นายประสาร ไตรรัตน์วรกุล ผู้ว่าการธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) กล่าวว่า ในการประชุมคณะกรรมการนโยบายการเงิน (กนง.) ในวันที่ 29 เม.ย.นี้ ซึ่งหลายฝ่ายให้ความสำคัญถึงการตัดสินใจนโยบายดอกเบี้ย ทาง กนง.จะนำประเด็นเรื่องการฟื้นตัวของเศรษฐกิจไทยในช่วงที่ผ่านมา ปัจจัยเศรษฐกิจจากต่างประเทศซึ่งมีการเปลี่ยนแปลงไป โดยเฉพาะกรณีการชะลอตัวของเศรษฐกิจ รวมทั้งค่าเงินบาทที่แข็งค่าซึ่งมีผลต่อการส่งออกเข้ามาพิจารณาร่วมด้วย เพื่อตัดสินใจนโยบายการเงินที่เหมาะสมต่อภาวะเศรษฐกิจไทยมากที่สุด
ทั้งนี้ สำหรับตัวเลขการขยายตัวของผลิตภัณฑ์มวลรวมในประเทศ (จีดีพี) ไตรมาส 1 ของปี 2558 ที่สำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ หรือ สศช.ให้ตัวเลขประมาณการว่าจะขยายตัว 3% เทียบกับระยะเดียวกันของปีก่อนนั้น หากเทียบกับไตรมาสแรกของปีที่ผ่านมา ซึ่งเศรษฐกิจไทยโตต่ำ เพราะยังมีปัญหาในเรื่องการเมืองถือว่าเป็นการโตที่ใช้ได้ แต่เศรษฐกิจต้องมองในหลายๆภาพ ทั้งนี้ ตัวเลขโต 3% ของไตรมาสแรกหากเทียบกับไตรมาส 4 ของปี 2557 จะออกมาติดลบเล็กน้อย ทำให้การมองเศรษฐกิจต่อไปต้องมีความระมัดระวังอยู่ แต่อย่างไรก็ตาม ในไตรมาส 2 และ 3 ธปท.คาดว่าเศรษฐกิจจะขยายตัวดีขึ้น ส่วนกรณีที่ภาคเอกชนมีความเป็นห่วงเรื่องเงินบาทที่แข็งค่าขึ้นต่อเนื่อง ซึ่งกระทบต่อการแข่งขันด้านการส่งออกนั้น ผู้ว่าการ ธปท.ยอมรับว่าในช่วง 2-3 วันนี้ เงินบาทแข็งค่าขึ้น เหตุผลส่วนหนึ่งเพราะปัจจัยต่างประเทศที่เงินดอลลาร์สหรัฐฯ อ่อนค่าลงจากตัวเลขเศรษฐกิจบางตัวของสหรัฐฯที่ออกมาไม่ค่อยดี ขณะที่เงินสกุลภูมิภาคบางสกุลอ่อนค่าลงจากปัจจัยเฉพาะในประเทศ ซึ่งเรื่องนี้ ธปท.เข้าใจถึงปัญหาค่าเงินบาท และมีการดูแลอยู่อย่างต่อเนื่อง ซึ่งจะเป็นอีกประเด็นหนึ่งที่จะพิจารณาในการประชุม กนง.ด้วยเช่นกัน.

ขอบคุณข้อมูลจาก : ไทยรัฐออนไลน์