จักรมณฑ์ชงคสช.ใช้ม.44 ผุดเตาเผาขยะทั่วไทย

นายจักรมณฑ์ ผาสุกวนิช รมว.อุตสาหกรรม เปิดเผยหลังการตรวจเยี่ยม นิคมอุตสาหกรรมมาบตาพุด ว่า ในการหารือพบว่าภาคอุตสาหกรรมในพื้นที่ได้ประสบปัญหาผลกระทบจากการแก้ไขผังเมืองฉบับใหม่ ที่ได้ลดพื้นที่สีม่วงของภาคอุตสาหกรรมลงจากเดิมที่มีขนาดพื้นที่ 4.2 หมื่นไร่ เหลือเพียง 2.2 หมื่นไร่ ทำให้ไม่สามารถขยายการลงทุนของภาคอุตสาหกรรมออกไปได้ โดยปัญหานี้คาดว่าจะสามารถหาข้อสรุปที่ลงตัวได้ในระดับพื้นที่

นอกจากนี้ ยังกระทบต่อโครงการก่อสร้างเตาเผาขยะผลิตไฟฟ้าของ องค์การบริหารส่วนจ.ระยอง กับกลุ่ม ปตท. เพราะได้ถูกปรับผังไปเป็นสีเขียวไม่สามารถสร้างโรงงานใดๆได้ จะส่งผลกระทบต่อนโยบายกำจัดมลพิษ และการกำจัดกากอุตสาหกรรมของรัฐบาล รวมทั้งชาวบ้านในพื้นที่ก็เห็นด้วยกับโครงการนี้ ซึ่งหากจะแก้ไขปัญหานี้ด้วยวิธีปกติ จะต้องใช้เวลาไม่ต่ำกว่า 2 ปี ซึ่งอาจส่งผลกระทบต่อสภาพแวดล้อมในพื้นที่มาบตาพุดได้ ดังนั้นในความเห็นส่วนตัวจึงมีแนวคิดที่จะเสนอต่อ คณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) ให้ใช้มาตรา 44 กำหนดให้เตาเผาขยะที่จะสร้างขึ้นในพื้นที่ต่างๆทั่วประเทศ สามารถก่อสร้างได้โดยไม่ติดกับกฎหมายผังเมือง เนื่องจากเป็นโครงการที่สร้างสรรค์เกิดประโยชน์ต่อทุกฝ่าย และโรงงานเผาขยะจำเป็นต้องอยู่ไม่ไกลจากตัวเมือง เพื่อลดต้นทุนการขนส่งขยะ ซึ่งหากใช้วิธีการปกติอาจจะแก้ไขได้ช้า โดยการแก้ไขปัญหาขยะชุมชน และขยะอุตสาหกรรมนี้ ประเทศที่พัฒนาแล้วส่วนใหญ่ต่างใช้เตาในการกำจัดขยะแทนทั้งสิ้น โดยเฉพาะประเทศญี่ปุ่นมีเตาเผาขยะทั้งหมดกว่า 1 พันแห่ง และในจำนวนนี้มี 300 กว่าแห่งที่สามารถผลิตไฟฟ้าได้ด้วย นายประจักษ์ โสธรศักดิ์ ประธานชมรมผู้ประกอบการมาบตาพุด กล่าวว่า ร่างผังเมืองมาบตาพุดฉบับใหม่ของกระทรวงมหาดไทยนี้ ได้ลดพื้นที่ประกอบการอุตสาหกรรมลงได้ส่งผลกระทบอย่างรุนแรงสำหรับภาคอุตสาหกรรมในพื้นที่มาบตาพุดเป็นอย่างมาก โดยการประเมินเบื้องต้นได้ส่งผลกระทบต่อโรงงานปิโตรเคมีขนาดใหญ่กว่า 20 ราย ที่ถูกลดพื้นที่อุตสาหกรรมลง ทำให้ไม่สามารถขยายกิจการต่อไปได้ รวมทั้งบางส่วนได้ลงทุนซื้อที่ดินเพื่อรองรับการขยายโรงงานไว้แล้วเป็นจำนวนมาก