‘เอกชน12กลุ่ม’เสนอรมว.พาณิชย์สัปดาห์นี้ ดันแผนเร่งด่วนฟื้นส่งออก
เตรียมเสนอแผนกระตุ้นส่งออกเร่งด่วนให้ รมว.พาณิชย์ พิจารณาสัปดาห์นี้ ด้าน “สภาผู้ขนส่งสินค้าทางเรือ” แนะรัฐส่งออกธุรกิจบริการ อาทิ สปา ร้านอาหาร ฯลฯ ตีตลาดนอก ชดเชยภาคการผลิตที่มูลค่าลดลงต่อเนื่อง
นางนันทวัลย์ ศกุนตนาค อธิบดีกรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ เปิดเผยว่า ภายในสัปดาห์นี้ จะมีการประชุมหารือร่วมกับภาคเอกชนทั้ง 12 กลุ่ม จากนั้นจะจัดทำสรุปแผนเร่งด่วนในการผลักดันการส่งออกสินค้าไทย จำนวน 12 กลุ่ม ได้แก่ ยานยนต์และชิ้นส่วน อัญมณีและเครื่องประดับ เกษตรและอาหาร กลุ่มตลาดเพื่อนบ้านคือ กัมพูชา ลาว เมียนมาร์ และเวียดนาม หรือกลุ่ม CLMV ไลฟ์สไตล์ สิ่งทอและเครื่องหนัง ไฟฟ้าและอิเล็กทรอนิกส์ วัสดุและบริการก่อสร้าง โลจิสติกส์ สุขภาพและความงาม ดิจิตอลคอนเทนต์ และการพิมพ์ สินค้าฮาลาล เสนอให้กับพล.อ.ฉัตรชัย สาริกัลยะ รมว.พาณิชย์ เพื่อพิจารณา
ทั้งนี้ จากการหารือในเบื้องต้นภาคเอกชนต้องการให้ กระทรวงพาณิชย์ เป็นผู้แทน จัดคณะเดินทางไปบุกเจาะตลาดประเทศเป้าหมาย และพบปะเจรจากับผู้ซื้อในต่างประเทศ เพื่อช่วยเพิ่มยอดการส่งออกให้ไทย โดยหลังจากที่ได้ข้อสรุปแล้วจะเปิดรับสมัคร จัดทำรายละเอียดสินค้า ก่อนที่จะส่งต่อไปให้ทูตพาณิชย์เพื่อทำการนัดหมายกับผู้ซื้อ และนำคณะของไทยไปเจรจาซื้อขาย โดยจะทำทันทีและทำต่อเนื่อง และในการผลักดันการส่งออก หากมีความจำเป็นต้องใช้การเจรจาในระดับรัฐมนตรี ทั้งการเจรจาเปิดตลาด หรือการแก้ไขปัญหาการส่งออก ก็จะเสนอให้รมว.พาณิชย์ รมช.พาณิชย์ หรือปลัดกระทรวงพาณิชย์ เป็นหัวหน้าคณะในการเดินทางไปเจรจาในประเทศเป้าหมาย
สำหรับกิจกรรมที่เอกชนเสนอให้กรม ช่วยในการผลักดันการส่งออก เช่น ยานยนต์และชิ้นส่วน เสนอให้จัดคณะผู้แทนการค้าเดินทางไปลาตินอเมริกา ในเดือนมิ.ย. และไปแอฟริกา ปลายเดือนก.ค. หรือต้นเดือนส.ค. 2558, กลุ่มอัญมณีและเครื่องประดับ ขอให้เพิ่มกิจกรรมในตลาดจีน เกาหลี ยุโรป รัสเซีย และตะวันออกกลาง, กลุ่มเฟอร์นิเจอร์ ขอไปตลาดอาเซียน ญี่ปุ่น และตะวันออกกลาง ส่วนกลุ่มของใช้บนโต๊ะอาหาร ขอไปอาเซียน ตะวันออกกลาง และเกาหลี ขณะที่กลุ่มสินค้าอาหาร กรมได้สนับสนุนและผลักดันอย่างต่อเนื่องอยู่แล้ว ภาคเอกชนจึงขอให้ช่วยแก้ไขปัญหาและอุปสรรคในการส่งออก โดยเฉพาะปัญหาการขาดแคลนวัตถุดิบ ทั้งกุ้งและปลา ดูแลอัตราแลกเปลี่ยน เร่งแก้ไขปัญหาการประมง รวมถึงปัญหาเทียร์ 3 ของสหรัฐ หรือเรื่องปัญหาการใช้แรงงาน
