ททท.ชี้คนจีนแห่ทะลักเที่ยวไทย คาดปีนี้ไม่ต่ำกว่า 6 ล้านคน
ททท.คาดปีนี้นักท่องเที่ยวจีนไม่ต่ำกว่า 6 ล้านคนเดินทางเข้ามาประเทศไทย เชื่อสูงกว่าที่ตั้งเป้าไว้ 5.4 ล้านคน ชี้ไตรมาสแรกจีนขยายตัวแล้ว 112% เผยงานทีทีเอ็มพลัส 2015 ได้รับการตอบรับจากผู้ซื้อต่างชาติอย่างมาก โดยจีนนำมาอันดับหนึ่ง...
เมื่อวันที่ 20 พ.ค.58 นางจุฑาพร เริงรณอาษา รองผู้ว่าการด้านตลาดยุโรป แอฟริกา ตะวันออกกลางและอเมริกา ในฐานะรักษาการผู้ว่าการการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) เปิดเผยว่า ในปี 2558 จะมีนักท่องเที่ยวจีนมาประเทศไทยไม่ต่ำกว่า 6 ล้านคน ซึ่งสูงที่สุดและเกินเป้าหมายที่ ททท.ตั้งไว้ก่อนหน้านี้ที่ 5.4 ล้านคน เพราะเพียงแค่ไตรมาสแรก (ม.ค.-มี.ค.) ของปี 2558 มีนักท่องเที่ยวจีนเข้ามาแล้ว 679,660 คน เพิ่มขึ้น 112% จากระยะเดียวกันของปีที่ผ่านมา และมีส่วนแบ่งการตลาด 26% ของนักท่องเที่ยวทุกประเทศ โดยส่วนแบ่งการตลาดในระดับดังกล่าวเพิ่มขึ้นจากระยะเดียวกันของปีที่แล้ว 15%
ทั้งนี้ ในการจัดงาน ไทยแลนด์ ทราเวล มาร์ท พลัส 2015 หรือ ทีทีเอ็ม พลัส 2015 ซึ่งเป็นงานส่งเสริมการขายสินค้าท่องเที่ยวที่ ททท.จัดขึ้นเป็นปีที่ 14 ในช่วงระหว่างวันที่ 3-5 มิ.ย.นี้ ยังพบว่าจำนวนของผู้ซื้อที่จะเดินทางมาจาก 50 ประเทศทั่วโลกรวม 400 ราย เป็นผู้ซื้อที่มาจากประเทศจีนสูงสุดเป็นอันดับ 1 ถึง 42 ราย รองลงมาจากสหราชอาณาจักร 29 ราย ออสเตรเลีย 20 ราย อินเดีย 18 ราย สหรัฐอเมริกา 15 ราย แอฟริกาใต้ 15 ราย และอิตาลี 12 ราย เป็นต้น อีกทั้งในจำนวนของผู้ซื้อมีสัดส่วนคนที่เพิ่งเดินทางมาครั้งแรก 45% โดยมีตลาดที่น่าสนใจ เช่น ละตินอเมริกา อาร์เจนตินา บราซิล ชิลี เอกวาดอร์ บาห์เรน บัลแกเรีย มอลโดวา เป็นต้น
ส่วนผู้ขายซึ่งเป็นผู้ประกอบการไทยในปีนี้ ทั้งสิ้น 400 รายนั้น ททท.ได้เปิดโอกาสให้ผู้ประกอบการรายใหม่เข้าร่วม 80 ราย เพิ่มขึ้น 20% จากปีที่ผ่านมา และขยายไปยังผู้ประกอบในภูมิภาคใหม่ๆ เช่น อุบลราชธานี ตราด ระยอง ประจวบคีรีขันธ์ มากขึ้น เพื่อตอกย้ำการเป็นเทรดโชว์ที่ให้โอกาสเอสเอ็มอีมีโอกาสทำตลาดสร้างเครือข่ายกับต่างชาติอย่างทั่วถึง นอกจากนี้ ในการจัดงานทีทีเอ็ม พลัส 2015 ครั้งนี้ จะมีการปรับหลักเกณฑ์การประเมินผลใหม่ โดยเปรียบเทียบผลความพึงพอใจในความสำเร็จเชิงธุรกิจ เทียบกับงานเทรดโชว์ด้านท่องเที่ยวระดับธุรกิจต่อธุรกิจ (บีทูบี) รายการใหญ่ระดับเอเชียที่มีอยู่ คือ งานอาเซียน ทราเวล ฟอรั่ม (เอทีเอฟ) และงานพาต้า ทราเวล มาร์ท ด้วยการเตรียมสอบถามผู้ขายที่มาร่วมงานในปีนี้ เพื่อนำไปปรับปรุงเพื่อให้เป็นเวทีการซื้อขายด้านท่องเที่ยวที่ประสบความสำเร็จมากขึ้นในโอกาสต่อไป โดยในการจัดงานครั้งนี้ คาดการณ์ว่า ผู้ประกอบการที่เข้ามาเสนอขายสินค้าในแต่ละราย จะมีนัดพบปะเพื่อเจรจาธุรกิจได้สูงสุด 30 นัดหมายภายในการเปิดเวที 2 วัน
นางจุฑาพร กล่าวด้วยว่า สถานการณ์ท่องเที่ยวในช่วงครึ่งปีหลังปีนี้ ยังมีโอกาสเติบโตต่อเนื่องจากครึ่งปีแรกที่ผ่านในช่วงไตรมาส 1 มาด้วยจำนวนนักท่องเที่ยวเติบโต 23.54% เป็น 7.8 ล้านคน และยังคงเป็นอุตสาหกรรมที่ฟื้นตัวโดดเด่นที่สุด เนื่องจากมีปัจจัยหนุนได้แก่ ค่าเงินบาทที่อ่อนตัวลง เมื่อเทียบกับสกุลเงินหลักอย่าง ยูโร และดอลลาร์สหรัฐฯ ที่นักท่องเที่ยวทั่วโลกใช้จ่าย เพราะเท่ากับตลาดที่เป็นเป้าหมายหลักอย่างยุโรปและอเมริกา จะพิจารณาการเดินทางมาท่องเที่ยวในไทยมากขึ้น
"ค่าเงินมีผลต่อการตัดสินใจเดินทางมาก โดยอัตราการเปลี่ยนแปลงในอัตราแลกเปลี่ยนไม่ควรแข็งค่าเกิน 20% เพราะมีผลเรื่องการตัดสินใจใช้จ่ายและเลือกสถานที่ท่องเที่ยวทันที เช่น ตลาดรัสเซียที่ผ่านมา ซึ่งเงินรูเบิลอ่อนตัวลงถึง 50% มีผลชัดเจนทำให้คนยกเลิกการเดินทางต่างประเทศ ซึ่งหากเทียบกับอัตราของเงินบาทในปัจจุบัน อยู่ในแนวโน้มที่ดีขึ้นแล้ว ทำให้คลายปัจจัยกังวลเรื่องนี้ไปพอสมควร" นางจุฑาพรกล่าว
สำหรับเป้าหมายรายได้ต่างชาติที่ตั้งไว้ 1.4 ล้านล้านบาท ซึ่งในช่วง 3 เดือนแรกทำได้ราว 400,000 ล้านบาทแล้วนั้น ประเมินว่าในช่วงอีก 9 เดือนที่เหลือยังมีโอกาสทำรายได้ให้ตามเป้า เพราะเมื่อเข้าสู่ช่วงไตรมาสสุดท้ายที่เป็นไฮซีซั่นอีกครั้ง อุตสาหกรรมท่องเที่ยวน่าจะทำรายได้ในระดับที่ไม่ต่ำกว่าไตรมาสแรก 400,000 ล้านบาท ส่วนรายได้อีก 600,000 ล้านบาทที่ต้องเร่งทำในช่วงโลว์ซีซั่นนั้น เชื่อว่าไม่เป็นอุปสรรค อย่างไรก็ตาม ในช่วงครึ่งปีหลัง ยังมีปัจจัยที่ต้องจับตาคืออัตราการถดถอยทางเศรษฐกิจของประเทศกลุ่มยุโรป โดยเฉพาะรัสเซียที่คาดว่าจะเหลือราว 1.2 ล้านคน ลดจากปีก่อนที่เดินทางเข้ามา 1.6 ล้านคน.
ขอบคุณข้อมูลจาก : ไทยรัฐออนไลน์
Discussion
Follow breaking news Investment property articles on Facebook, click here.