ถอนแล้ว1,816ล. แจ้ง189ประเทศ ช่วยล่าเครือข่าย เค้น 4 ผู้ต้องหายูฟันฯ พบเปิดบัญชีธนาคารเพิ่มอีก 33 บัญชีที่ปาดังเบซาร์ มียอดถูกถอนเงินสดขนเข้ามาเลเซีย 1,816 ล้านบาท ก่อนนำตัวฝากขัง ขณะเดียวกัน ตำรวจเตรียมร่อนจดหมายด่วนถึง 189 ประเทศ เรื่องแจ้งเตือน และขอให้ตรวจสอบข้อมูล การดำเนินธุรกิจการร่วมทุนกับกลุ่มบริษัทยูฟันฯ เพราะอาจติดร่างแหขึ้นบัญชีดำที่เมืองไทย ขณะที่ แมน-ศุภกิจ และลาล่า-ขวัญนภา ดาราถูกกล่าวพันยูฟัน โร่ชี้แจงพนักงานสอบสวนวันนี้ (23 พ.ค.) ตำรวจยังเดินหน้าทลายเครือข่าย บ.ยูฟันฯ แชร์ลูกโซ่ยักษ์อย่างต่อเนื่อง โดยเมื่อเวลา 11.00 น. วันที่ 22 พ.ค. ที่ศูนย์ปฏิบัติการสืบสวนและช่วยเหลือเหยื่อในคดีฉ้อโกงประชาชน (ยูฟัน) บก.ปคบ.ศูนย์ราชการเฉลิมพระเกียรติ 80 พรรษาฯ ถนนแจ้งวัฒนะ พล.ต.ท.สุวิระ ทรงเมตตา ผู้ช่วย ผบ.ตร. พ.ต.อ.อังกูร คล้ายคลึง รอง ผบก.ปคบ. พ.ต.ท.ปองพล เอี่ยมวิจารณ์ รอง ผกก.ฝ่ายกิจการการฝึกอบรม วิทยาลัยการตำรวจ กองบัญชาการศึกษา ช่วยราชการ สำนักงานผู้ช่วย ผบ.ตร.ร่วมกันแถลงผลการตรวจสอบบัญชี น.ส.นิภาพร ละมี อายุ 37 ปี นายธีรวัจน์ พัชรสุยะใหญ่ อายุ 21 ปี น.ส.ณัฏฐ์วรัญยช์ อุตมะแก้ว อายุ 24 ปี และนายบุน เกียท ชู อายุ 49 ปี ชาวมาเลเซีย สามี น.ส.นิภาพร หลังผู้ต้องหา 4 คนทำหน้าที่เป็นผู้เปิดบัญชีธนาคารต่างๆใน ต.ปาดังเบซาร์ อ.สะเดา จ.สงขลา เพื่อรับโอนเงินจากสมาชิกยูฟันฯ ก่อนจะถอนเงินสดแล้วนำข้ามไปยังประเทศมาเลเซียเพื่อฟอกให้ถูกกฎหมาย พล.ต.ท.สุวิระ ทรงเมตตา ผู้ช่วย ผบ.ตร.เปิดเผยว่า จากการตรวจสอบบัญชีผู้ต้องหา 4 คน จากเดิมพบว่ามีการเปิดบัญชีธนาคาร 5 บัญชี เบิกถอนนำเงินออกนอกประเทศ 779 ล้านบาท ตำรวจตรวจสอบพบเพิ่มเติมว่า ผู้ต้องหาทั้ง 4 คน ยังเปิดบัญชีของธนาคารต่างๆรองรับการโอนเงินของผู้เสียหายคดียูฟันฯเพื่อขนออกนอกประเทศอีก 33 บัญชี พบยอดเงินถอนไปแล้ว 1,816 ล้านบาท ส่วนการถอนและนำเงินไปยังประเทศมาเลเซีย 2 วิธี คือ นายบุน เกียท ชู เป็นผู้ขนเงินด้วยการขับรถยนต์ข้ามไปประเทศมาเลเซีย ส่วนวิธีที่ 2 จะมีนายค็อก ชาวมาเลเซีย อยู่ที่รัฐปีนัง ประเทศมาเลเซีย จะเข้ามารับเงินหน้าธนาคารหลังนายบุน เกียท ชู ถอนเงินแล้ว ขณะนี้ตำรวจกำลังเร่งตรวจสอบกล้องวงจรปิดของธนาคาร และตามสถานที่ต่างๆเป็นเบาะแสติดตามนายค็อกมาดำเนินคดี รวมทั้งตรวจสอบหาบัญชีธนาคารอื่นๆเพิ่มเติมต่อไป คาดว่าต้องมีเงินถูกถอนออกไปมากกว่านี้แน่ ผู้ช่วย ผบ.ตร.กล่าวอีกว่า ก่อนหน้านี้ได้แจ้งข้อหาทั้ง 4 คนที่จับกุมในความผิด ร่วมกันกู้ยืมเงินที่เป็นการฉ้อโกงประชาชน แต่เมื่อพบพยานหลักฐานเพิ่มขึ้น ได้แจ้งเพิ่มเติมอีก 2 ข้อหา คือ ร่วมกันฟอกเงิน และให้การสนับสนุนการกระทำความผิด เพราะมีการซ่อนเร้นเงินของการกระทำผิดเหล่านี้ ส่วนกรณีมีกระแสข่าวมีดาราชื่อดัง อาทิ อู๊ด เป็นต่อ-ธีระชาติ ธีระวิทยากุล แมน-ศุภกิจ ตังทัตสวัสดิ์ และลาล่า โปงลางสะออน-ขวัญนภา เรืองศรี เข้าร่วมเป็นสมาชิกบริษัทยูฟันฯยอมรับว่ามีพลเมืองดีส่งข้อมูลดังกล่าวให้ แต่ยังไม่มีพยานหลักฐานเชื่อมโยงว่าดาราที่ถูกนำมาโพสต์มีส่วนเกี่ยวข้อง ส่วนคลิป ลาล่า-ขวัญนภา ขึ้นพูดเวทีลักษณะเชิญชวนให้คนมาสมัครธุรกิจยูฟัน ยังไม่เห็นคลิปดังกล่าว ทั้งนี้ตำรวจจะประสานให้เข้าชี้แจง เพราะต้องให้ความเป็นธรรมกับบุคคลเหล่านี้ด้วย เบื้องต้น แมน-ศุภกิจ และลาล่า-ขวัญนภา จะเข้าชี้แจงต่อพนักงานสอบสวนในวันเสาร์ที่ 23 พ.ค.นี้ ส่วน ลาล่า-ขวัญนภาได้ประสานเบื้องต้นว่า มีสมาชิก 7 คน ส่วนใหญ่เป็นเครือพี่น้อง ต้องตรวจสอบอีกครั้งว่าเข้าข่ายความผิดหรือไม่ ด้าน พ.ต.ท.ปองพล เอี่ยมวิจารณ์ รอง ผกก.ฝ่ายกิจการการฝึกอบรม วิทยาลัยการตำรวจ บช.ศ.ช่วยราชการ สง.ผู้ช่วย ผบ.ตร.กล่าวว่า ได้ส่งหนังสือประสานความร่วมมือกับตำรวจสากล 189 ประเทศ เรื่อง เตือน และให้ตรวจสอบข้อมูลการดำเนินธุรกิจ และการร่วมทุนกับกลุ่มบริษัทยูฟันฯ ระบุข้อความโดยสรุปว่า เนื่องจาก สตช. กำลังดำเนินการทางกฎหมายกับกลุ่มบริษัทที่เรียกว่า “UFUN” และผู้บริหาร ตลอดจนผู้สมรู้ร่วมคิดมีการออกหมายจับบุคคลจำนวนมากที่เกี่ยวข้องกับคดีดังกล่าว และมีหลายคนได้ถูกจับกุมตัวแล้ว และหลายคนหลบหนีออกนอกราชอาณาจักร ทั้งนี้ เครือข่ายอาชญากรรมข้ามชาติรายนี้ได้สร้างความเสียหายให้แก่ระบบเศรษฐกิจของไทยและประชาชนชาวไทย กลุ่มบริษัทยูฟัน และเครือข่ายจะถูกขึ้นบัญชีดำและถูกดำเนินคดีตามกฎหมายประเทศไทย