ธอส.ยืนยันรัฐบาลมีนโยบายให้เดินหน้าสร้างโอกาสให้ข้าราชการและบุคลากรภาครัฐมีที่อยู่อาศัยเป็นของตนเอง ระบุมติ ครม.ยกเลิกโครงการสวัสดิการเงินกู้เพื่อที่อยู่อาศัยของข้าราชการไม่กระทบสภาพคล่องธนาคาร นางอังคณา ปิลันธน์โอวาท ไชยมนัส กรรมการผู้จัดการ ธนาคารอาคารสงเคราะห์ (ธอส.) เปิดเผยว่า จากกรณี ครม.มีมติเห็นชอบให้ยกเลิกโครงการสวัสดิการเงินกู้เพื่อที่อยู่อาศัยของข้าราชการ และนำเงินงบประมาณในโครงการสวัสดิการเงินกู้เพื่อที่อยู่อาศัยของข้าราชการที่กรมบัญชีกลางฝากอยู่ที่ ธอส.ส่งคลังเป็นรายได้แผ่นดินนั้น ธอส.ขอชี้แจงว่าโครงการสวัสดิการเงินกู้เพื่อที่อยู่อาศัยของข้าราชการ เป็นโครงการให้สินเชื่อแก่ข้าราชการและลูกจ้างประจำตามเงื่อนไขที่กำหนดไว้ในพระราชกฤษฎีกาสวัสดิการเงินกู้เพื่อที่อยู่อาศัย พ.ศ.2535 โดยธนาคารคิดอัตราดอกเบี้ย MRR-3.00 ทั้งนี้ โครงการดังกล่าวได้รับอุดหนุนเงินงบประมาณจากรัฐบาลส่วนหนึ่ง และ ธอส.สมทบอีกส่วนหนึ่ง เพื่อให้เป็นสวัสดิการให้ข้าราชการ ลูกจ้างมีที่อยู่อาศัยเป็นของตนเอง อย่างไรก็ตาม ได้ยุติการปล่อยสินเชื่อใหม่สำหรับโครงการดังกล่าวแล้วตั้งแต่ปี 2545 โดยมีจำนวนของลูกค้าที่เป็นข้าราชการเข้าร่วมโครงการทั้งหมด 71,559 บัญชี วงเงินประมาณ 27,300 ล้านบาท และวันที่ 31 มีนาคม 2558 ยังมีลูกค้าเหลือ 2,670 บัญชี วงเงินประมาณ 200 ล้านบาท ซึ่งขณะนี้ธนาคารอยู่ระหว่างหารือกับกรมบัญชีกลางเพื่อหาวิธีปฏิบัติ เพื่อไม่ให้ลูกค้าที่ยังอยู่ในโครงการเดิมได้รับผลกระทบ ขณะเดียวกันแม้จะยุติการดำเนินโครงการสวัสดิการเงินกู้เพื่อที่อยู่อาศัยของข้าราชการ ในปี 2545 แต่รัฐบาลก็มีนโยบายให้ธนาคารจัดทำโครงการสินเชื่อเพื่อรองรับข้าราชการและบุคลากรภาครัฐให้สามารถมีที่อยู่อาศัยเป็นของตนเองมาอย่างต่อเนื่อง อาทิ โครงการบ้าน ธอส. – กบข. เพื่อที่อยู่อาศัยข้าราชการ ซึ่งดำเนินการต่อเนื่องมาตั้งแต่ปี 2544 – 2557 ส่วนข้าราชการที่ไม่ใช่สมาชิกกองทุนบำเหน็จบำนาญข้าราชการ (กบข.) ก็สามารถใช้บริการโครงการสินเชื่อสำหรับบุคลากรภาครัฐ ได้ โดยยอดสินเชื่อล่าสุดเดือนมีนาคม 2558 มีข้าราชการและบุคลากรภาครัฐได้รับสินเชื่อผ่านโครงการดังกล่าวแล้วกว่า 252,000 บัญชี คิดเป็นวงเงินกู้รวมกว่า 184,000 ล้านบาท และขณะนี้ธนาคารอยู่ระหว่างเตรียมเปิดตัวโครงการประจำปี 2558 ซึ่งเป็นโครงการบ้าน ธอส. – กบข. ครั้งที่ 11 “ยืนยันรัฐบาลมีนโยบายให้ ธอส. เดินหน้าสร้างโอกาสให้ลูกค้าประชาชน รวมถึงข้าราชการและบุคลากรภาครัฐได้มีที่อยู่อาศัยเป็นของตนเองต่อเนื่อง ดังนั้น ข้าราชการและบุคลากรภาครัฐที่ต้องการมีที่อยู่อาศัยเป็นของตนเองยังสามารถใช้บริการสินเชื่อบ้านกับ ธอส.เช่นเดิม โดยถือเป็นส่วนหนึ่งของการสนับสนุนยุทธศาสตร์ลดความเหลื่อมล้ำของรัฐบาลของ ธอส. เพื่อช่วยให้ผู้ที่มีรายได้น้อยถึงปานกลางได้มีที่อยู่อาศัยเป็นของตนเอง โดยมุ่งเน้นผู้ที่ยังไม่เคยมีที่อยู่อาศัยเป็นของตนเองมาก่อน” นางอังคณา กล่าว
นางอังคณา กล่าวเพิ่มเติมว่า กรณีที่มติ ครม. กำหนดให้ ธอส. นำเงินตามโครงการสวัสดิการเงินกู้เพื่อที่อยู่อาศัยของข้าราชการพร้อมดอกเบี้ยที่เกิดจากโครงการดังกล่าวทั้งหมดคืนให้กรมบัญชีกลาง เพื่อส่งคืนเป็นรายได้แผ่นดินนั้น ธนาคารได้มีการประชุมหารือกับกรมบัญชีกลางมาอย่างต่อเนื่องตั้งแต่ปี 2553 ล่าสุดมีเงินที่กรมบัญชีกลางฝากไว้กับ ธอส. ตามโครงการดังกล่าว 7,600 ล้านบาท ซึ่งอยู่ระหว่างหารือกับกรมบัญชีกลางเพื่อให้เป็นไปตามมติ ครม. ต่อไป ทั้งนี้ การส่งเงินคืนดังกล่าวไม่ได้กระทบกับสภาพคล่องหรือความแข็งแกร่งของธนาคาร เห็นได้จากสถานะเงินกองทุนต่อสินทรัพย์เสี่ยง หรือ BIS Ratio สิ้นเดือนมีนาคมอยู่ที่ร้อยละ 16.73 สูงกว่าเกณฑ์มาตรฐานที่ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) ตั้งไว้ที่ร้อยละ 8.5.

ขอบคุณข้อมูลจาก : สำนักข่าวไทย