ธนารักษ์ลุ้นคลังทุ่ม 1.4 พันล้าน ลุยจ้างพนักงานใหม่ 800 อัตรา นายจักรกฤศฏิ์ พาราพันธกุล อธิบดีกรมธนารักษ์ เปิดเผยว่า การประเมินราคาที่ดินรายแปลงและสิ่งปลูกสร้าง ซึ่งเป็นภารกิจหลักของกรมธนารักษ์ ตาม พ.ร.บ.ภาษีที่ดินและสิ่งปลูกสร้าง จะเสร็จก่อนกฎหมายมีผลบังคับใช้ถึง 6 เดือน เพื่อให้องค์การบริหารส่วนท้องถิ่น (อปท.) มีระยะเวลาในการเตรียมความพร้อมในการใช้กฎหมายใหม่ โดยกรมธนารักษ์ได้แบ่งภารกิจในเรื่องดังกล่าวเป็น 2 ระยะคือ 1.ในช่วงแรกระหว่างปีงบประมาณ 2558 จนถึงงบปี 2559 จะประเมินราคาที่ดินให้เสร็จ 32 ล้านแปลงทั่วประเทศ และ 2.ในช่วงต้นปีงบ 2560 จะวางหลักเกณฑ์การประเมินราคาสิ่งปลูกสร้าง (บ้าน) “สิ้นเดือน เม.ย.58 กรมธนารักษ์ประเมินราคาที่ดินรายแปลงเสร็จแล้ว 4 ล้านแปลง และตั้งเป้าหมายว่า จนถึงสิ้นปีงบประมาณ 2558 ในเดือน ก.ย.นี้ หรืออีก 5 เดือนข้างหน้าจะประเมินที่ดินได้เพิ่มขึ้นอีก 8 ล้านแปลงรวมเป็น 12 ล้านแปลง โดยจะใช้งบประมาณ 200 ล้านบาท จ้างลูกจ้างเพิ่ม 800 คนทั่วประเทศ และในปีงบประมาณ 2559 จะใช้เงินจากงบกลางของนายกรัฐมนตรีอีก 1,200 ล้านบาท ลงทุนทางด้านเครื่องมือและอุปกรณ์เพื่อเก็บข้อมูลที่ดินทั่วประเทศไทย”
นายจักรกฤศฏิ์กล่าวว่า ในช่วงแรกของการทำงานอาจจะมีความล่าช้าบ้างเนื่องจาก 1.จำนวนคนไม่เพียงพอกับปริมาณงานที่เพิ่มขึ้น และ 2. ลูกจ้างหน้าใหม่ที่เข้ามาทำงานยังขาดประสบการณ์ แต่เมื่อระยะเวลาผ่านพ้นไป บุคลากรเหล่านี้ก็จะมีความเชี่ยวชาญมากขึ้น ทำงานได้เร็วขึ้น อุปสรรคและปัญหาต่างๆก็ลดลง โดยตั้งเป้าหมายภายในงบปี 2559 จะประเมินที่ดินรายแปลงได้เพิ่มขึ้นอีก 20 ล้านแปลง เมื่อรวมกับปี 2558 ที่ประเมินได้ 12 ล้านแปลง ก็เท่ากับเราประเมินที่ดินได้ครบทั้งหมด 32 ล้านแปลงทั่วประเทศ ส่วนในช่วงต้นงบประมาณปี 2560 ซึ่งถือเป็นระยะที่ 2 ของโครงการจะเน้นหนักเรื่องที่วางหลักเกณฑ์และแบบบ้านหรือสิ่งปลูกสร้าง จากปัจจุบัน ที่กรมธนารักษ์มีแบบบ้านมาตรฐาน 69 แบบ ถือว่า มีจำนวนมากเกินไปและยังทำให้เกิดความสับสน ทำให้ผู้บริหารท้องถิ่นสามารถใช้ดุลพินิจในการ ตัดสินใจได้ กลายเป็นช่องโหว่ของการทุจริต กรมธนารักษ์ก็จะปรับปรุงแบบบ้านให้ลดลงเหลือ 5-10 แบบ เพื่อให้ง่ายต่อการตรวจสอบและสามารถสังเกตเห็นได้จากภายนอกรั้วบ้าน โดยคาดว่า จะใช้ระยะเวลา ในการพิจารณาเพียง 2-3 เดือนก็เสร็จเรียบร้อย เพราะในช่วงระหว่างนี้ ธนารักษ์ไม่ได้หยุดคิดเรื่องของการประเมินราคาสิ่งปลูกสร้าง แต่เนื้องานกว่า 90% จะเน้นเรื่องราคาประเมินที่ดิน “งานของกรมธนารักษ์จะทำได้รวดเร็วขึ้น เพราะมีประสบการณ์มากขึ้น จากเดิมที่ช่วงแรกที่ไม่มีประสบการณ์ และภายใต้เงื่อนไขคนที่มีอยู่ อย่างจำกัด แต่เมื่อปลดล็อกสิ่งต่างๆ ที่เป็นปัญหาออกไปได้ ปริมาณงานและผลงานก็จะมีมากขึ้น ซึ่งในขณะนี้ รมว.คลังเห็นชอบในหลักการเพิ่มของงบประมาณแล้ว และอยู่ระหว่างการหารือกับนายกรัฐมนตรี” ขอขอบคุณข้อมูลจาก : ไทยรัฐ