นายศุภฤกษ์ ศูรางกูร นายกสมาคมไทยบริการท่องเที่ยว (ทีทีเอเอ) เปิดเผยว่า ได้ประชุมบริษัทนำเที่ยวที่ได้รับผลกระทบจากการไม่สามารถนำนักท่องเที่ยวไทยเดินทางไปประเทศญี่ปุ่นได้ ตั้งแต่ช่วงสิ้นเดือน มี.ค.ที่ผ่านมาจนถึงวันที่ 11 เม.ย. จากกรณีกรมการบินพลเรือนญี่ปุ่น (เจแคป) อยู่ในช่วงไม่อนุญาตให้เครื่องบินเช่าเหมาลำของไทย หรือชาร์เตอร์ ไฟลท์ บินเข้าประเทศญี่ปุ่น โดยพบว่ามีลูกทัวร์ได้รับผลกระทบประมาณ 20,000 คน แบ่งเป็นกลุ่มที่ไม่ได้เดินทาง เพราะสายการบินประกาศยกเลิกเที่ยวบินให้ทราบล่วงหน้าก่อน ซึ่งส่วนนี้บริษัททัวร์และสายการบินได้คืนเงินแล้ว และกลุ่มที่เดินทางไปถึงสนามบินแล้วแต่เครื่องบินไม่สามารถทำการบินได้เลยหรือออกช้ากว่าเวลาปกติ
สำหรับความเสียหายที่เกิดขึ้น ที่ประชุมมีความเห็นร่วมกันว่า สายการบินชาร์เตอร์ ไฟลท์ทั้ง 5 สายการบินที่ทำการบินไปญี่ปุ่นยังมีความต้องการทำธุรกิจต่อไป เพราะขายที่นั่งโดยสารผ่านบริษัทนำเที่ยวเป็นหลัก จึงแนะนำให้บริษัทนำเที่ยวที่ได้รับความเสียหายรวมตัวกันไปเรียกร้องความเสียหายจากสายการบินเพื่อขอให้ช่วยชดเชยเพิ่มเติม ให้มากกว่าค่าตั๋วโดยสารที่จะต้องคืนให้อยู่แล้ว เพราะบริษัทนำเที่ยวมีค่าเสียหายอื่นๆด้วย เช่น คู่ค้าในประเทศญี่ปุ่นไม่สามารถคืนเงินค่ามัดจำรถทัวร์ และค่าโรงแรมให้ได้เนื่องจากไม่ได้เดินทางไปตามที่กำหนดไว้ ขณะนี้ยังไม่ทราบความเสียหายรวมที่ชัดเจน จึงให้บริษัทนำเที่ยวไปรวบรวมใบเสร็จต่างๆแล้วรวมตัวกันไปคุยกับสายการบิน หรือจะให้ทีทีเอเอช่วยต่อรองก็ได้ โดยสายการบินอาจให้เป็นเงินสด หรือตั๋วโดยสาร หรือคิดเป็นเงินค่ามัดจำตั๋วโดยสารในอนาคตก็ได้ ทั้งนี้ ตลอดเดือน เม.ย.นี้คาดว่ามีคนไทยไปเที่ยวญี่ปุ่น 100,000 คน โดยบริษัทนำเที่ยวยังขายแพ็กเกจทัวร์ญี่ปุ่นตามปกติ แม้เจแคปจะอนุญาตให้ชาร์เตอร์ ไฟลท์ไทยบินเข้าญี่ปุ่นได้ถึงสิ้นเดือน พ.ค.นี้ เนื่องจากยังมีสายการบินที่ทำการบินแบบประจำอยู่.

ขอบคุณข้อมูลจาก : ไทยรัฐออนไลน์