“ด้านอุปสรรคในการส่งออกที่ภาคเอกชนแต่ละกลุ่มสินค้าเสนอมา กรมจะทำการรวบรวมนำเสนอให้รมว.พาณิชย์ พิจารณา ซึ่งหากสามารถดำเนินการแก้ไขได้ในระดับกระทรวงพาณิชย์ ก็จะดำเนินการแก้ไขในทันที แต่หากไปเกี่ยวข้องกับกระทรวงอื่นๆ รมว.พาณิชย์ จะนำเสนอให้คณะรัฐมนตรี (ครม.) เพื่อสั่งการให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องช่วยแก้ไขต่อไป” นางนันทวัลย์ กล่าว
นายคงฤทธิ์ จันทริก ผู้อำนวยการ สภาผู้ส่งสินค้าทางเรือแห่งประเทศไทย (สรท.) เปิดเผยว่า สรท. ต้องการให้รัฐบาลเร่งจัดทำแผนยุทธศาสตร์เพื่อพัฒนาเศรษฐกิจด้านบริการการเพื่อผลักดันส่งออกภาคบริการมากขึ้น เพื่อลดสัดส่วนการส่งออกสินค้าภาคการผลิต เพราะปัจจุบันสินค้าภาคบริการจะมีราคาสูง ซึ่งจะช่วยเพิ่มมูลค่าการส่งออกไทยในภาพรวม ซึ่งต้องยอมรับว่าประเทศไทยมีความชำนาญสินค้าเหล่านี้หลายประเภท ไม่ว่าจะเป็นเรื่องการบริการด้านความสวยความงาม, รักษาสุขภาพ, สปา, โลจิสติกส์, ร้านอาหาร, บริการด้านการจัดจำหน่ายที่ครอบคลุมถึงการบริการค้าปลีก ค้าส่ง การบริการในลักษณะตัวแทนจำหน่าย, ด้านการศึกษา, บริการด้านการท่องเที่ยว และการเดินทางที่เกี่ยวเนื่องกับการท่องเที่ยว รวมถึงบริการด้านนันทนาการ วัฒนธรรม และการกีฬา
“หากไทยยังเน้นสินค้าจากภาคการผลิตในอนาคตมูลค่าการส่งออกไทยก็จะมีแนวโน้มที่ลดลงต่อเนื่อง เนื่องจากการแข่งขันการลดราคาที่รุนแรงของประเทศคู่แข่ง ประกอบกับต้นทุนการผลิตของไทยยังสูงกว่าประเทศเพื่อนบ้าน และหลายประเทศมีนโยบายที่จะพึ่งพาสินค้าในประเทศเป็นหลัก”
นายคงฤทธิ์ กล่าวว่า แม้ว่าสัดส่วนภาคบริการไทยจะคิดเป็น 34.8% ของจีดีพี แต่ก็ถือว่าเป็นสัดส่วนที่น้อยหากเทียบกับประเทศที่พัฒนาแล้วอย่างสิงคโปร์ ญี่ปุ่น และเกาหลีใต้ ที่มีสัดส่วนภาคบริการสูงกว่า 70% ของจีดีพี หากประเทศไทยจะก้าวไปสู่ประเทศที่พัฒนาแล้วหรือการส่งเสริมการสร้างความยั่งยืนการส่งออกก็ต้องให้ความสำคัญด้านการพัฒนาคุณภาพคน การวิจัยและพัฒนาเทคโนโลยี การสร้างมูลค่าเพิ่มให้กับธุรกิจภาคการบริการ เป็นต้น
หมายเหตุ : ภาพประกอบบทความ บางภาพไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับเนื้อหาแต่อย่างใด Photo credit by : www.tnamcot.com
ขอบคุณข้อมูลจาก : แนวหน้า
Discussion
Follow breaking news Investment property articles on Facebook, click here.