ผวาหนี้เน่าไตรมาสแรกพุ่ง 1%
นายสุรพล โอภาสเสถียร ผู้จัดการใหญ่ บริษัทข้อมูลเครดิตแห่งชาติ จำกัด หรือเครดิตบูโร เปิดเผยถึงรายงานเดือน มี.ค.ที่ผ่านมา มีบัญชีสินเชื่อที่เปิดอยู่ทั้งหมดของบุคคลธรรมดาที่อยู่ในเครดิตบูโร จากสมาชิก 82 แห่ง ไม่รวมธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธ.ก.ส.) มีจำนวน 48.76 ล้านบัญชีสินเชื่อ เพิ่มขึ้นจากปลายปี 57 เพียง 1% สะท้อนความเข้มงวดของการอนุมัติสินเชื่อใหม่ในปีนี้อย่างชัดเจน โดยจำนวนบัญชีที่ไม่ค้างชำระมีจำนวน 38.7 ล้านบัญชี โตขึ้นจากปลายปี 57 เท่ากับ 0.5% จำนวนบัญชีที่ค้างเกิน 30 วัน แต่ยังไม่เกิน 90 วัน มีจำนวน 1.22 ล้านบัญชี โตขึ้นจากปีที่แล้ว 1% สะท้อนการควบคุมดูแลบัญชีที่เริ่มค้างอย่างใกล้ชิด มีการติดตามดีมาก
ขณะที่จำนวนบัญชีที่ค้างตั้งแต่ 90 วันขึ้นไป หรือจัดเป็นหนี้ที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้ (เอ็นพีแอล) ในไตรมาสแรก 4.2 ล้านบัญชี โตขึ้นมาจากปลายปี 1% สะท้อนการบริหารจัดการหนี้เสียโดยการตัดขายให้บริษัทบริหารสินทรัพย์ (เอเอ็มซี) เพื่อ ดำเนินคดี ได้ดีมียอดเพิ่มน้อย แต่ยังทำให้ลดลงมามากกว่านี้ไม่ได้ ส่วนสินเชื่อต้องกำกับดูแลใกล้ชิดคือ สินเชื่อส่วนบุคคล บัตรกดเงินสด ตามมาด้วยสินเชื่อรถยนต์
ขณะที่บัตรเครดิตและสินเชื่อบ้านยังไม่มีอะไรน่าเป็นห่วง ที่สำคัญคือ คนที่มีรายได้ในช่วง 30,000-50,000 บาท ต้องระมัดระวังการใช้จ่ายและการก่อหนี้ ไม่ควรเกิน 40% ของรายได้สำหรับสินเชื่อบุคคลปล่อยใหม่ แต่ที่เป็นห่วงคือรายที่ปล่อยไปแล้วและลูกหนี้เก่ามีรายได้ไม่สูงนัก ลูกค้าในกลุ่มนี้จะมีการควบคุมได้อย่างไร ส่วนความถี่ของสมาชิกเครดิตบูโรที่ใช้บริการตรวจเช็กเครดิตบูโรในช่วงไตรมาสแรก มีจำนวน 3.09 ล้านรายการ หรือเฉลี่ยเดือนละ 1 ล้านรายการ ปรับลดลงจากช่วงเดียวกันของปีที่แล้วอยู่ที่เดือนละ 1.1 ล้านรายการ ซึ่งเป็นไปตามอัตราการปล่อยสินเชื่อที่ลดลง.
ขอบคุณข้อมูลจาก : ไทยรัฐออนไลน์
Discussion
Follow breaking news Investment property articles on Facebook, click here.