“เรือนยอดบรมมังคลานุสรณีย์” งานมาสเตอร์พีซล่าสุด ฝีมือช่างศิลปาชีพสถาบันสิริกิติ์ พร้อมอวดโฉมกลางปีหน้า

สร้างความภูมิใจในความเป็นไทยกับกิจกรรม “เปิดตำนาน 100 ปี พระที่นั่งอนันตสมาคม” ซึ่ง เอไอเอส ได้พาสมาชิกเซเรเนดไปร่วมชมความงดงามอันวิจิตรตระการตาของพระที่นั่งอนันตสมาคม ที่มีสถาปัตยกรรมระดับตำนานแห่งสยามประเทศ พร้อมเยี่ยมชมงาน “ศิลป์แผ่นดิน ครั้งที่ 6” แบบเอ็กซ์คลูซีฟ โดยมี ท่านผู้หญิงสุภรณ์เพ็ญ หลวงเทพนิมิต รองราชเลขานุการในพระองค์สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ ให้การต้อนรับ และมี อ.เผ่าทอง ทองเจือ วิทยากรกิตติมศักดิ์ มาเป็นผู้ถ่ายทอดความรู้ ซึ่ง วิลาสินี พุทธิการันต์ ผู้บริหารเอไอเอส กล่าวว่า ในวาระที่ปีนี้พระที่นั่งอนันตสมาคม มีอายุครบ 100 ปี เพื่อมอบประสบการณ์สุดพิเศษในแคมเปญ AIS LIVE 360 จึงพาสมาชิกเซเรเนดมาชมความงดงาม พร้อมกันนี้ได้มอบเงินจำนวน 1 ล้านบาท ร่วมสนับสนุนงานศิลป์แผ่นดินอีกด้วย

ท่านผู้หญิงสุภรณ์เพ็ญ หลวงเทพนิมิต เปิดเผยว่า ปัจจุบันสถาบันสิริกิติ์มีสมาชิกประมาณ 500 คน ล้วนเป็นลูกหลานชาวไร่ชาวนา โดยสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ ทรงเชื่อว่าในสาย เลือดของคนไทย มีความเป็นช่างอยู่ทุกคน จวบจนวันนี้กว่า 40 ปีแล้วที่เป็นบทพิสูจน์ว่า พระองค์ท่านทรงมีพระราชดำริและพระวิสัยทัศน์ที่กว้างไกล ด้วยผลงานที่แสดงถึงเอกลักษณ์เกียรติศักดิ์และเกียรติภูมิของงานประณีตศิลป์ชั้นสูง แต่ละชิ้นงานล้วนทรงคุณค่า สำหรับงานศิลป์แผ่นดินในแต่ละครั้งจะเกิดขึ้นในวาระสำคัญๆ โดยครั้งต่อไป เป็นครั้งที่ 7 จะจัดขึ้นเพื่อเฉลิมฉลองมหามงคลที่ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เสด็จฯขึ้นครองสิริราชสมบัติครบ 70 ปี

ในปีมหามงคล 2559, สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ ทรงเจริญ พระชนมพรรษา 84 พรรษา และพระบาท สมเด็จพระเจ้าอยู่หัวทรงเจริญพระชนมพรรษา 90 พรรษา ในปี 2560 โดยชิ้นงาน มาสเตอร์พีซจะเป็น “เรือนยอดบรมมังคลานุสรณีย์” เป็นชื่อพระราชทาน ซึ่งมีความหมายว่า เรือนยอดที่สร้างขึ้นเป็นที่ระลึกเฉลิมพระเกียรติในโอกาสอันเป็นมงคลยิ่งใหญ่นี้ ขณะนี้อยู่ในระหว่างการก่อสร้าง โดยการประดับ ประดาทั้งหมด จะเป็นฝีมือช่างสมาชิกสถาบันสิริกิติ์ล้วนๆ คาดว่าจะแล้วเสร็จในเดือน มิ.ย. 2559 จากนั้น อ.เผ่าทอง ได้อธิบายถึงผลงานชิ้นใหม่ที่เป็นมาสเตอร์พีซ คือฉากถมทอง เรื่องรามเกียรติ์ ใช้ เทคนิคการหนุนดุนลายทั้งในส่วนของตัวละครและบรรยากาศที่เป็นพื้นหลัง เกิดเป็นภาพที่มีมิติสวยงามเสมือนมีชีวิต ซึ่งมีด้วยกัน 3 ฉาก จากซ้าย คือฉากจับม้าอุปการ ฉากกลางคือฉากลงสวน และขวาสุดคือฉากลักสีดา ความพิเศษอยู่ที่ฉากกลางคือฉากลงสวน จะได้ชมพระมหาปราสาทอันวิจิตรที่ใช้การจำหลักเงินบุดุนให้ลอยเด่นออกจากพื้น ทาทอง ซับแผ่นทองแดง ทั้ง 3 ฉากใช้ช่างฝีมือจำนวน 117คน ใช้เวลาในการจัดทำปีครึ่ง.