น การปรับตัวตามสภาพแวดล้อม พลังธาตุน้ำจึงเสริมเรื่องเกี่ยวกับการค้าขาย การเดินทาง การขนส่ง ความราบรื่น การติดต่อสื่อสาร ธุรกิจที่เกี่ยวข้องกับชาวต่างชาติ ภาษา การท่องเที่ยว การโรงแรม การปรับตัว การพลิกแพลง การใช้ความคิดที่ลึกซึ้ง ธุรกิจที่ลึกลับ ซับซ้อน ยากต่อการเข้าใจ หรือธุรกิจที่เกี่ยวข้องกับน้ำโดยตรง ส่วนปีนักษัตรที่มีพลังของธาตุน้ำได้แก่ กุนและชวด

การตกแต่งห้องโดยใช้สีสันของพลังแบบ “ธาตุน้ำ”

2.ธาตุไม้ ได้แก่สีเขียวอ่อน เขียวแก่ น้ำตาลอ่อนแบบมีลายไม้ หรือบรรยากาศธรรมชาติ โดยพลังของธาตุไม้นั้นหมายถึงการเติบโต การงอกเงย ความสวยงาม พลังธาตุน้ำจึงเสริมในเรื่องของการศึกษาวิชาการ การสื่อสารโฆษณาประชาสัมพันธ์ งานศิลปะ สิ่งของสวยงาม งานบริการที่ต้องใช้ฝีไม้ฝีมือ ของออกแบบตกแต่งที่ต้องใช้ความประณีต ของสะสมเฉพาะอย่างเฉพาะรุ่น ธุรกิจการศึกษา เช่นโรงเรียน โรงเรียนกวดวิชา หรือธุรกิจสิ่งพิมพ์ ขายหนังสือ ร้านขายยา ล้วนเกี่ยวข้องกับพลังธาตุไม้ ส่วนนักษัตรที่มีพลังของธาตุไม้ได้แก่ ขาลและเถาะ

การตกแต่งห้องโดยใช้สีสันของพลังแบบ “ธาตุไม้”

3.ธาตุไฟ ได้แก่สีแดง ชมพู ม่วง หรือบรรยากาศสว่างๆแสงธรรมชาติเข้าเยอะๆ หรือจะเป็นแสงจากโคมไฟหลอดไฟก็ได้ โดยพลังของธาตุไฟนั้นหมายถึง ความโดดเด่น ความกระจ่าง ความร้อนแรง พลังธาตุไฟจึงเสริมในเรื่องของ ชื่อเสียง ความสวยงาม ความยินดี การประสบความสำเร็จ เป็นที่โดดเด่นในสังคม การตรวจสอบ การคิดวิเคราะห์ได้กระจ่าง ธุรกิจเกี่ยวกับความงาม การออกแบบตกแต่ง งานวิชาชีพที่ต้องให้ความกระจ่างต่างๆเช่น สถาปนิก วิศวกร แพทย์ ทนายความล้วนมีพลังของธาตุไฟ โดยนักษัตรที่มีพลังของธาตุไฟได้แก่ มะเส็งและมะเมีย

การตกแต่งห้องโดยใช้สีสันของพลังแบบ “ธาตุไฟ”

4.ธาตุดิน ได้แก่สีเหลือง ส้ม น้ำตาล ครีม หรืออุปกรณ์ดิน หิน เซรามิค การจัดสวนหินสวยๆประดับ โดยพลังของธาตุดินนั้นหมายถึงการสะสมทรัพย์สินให้เพิ่มพูนเหมือนภูเขา พลังธาตุดินจึงเสริมธุรกิจที่ต้องมีการรวบรวมสิ่งของผู้คน เช่นอสังหาริมทรัพย์ต่างๆ โครงการจัดสรรบ้าน ที่ดิน พื้นที่ให้เช่า อาคารสำนักงาน โรงงาน ตลาด โรงพยาบาล โรงรับจำนำ ร้านสะดวกซื้อ ธุรกิจค้าส่ง ค้าปลีก ร้านอาหาร ธุรกิจประกันชีวิต ธนาคาร หรือสินค้าโภคภัณฑ์ที่ปลูกจากดิน เช่น ข้าว ข้าวโพด มันสำปะหลัง กาแฟ ถั่วเหลือง ฯลฯ ล้วนมีพลังของธาตุดิน โดยนักษัตรที่มีพลังของธาตุดินได้แก่ ฉลู มะโรง มะแม และ จอ

