"ประจิน" ขีดเส้น มิ.ย. สรุปแผนพัฒนาที่ดินมักกะสัน แลกหนี้รถไฟ และสร้างสวนสาธารณะให้ชาว กทม. ก่อนเสนอ คนร. อนุมัติเห็นชอบ... เมื่อวันที่ 25 พ.ค.58 พล.อ.อ.ประจิน จั่นตอง รมว.คมนาคม เปิดเผยภายหลังประชุมการพัฒนาพื้นที่ย่านมักกะสันเพื่อเป็นปอดของกรุงเทพมหานคร (กทม.) ว่า ขณะนี้กรมธนารักษ์ ได้ว่าจ้างที่ปรึกษามาประเมินราคาและออกแบบการใช้พื้นที่แล้ว และจากนั้นนำข้อมูลมาเปรียบเทียบกับข้อมูลของการรถไฟแห่งประเทศไทย (รฟท.) เพื่อสรุปให้ทันปลายเดือน มิ.ย.58 พร้อมกับให้นายสมหมาย ภาษี รมว.คลัง นำเข้าพิจารณาในที่ประชุมคณะกรรมการกำกับนโยบายรัฐวิสาหกิจ (คนร.) ที่มี พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีเป็นประธาน ในเดือน ก.ค.นี้ "ขั้นตอนหลังจากนี้ หาก คนร. เห็นชอบแล้ว จะมีการพิจารณาในรายละเอียดเพื่อจัดทำแผนแม่บทการพัฒนาที่ดินมักกะสัน พร้อมกับตีราคาที่ดินบริเวณมักกะสัน 497 ไร่ เพื่อล้างหนี้ของ รฟท.กับกรมธนารักษ์ด้วย ซึ่งมีนโยบายชัดเจนว่า การประเมินราคาที่ดินจะพิจารณาทั้งแปลง และประเมินค่าเสียโอกาสในการใช้ที่ดินให้กับ รฟท. ควบคู่กันไป" พล.อ.อ.ประจินกล่าว
รมว.คมนาคม กล่าวว่า เบื้องต้น รฟท. มีการศึกษาและประเมินราคาที่ดินไว้แล้วตั้งแต่ปี 53 แต่ขณะนี้ได้มีการว่าจ้างที่ปรึกษาเข้ามาศึกษาข้อมูลเพิ่มให้มีความทันสมัยสอดคล้องกับสถานการณ์ปัจจุบันยิ่งขึ้น โดยแนวทางการใช้ประโยชน์จากที่ดิน ประกอบด้วย พิพิธภัณฑ์ 30 ไร่ สวนสาธารณะ 150 ไร่ พื้นที่ในการพัฒนาเชิงพาณิชย์ 140 ไร่ ส่วนที่เหลืออีก 177 ไร่ จะมีการพัฒนาเชิงพาณิชย์ในอนาคต ส่วนแผนดำเนินการจุดแรก จะทำเส้นทางเข้า-ออกบริเวณพื้นที่มักกะสันก่อน จากนั้นจะพัฒนาพื้นที่เป็นสวนสาธารณะและบึงมักกะสัน พร้อมกับวางระบบบริหารจัดการน้ำ ทำเลนจักรยาน และจัดสร้างพิพิธภัณฑ์ ส่วนจุดสุดท้ายจะพัฒนาเป็นพื้นที่เชิงพาณิชย์ เพื่อสร้างรายได้เป็นค่าใช้จ่ายดูแลสวนสาธารณะและพิพิธภัณฑ์ "สาเหตุที่จะต้องจัดทำพิพิธภัณฑ์การรถไฟไทย เพื่อเป็นการสร้างจิตสำนึกให้กับเยาวชนได้เห็น ถึงความสำคัญและความเป็นมาการขนส่งทางราง ซึ่งมีประวัติความเป็นมาตั้งแต่สมัยรัชกาลที่ 5 จนถึงปัจจุบัน ส่วนพื้นที่สวนสาธารณะจะประกอบด้วย บึงมักกะสัน เลนจักรยาน สถานที่พักผ่อน ออกกำลังเป็นพื้นที่สีเขียว ปอดของคนกทม.อย่างแท้จริง" พล.อ.อ.ประจินกล่าว.

หมายเหตุ : ภาพประกอบบทความ บางภาพไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับเนื้อหาแต่อย่างใด Photo credit by : www.hepingshijie.com

ขอบคุณข้อมูลจาก : ไทยรัฐออนไลน์