ดังนั้น จึงขอความร่วมมือเพื่อตรวจสอบข้อมูล ไม่ว่าจะเป็นประวัติการเดินทางเข้า-ออกประเทศ ประวัติอาชญากร และกิจกรรมอันเป็นที่น่าสงสัยอื่นๆของบุคคลองค์กรดังกล่าว ตลอดจนเครือข่ายผู้เกี่ยวข้อง และขอได้โปรดแจ้งเตือนไปยังบริษัทต่างๆในประเทศของท่าน เพื่อมิให้ร่วมลงทุนกับบริษัทยูฟัน เพื่อหลีกเลี่ยงการถูกสอบสวนดำเนินคดี และขึ้นบัญชีดำในประเทศไทย รอง ผกก. ฝ่ายกิจการการฝึกอบรม วิทยาลัยการตำรวจ กล่าวต่อว่า สำหรับคดีนี้ ตำรวจออกหมายจับผู้ต้องหาทั้งหมด 25 คน จับกุมแล้ว 17 คน อยู่ระหว่างหลบหนี 8 คน นอกจากนี้ ยังพบว่า มีลูกชายนักการเมืองระดับสูงคนหนึ่งในประเทศมาเลเซียถ่ายรูปกับ พล.ต.อธิวัฒน์ สุ่นปาน 1 ในผู้ต้องหาที่ยังหลบหนี และนายวาเลน อู ผู้ก่อตั้งบริษัทยูฟันฯ ในประเทศมาเลเซียด้วย โดย ผบ.ตร.ทางมาเลเซีย ยืนยันให้ความร่วมมือตรวจสอบเรื่องนี้อย่างเต็มที่
ต่อมาเวลา 13.30 น. วันเดียวกัน ที่ศาลอาญา รัชดาภิเษก พ.ต.อ.ธนัท แสงตันชัย พนักงานสอบสวนบก.ปคบ. คุมตัว น.ส.ณัฏฐ์วรัญยช์ อุตมะแก้ว อายุ 24 ปี นายธีรวัจน์ พัชรสุยะใหญ่ อายุ 21 ปี น.ส.นิภาพร ละมี อายุ 37 ปี และนายบุน เกียท ชู อายุ 39 ปี ชาวมาเลเซีย ผู้ต้องหาคดีร่วมกันกู้ยืมเงินที่เป็นการฉ้อโกงประชาชน ไปยื่นคำร้องฝากขังต่อศาลครั้งแรก เป็นเวลา 12 วัน ตั้งแต่วันที่ 22 พ.ค.-2 มิ.ย.58 เนื่องจากต้องสอบปากคำพยานอีก 15 ปาก สอบปากคำผู้เสียหายอีกจำนวนมาก และรอผลการตรวจสอบลายพิมพ์มือของผู้ต้องหา และอื่นๆ กรณีที่ผู้ต้องหาร่วมกับบริษัท ยูฟัน สโตร์ จำกัด ประกอบธุรกิจจำหน่ายสินค้าขายตรง ผ่านระบบออนไลน์ลักษณะแชร์ลูกโซ่ มีผู้เสียหายจำนวนมาก มีเงินหมุนเวียนประมาณ 2 หมื่นล้านบาท พนักงานสอบสวนขอคัดค้านการประกัน เนื่องจากพวกผู้ต้องหามีพฤติการณ์การกระทำผิดลักษณะร่วมมือกันขนย้าย เคลื่อนย้าย ถ่ายเททรัพย์สินเป็นเงินสดของผู้เสียหายออกนอกประเทศ โดยเฉพาะนาย บุน เกียท ชู เกี่ยวข้องเป็นเครือญาติกับผู้ต้องหาอื่น และเป็นสามีของ น.ส.นิภาพร หากปล่อยชั่วคราวเกรงผู้ต้องหาจะหลบหนี ศาลพิจารณาคำร้องและสอบถามผู้ต้องหาแล้ว ไม่คัดค้าน อนุญาตให้ฝากขังได้

ขอบคุณข้อมูลจาก : ไทยรัฐออนไลน์