การตกแต่งห้องโดยใช้สีสันของพลังแบบ “ธาตุดิน”

5.ธาตุทอง ได้แก่สีขาว เงิน ทอง อุปกรณ์โลหะมันวาว โดยพลังของธาตุทองนั้นหมายถึงความรวดเร็ว เฉียบคม ทันสมัย พลังธาตุทองจึงเสริมเกี่ยวกับเรื่องของเทคโนโลยีที่ทันสมัย เช่นโทรคมนาคม การสื่อสาร คอมพิวเตอร์ โทรศัพท์มือถือ เครื่องจักรที่ซับซ้อนเช่นเครื่องบิน รถยนต์ หรือชิ้นส่วนที่ทำจากโลหะ เช่น อะไหล่รถยนต์ ชิ้นส่วนเครื่องจักร น็อต สกรู เครื่องมือแพทย์ทั้งขนาดใหญ่ขนาดเล็ก เครื่องประดับมีราคา เช่น ทองคำ เงิน เพชร หรือธุรกิจการงานที่มีลักษณะต้องแก่งแย่งแข่งขันสูงก็ถือว่ามีพลังของธาตุทอง โดยนักษัตรที่มีพลังของธาตุทองได้แก่ วอกและระกา

การตกแต่งห้องโดยใช้สีสันของพลังแบบ “ธาตุทอง”

การใช้สีสันดังกล่าวหากเลือกใช้ได้เหมาะสมก็จะเป็นการช่วยดึงเอาศักยภาพของธุรกิจออกมาได้มากขึ้น ผมยกตัวอย่างเช่น ในกรณีของ Facebook เครือข่ายสังคมออนไลน์ที่ได้รับการยอมรับว่าใหญ่และมีพลังมากที่สุดในโลกนั้น เน้นเรื่องของการเชื่อมต่อ ติดต่อสื่อสาร กับคนหลายชาติ หลายประเทศ หลายภาษา การเลือกใช้ “สีน้ำเงิน” นั้นถือว่าช่วยดึงเอาพลังของ “ธาตุน้ำ” ออกมาให้ช่วยเสริมพลังของธุรกิจได้อย่างดีเยี่ยม มากไปกว่านั้นหากเรามองถึงการจัดฮวงจุ้ยแบบละเอียด ในรูปดวงของ มาร์ค ซัคเคอร์เบิร์ก เองก็ถือว่า “ธาตุน้ำ” นั้นถือเป็นธาตุโชคลาภในดวงด้วย เรียกว่าเป็นการเลือกสีที่ก่อให้เกิดความเป็น “มงคลซ้อนทับมงคล”

ซัคเคอร์เบิร์ก มักใช้แต่สีฟ้า น้ำเงิน เทา ดำ มาตลอดชีวิต ซึ่งเป็นความโชคดีที่เป็นสีที่เสริมดวงของเขามากที่สุด

หรือหากมองในกรณีศึกษาของ Apple ผู้ผลิตโทรศัพท์มือถือและคอมพิวเตอร์ที่ได้รับการยอมรับว่าได้สร้างนวัตกรรมและเทคโนโลยีใหม่ๆให้กับโลกของเราอยู่เสมอ หลังจากช่วงวิกฤติของบริษัทเมื่อได้แยกทางกับสตีฟ จ็อบส์ ในครั้งแรกช่วงก่อนปี คศ.2004 หลังจากจ็อบส์ได้กลับเข้ามาใน Apple เขาก็ได้ Re-Brand ตราสินค้าและตัวสินค้าทั้งหมดด้วย “สีขาว สีเงิน” และรูปทรงที่มีความโค้งกลม เรียบง่าย เพื่อดึงเอาพลังของ “ธาตุทอง” ออกมา และเช่นเดียวกันเมื่อมองในการจัดฮวงจุ้ยแบบละเอียด เมื่อเทียบกับรูปดวงของ จ๊อบส์ ธาตุทองเองก็ถือว่าเป็น “ธาตุโชคลาภ” จึงถือว่าการปรับปรุงในครั้งนั้นได้ประโยชน์สองเด้ง !!

สตีฟ จ๊อบส์ กับการ Re-Brand ทั้งตราสินค้าและรูปแบบของสินค้า Apple ใหม่ ด้วยพลังของธาตุทอง