ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ในขณะนี้สายตลาดการเงิน ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) ได้มีการหารือและเตรียมการร่วมกันกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เช่น คณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (ก.ล.ต.) ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (ตลท.) และสมาคมตราสารหนี้ไทย เพื่อหารือแนวทางการผ่อนคลายเกณฑ์การออกไปลงทุนในต่างประเทศเพิ่มเติมในส่วนของบุคคลในประเทศ หลังจากที่ ธปท. ได้ประกาศมาตรการผ่อนคลายเงินไหลออกไปในช่วงก่อนหน้า ซึ่งจะอนุญาตให้บุคคลในประเทศสามารถออกไปลงทุนหลักทรัพย์ในตลาดต่างประเทศ โดยไม่ต้องผ่านตัวกลางทางการเงิน ในปี 2559-2560 ทั้งนี้ ธปท.และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องจะมีการตั้งคณะกรรมการร่วมขึ้นมา เพื่อวางหลักเกณฑ์คุณสมบัติของบุคคลธรรมดาและนิติบุคคล รวมทั้งกำหนดวงเงินที่เหมาะสม และในช่วงปี 2558 นี้ ธปท.ได้วางแนวทางว่า จะดำเนินการร่วมกันเพื่อให้ความรู้ทางการเงิน และผลิตภัณฑ์ทางการเงินใหม่ๆ กับนักลงทุนไทย รวมทั้งสร้างความเข้าใจการไปลงทุนหลักทรัพย์ในต่างประเทศ เช่น การซื้อขาย การจ่ายเงิน รวมถึงภาษี และผลตอบแทน ฯลฯ รวมทั้งรับรู้กับความเสี่ยงต่างๆ ที่จะต้องเผชิญ เช่น ความเสี่ยงของตัวหลักทรัพย์ที่อาจจะมีความซับซ้อนกว่าหลักทรัพย์ที่ขายในประเทศไทย ความเสี่ยงของผลตอบแทน รวมทั้งความเสี่ยงจากอัตราแลกเปลี่ยนเงินตราต่างประเทศ เป็นต้น โดยจะมีการให้ความรู้ผ่านสื่อประเภทต่างๆ การจัดสัมมนาในข้อหัวที่เกี่ยวข้อง และจะจัดอบรมนักลงทุนเพิ่มเติมด้วย
ผู้สื่อข่าวรายงานเพิ่มเติมว่า ในปัจจุบัน ธปท.ได้อนุญาตให้บุคคล และนิติบุคคล 9 ประเภทเท่านั้นที่สามารถออกไปลงทุนในหลักทรัพย์ต่างประเทศได้เอง โดยไม่ต้องผ่านตัวกลาง คือ กองทุนรวม กองทุนสำรองเลี้ยงชีพ บริษัทเงินทุน กองทุนบำเหน็จบำนาญข้าราชการ สำนักงานประกันสังคม บริษัทประกัน สถาบันการเงินเฉพาะกิจ บริษัทจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย และธุรกิจหรือนิติบุคคลที่มีสินทรัพย์ 5,000 ล้านบาทขึ้นไป แต่ในช่วงที่ผ่านมา มีบุคคลในประเทศซึ่งมีสินทรัพย์ครอบครองส่วนบุคคลจำนวนมาก และมีความรู้ความสามารถในการบริหารจัดการเงินทุนและมีที่ ปรึกษาทางการเงินที่ดีเพียงพอ สนใจที่จะออกไปลงทุนในต่างประเทศด้วยตัวเอง จำนวนมากขึ้น และ ธปท.เห็นว่าจะช่วยให้คนไทยกระจายความเสี่ยงการลงทุนได้อย่างมีประสิทธิภาพ แต่อย่างไรก็ตาม ในเบื้องต้น ซึ่งจะให้อนุญาตในลอตแรกในช่วงปี 2559-2560 นี้จะเป็นการอนุญาตโดยมีเงื่อนไขคุณสมบัติของบุคคล และกำหนดวงเงินก่อน เพราะถือว่าเป็นธุรกรรมที่มีความเสี่ยงสูง และมีความซับซ้อนในการลงทุน ดังนั้น ไม่ใช่ว่านักลงทุนในประเทศคนไหนที่จะนึกอยากจะออกไปซื้อหุ้น ซื้อตราสารหนี้ หรือฝากเงินในต่างประเทศก็ทำได้เลยทันที จะต้องมีการศึกษาหาความรู้ และมีประสบการณ์ในการบริหารจัดการเงินที่ดี และหลังปี 2560 หากพบว่านักลงทุนไทยมีความรู้ด้านการเงินและการลงทุนดีขึ้น ธปท.อาจจะขยายการผ่อนคลายให้มากขึ้นได้.

ขอบคุณข้อมูลจาก : ไทยรัฐออนไลน์