เมื่อไม่เอา modern trade แล้วคุณจะเหลืออะไร
VGI ประกาศยกเลิกสัญญาที่ทำกับ modern trade ทั้งหลายโดยให้เหตุผลว่า ยากในการบริหารจัดการ เอ่อ มีงานมันก็ดีกว่าไม่มีใช่มั้ย?? คุณไม่อยากได้โฆษณาใน modern trade อย่างนี้ก็เหมือนส่งลูกค้าไปให้ PLANB หรือเปล่า??
หลังจากที่โดน Tesco Lotus เล่นงานโดยการยกเลิกสัญญา in store advertisement ก่อนหน้านี้ (ทาง Lotus ใช้บริษัทลูกตัวเองเข้ามาทำแทน) ก็เล่นเอา VGI ถึงกับออกอาการเป๋ไปเลย แต่แปลกนะ แทนที่จะหาทางหาลูกค้า พี่แกเล่นประกาศเลิกทำธุรกิจด้านนี้ไปเลย แล้วเหลืออะไร??
ก็เหลือแค่โฆษณาบนรถไฟฟ้าเป็นหลัก ซึ่งแน่นอนว่าการเติบโตมันก็คงจะมาจากค่าโฆษณาที่มันสามารถจะขึ้นได้เรื่อยๆ แต่การขยายตัวนี่สิ ที่น่าเป็นห่วง เพราะหากคิดจะเอาดีแต่การโฆษณาบน BTS ก็ต้องรอการเติบโตของรถไฟฟ้าเท่านั้น นั่นคือ ต้องรอให้มีการสร้างส่วนต่อขยาย หรือรอให้ BTS ประมูลรถไฟฟ้าสายอื่นๆเพิ่มเติมมากกว่านี้และที่สำคัญก็คือ รายได้จากส่วนต่อขยายนั้นมันไม่ได้สวยหรูเหมือนรายได้จากเส้นทางหลักที่เป็นของ BTS เองหรอกนะ เพราะในส่วนต่อขยายต่างๆนั้น BTS มีหน้าที่แค่รับจ้างเดินรถ ไม่ได้เป็นเจ้าของสถานี
ดังนั้น หาก VGI จะเข้าไปโฆษณาในพื้นที่ส่วนต่อขยาย ต้องมีการทำสัญญากับ กทม และต้องดูด้วยว่าจะต้องจ่ายให้กับ กทม มากน้อยขนาดไหน เห็นชัดเจนเลยว่า มาร์จิ้นจากโฆษณาในส่วนต่อขยายย่อมต้องต่ำกว่าโฆษณาในส่วนที่ BTS เป็นเจ้าของสัมปทานเอง ยกตัวอย่างเช่น ณ ปัจจุบัน สถานีกรุงธนบุรี จนถึงบางหว้า ก็ยังไม่มีโฆษณาใดๆ เพราะยังไม่ได้มีการทำสัญญา
ผมถึงแปลกใจมากที่ VGI ตัดสินใจเฉือนเนื้อตัวเองโดยอ้างว่า บริหารจัดการลำบาก เหตุผลแค่นี้เหรอ?? กับการทำธุรกิจ ถ้ามันลำบาก ทำไมบริษัทอันดับ 2 อย่าง PLANB ถึงทำได้ แถมได้บริหารโฆษณาในห้างสรรพสินค้าเกรดเอหลายแห่งเสียด้วย
นักวิเคราะห์มองว่าการตัดสินใจดังกล่าว กระทบกับรายได้และกำไรของ VGI ราว 5 - 10% ซึ่งนั่นก็เพียงพอที่จะทำให้หุ้น VGI ถูกแรงกดดัน เราคงต้องดูกันต่อไป ว่าเมื่อ BTS เลิกจับธุรกิจตรงนี้ จะมีแผนการอย่างไรต่อไป หากไม่มีอะไรรองรับ หรือคิดแต่จะรอรายได้จากโฆษณาบนรถไฟฟ้าและสถานีอย่างเดียว ผมว่า VGI จะหมดเสน่ห์
เพราะก่อนหน้านี้ นักวิเคราะห์ค่อนข้างให้น้ำหนักในการกระจายรายได้ของ VGI ไปสู่ sector อื่นที่นอกเหนือจากบนรถไฟฟ้า
รู้สึกตะหงิดๆ แปลกๆยังไงไม่รู้ ตั้งแต่ตอนที่มีข่าวเกี่ยวกับเรื่อง TH ที่มี VGI เข้าไปเกี่ยวข้องและดีลมันล้มไป และก่อนหน้านี้ก็ยังมีข่าวไม่ค่อยดีที่ถูกดึงเข้าไปเกี่ยวข้องกับมหากาพย์ SLC NMG อีกด้วย จริงๆนะ ผมไม่ชอบบริษัทที่ยอมเอาชื่อของตัวเองเข้าไปยุ่งเกี่ยวกับเรื่องแบบนี้ กรณี TH เราก็รู้อยู่ว่าหุ้นตัวนี้ห่วยแตกขนาดไหน ขนาดเฮียโตงเตงยังเอาไม่อยู่เลย แล้ว VGI จะเอามือไปแตะให้มันเปื้อนราคีทำไม?
เอาเป็นว่า ถ้า ณ จุดนี้ ผมเปลี่ยนใจมาเชียร์ PLANB มากกว่า VGI ใครไม่เคยหาข้อมูลของ PLANB ไปกางดูเลย ธุรกิจของ PLANB ดูหลากหลายกว่า VGI และดูมีความเป็นมืออาชีพมากกว่า คุณดูพอร์ตลูกค้าของ PLANB ได้เลย แล้วคุณจะอยากซื้อ PLANB มากกว่า VGI ผมจะกลับมาดู VGI ก็ต่อเมื่อผมเห็นแผนธุรกิจที่ชัดเจนว่าจะเอาอย่างไรต่อไป ถ้าคิดจะทำแต่บนรถไฟฟ้า ผมไม่เล่นด้วย เพราะการเติบโตมันจำกัดมาก
หมายเหตุ : ภาพประกอบบทความ บางภาพไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับเนื้อหาแต่อย่างใด Photo credit by :www.vgi.co.th
ขอบคุณข้อมูลจาก : Wattana Stock Page
Discussion
Follow breaking news Investment property articles on Facebook, click here.