คิวต่อไป!! เชียงใหม่ เตรียมเพิกถอนการบุกรุกพื้นที่อุทยาน 'ดอยสุเทพ-ดอยปุย'

เชียงใหม่ เตรียมเพิกถอนการบุกรุกพื้นที่อุทยานแห่งชาติดอยสุเทพ ดอยปุย หลังพบมีการโอนสิทธิซื้อขาย และเข้ามาทำประโยชน์แทน ทั้งบุกรุกขยายพื้นที่จำนวนมาก โดยจะใช้กฎหมายคำสั่ง คสช.ที่ 66 เข้าดำเนินการเฉียบขาด... เมื่อวันที่ 6 มิ.ย. ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นายชนะ แพ่งพิบูลย์ รองผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่ เปิดเผยว่า จังหวัดเชียงใหม่ร่วมกับคณะกรรมการที่ปรึกษาอุทยานแห่งชาติดอยสุเทพ ดอยปุย และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องได้ร่วมกันประชุมการแก้ไขปัญหาบุกรุกทำลายทรัพยากรป่าไม้ในพื้นที่อุทยานแห่งชาติดอยสุเทพ ดอยปุย จำนวน 3 พื้นที่ ได้แก่ บ้านแม่เหียะใน ตำบลแม่เหียะ อำเภอเมืองเชียงใหม่ กรณีสำนักบริหารพื้นที่อนุรักษ์ที่ 16 ได้แจ้งยกเลิกทะเบียนถือครองแปลงที่ดินตามมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ 30 มิ.ย.2541 ของราษฎรที่มีการโอนสิทธิ ซื้อขาย หรือยินยอมให้บุคคลอื่นเข้ามาทำประโยชน์แทน จำนวนทั้งสิ้น 45 ราย รวม 56 แปลง มีผู้รับเอกสารการยกเลิกแล้วจำนวน 14 ราย 18 แปลง และมีผู้ยื่นอุทธรณ์ จำนวน 9 ราย รวม 10 แปลง ซึ่งสำนักบริหารพื้นที่อนุรักษ์ที่ 16 ได้ส่งเรื่องให้กรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืชแล้ว ขณะนี้อยู่ระหว่างการพิจารณา รอง ผวจ.เชียงใหม่ กล่าวอีกว่า ขณะนี้มีการตรวจสอบพบว่ามี 33 ราย อยู่ระหว่างการขอให้อำเภอเมืองตรวจสอบภูมิลำเนาปัจจุบัน เนื่องจากไม่สามารถติดต่อได้ พื้นที่บ้านขุนช่างเคี่ยน ตำบลช้างเผือก อำเภอเมือง ซึ่งได้มีการตรวจสอบภาพถ่ายทางอากาศปี 2545 เปรียบเทียบกับภาพถ่ายกูเกิลเอิร์ทปี 2557 พบการขยายพื้นที่ 52 แปลง เนื้อที่ 256 ไร่เศษ แปลงบุกรุก 25 แปลง เนื้อที่ 117 ไร่เศษ จากการประชุมชี้แจงราษฎรบ้านขุนช่างเคี่ยนปรากฏว่า ยินยอมมอบพื้นที่คืนทั้ง 2 กรณี รวมพื้นที่ 373 ไร่เศษ ส่วนราษฎรที่ได้ปลูกสร้างบ้านอยู่อาศัย 10 ราย และได้ขอให้อุทยานแห่งชาติดอยสุเทพ ดอยปุย ตรวจสอบและเสนอให้คณะกรรมการแก้ไขปัญหาบุกรุกทำลายทรัพยากรป่าไม้ในพื้นที่อุทยานแห่งชาติดอยสุเทพ ดอยปุยพิจารณา แนวทางดำเนินงานว่า เข้าข่ายผู้ยากไร้หรือไม่ ส่วนในด้านพื้นที่บ้านโป่งแยงใน บ้านกองแหะ ตำบลโป่งแยง อำเภอแม่ริม ที่ได้มีการตรวจสอบโดยใช้ภาพถ่ายทางอากาศปี 2545 กับภาพถ่ายกูเกิลเอิร์ทและพบว่ามีการขยายพื้นที่ 3 แปลง เนื่อที่ 135 ไร่เศษ แปลงบุกรุก 5 แปลง เนื้อที่ 56 ไร่เศษ ผลการประชุมชี้แจงราษฎรตำบลโป่งแยงได้เห็นด้วยกับการยกเลิกการถือครอง หากตรวจสอบพบว่า ราษฎรบุกรุกหรือขยายพื้นที่ภายหลัง มติ ครม. วันที่ 30 มิถุนายน 2541 และจะยินยอมมอบพื้นที่คืน โดย อบต.โป่งแยง กำนันและผู้ใหญ่บ้านจะร่วมกับเจ้าหน้าที่เข้าตรวจสอบพื้นที่ในเดือนมิถุนายนนี้ #terrads "ในที่ประชุมคณะกรรมการได้มีมติเห็นชอบ ในการเพิกถอนพื้นที่บางส่วนของกรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่าและพันธุ์พืช อาทิ บริเวณที่ตั้งของสถาบันวิจัยและพัฒนาพื้นที่สูง ศูนย์เมล็ดพันธุ์ข้าวเชียงใหม่ เป็นต้น ยกเว้นบริเวณพื้นที่วัดดอยแก้วและวัดดอยเปา เนื่องจากจำนวนเนื้อที่ที่ขอเพิกถอนไม่สอดคล้องกับจำนวนเนื้อที่ในเอกสารสิทธิการครอบครอง โดยต้องตรวจสอบและนำเสนอคณะกรรมการอุทยานแห่งชาติในคราวประชุมครั้งต่อไป ซึ่งเมื่อรวมกับพื้นที่ที่ผ่านความเห็นชอบก่อนหน้านี้ และอยู่ระหว่างการเสนอร่างพระราชกฤษฎีกาเพิกถอน ได้แก่ สำนักพระพุทธศาสนาแห่งชาติเพื่อจัดตั้งวัดดอยปุย กรมวิชาการเกษตรและสถาบันวิจัยและพัฒนาพื้นที่สูง เพื่อดำเนินโครงการสวนเฉลิมพระเกียรติราชพฤกษ์ และกรมทรัพยากรน้ำ เพื่อก่อสร้างอ่างเก็บน้ำห้วยแม่เหียะน้อย จะเป็นเนื้อที่เพิกถอนรวม 2,337 ไร่เศษ" รอง ผวจ.เชียงใหม่กล่าว นายชนะ กล่าวว่า ทางจังหวัดได้เน้นย้ำให้คณะทำงานได้ปฏิบัติงานโดยยึดหลักความเสมอภาค และอาศัยคำสั่งของ คสช.ที่ 66/2557 โดยให้ดำเนินการอย่างต่อเนื่อง รวดเร็ว และเฉียบขาด ตามกฎหมายด้วยความสุจริตใจ ขณะเดียวกันก็ให้ดำเนินการชี้แจง และสร้างความเข้าใจกับประชาชนในพื้นที่ควบคู่กันไปด้วย.