นายสันติชัย สารถวัลย์แพศย์ รองอธิบดีกรมการค้าภายใน เปิดเผยว่า ได้รับรายงานจากเจ้าหน้าที่ว่า ขณะนี้ผู้ประกอบการมีกลยุทธ์การแข่งขันในการจำหน่ายสินค้าที่ค่อนข้างรุนแรง โดยห้างสรรพสินค้า ห้างค้าปลีกสมัยใหม่ และร้านค้าทั่วไป เน้นใช้โปรโมชั่นลด แลก แจกแถม ดึงดูดลูกค้าเพื่อเร่งระบายสินค้าในสต๊อก ซึ่งในช่วง 2 เดือนข้างหน้า ราคาสินค้าในภาพรวมจะไม่ปรับขึ้นแน่นอน “สาเหตุที่ทำให้ราคาสินค้าไม่ปรับขึ้น หรือการใช้กลยุทธ์ทางการค้าในการลดแลก แจก แถม ของผู้ประกอบการนั้นมาจาก 3 ปัจจัยหลัก คือ กำลังซื้อผู้บริโภคหดตัวจากราคาสินค้าเกษตรตกต่ำ ส่งผลให้รายได้เกษตรกร ซึ่งเป็นคนส่วนใหญ่ของประเทศลดลงด้วย ความไม่มั่นใจในการจับจ่ายใช้สอย และต้นทุนการผลิตสินค้าต่ำ โดยเฉพาะได้รับอานิสงส์จากราคาน้ำมันดีเซลที่ลดลงมาก”
อย่างไรก็ตาม แม้ยอดการจำหน่ายสินค้าจะลดลง แต่ขอยืนยันว่า เศรษฐกิจยังไม่เข้าสู่ภาวะเงินฝืด เพราะการใช้จ่ายไม่ได้ติดลบมากนัก ที่สำคัญสินค้าหลายชนิดยังขายได้ และแม้ผู้ประกอบการจะแข่งขันลดราคาสินค้า หรือจัดทำโปรโมชั่นกันมาก แต่ยังไม่ปรากฏว่า มีสินค้าประเภทใดที่ผูกขาดตลาด ด้านนางดวงกมล เจียมบุตร โฆษกกระทรวงพาณิชย์ กล่าวว่า กระทรวง ได้ดำเนินโครงการงานธงฟ้าลดค่าครองชีพประชาชนอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะในช่วง 2 ไตรมาสแรกของปีงบประมาณ 58 สามารถช่วยลดค่าครองชีพให้ประชาชนได้คิดเป็นสัดส่วนถึง 20-30% เฉพาะโครงการโมบาย ธงฟ้า ที่ส่งรถเคลื่อนที่เข้าไปในเขตต่างๆ ในกรุงเทพฯ ช่วยลดค่าครองชีพได้ถึง 34 ล้านบาท ทำให้กำลังพิจารณาที่จะดำเนินโครงการดังกล่าวอีกครั้ง ส่วนโครงการร้านโลว์ คอสต์ ดีพาร์ตเม้นต์สโตร์นั้น กระทรวงเป็นเพียงคนประสานผู้ผลิตสินค้าให้กับผู้ประกอบการดีพาร์ตเม้นต์สโตร์ ซึ่งในการผลิตสินค้าที่จะไม่เน้นรูปแบบบรรจุภัณฑ์ที่สวยงาม เพื่อลดต้นทุนการผลิตขณะนี้มีความคืบหน้าพอสมควร คาดว่าจะเปิดตัวได้ต้นเดือน พ.ค.นี้ เบื้องต้นเอกชนต้องการเปิดให้ได้ 10 สาขา อย่างไรก็ตาม เชื่อว่ากลุ่มลูกค้าจะเป็นคนละกลุ่มกับลูกค้าโชห่วย จึงไม่กระทบร้านโชห่วย อีกทั้งโชห่วยก็สามารถเข้าร่วมโครงการได้เช่นกัน.

ขอบคุณข้อมูลจาก : ไทยรัฐออนไลน์