นายวรภัค ธันยาวงษ์ กรรมการผู้จัดการใหญ่ ธนาคารกรุงไทย จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า สัปดาห์ที่ผ่านมาได้เข้าร่วมประชุมกับ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี รวมถึงปลัดกระทรวงทุกกระทรวงและหน่วยงานรัฐวิสาหกิจ โดยนายกฯได้กำชับให้ธนาคารกรุงไทย และธนาคารเฉพาะกิจช่วยผลักดันมาตรการช่วยเหลือธุรกิจเอสเอ็มอีอย่างเต็มที่ โดยเฉพาะกลุ่มที่ได้รับผลกระทบจากปัญหาทางเศรษฐกิจ โดยต่อจากนี้ทุกฝ่ายต้องช่วยกันประคับประคองให้เอสเอ็มอีอยู่รอดให้ได้ เพราะธุรกิจเอสเอ็มอีเป็นฟันเฟืองสำคัญของเศรษฐกิจไทยและจะช่วยสร้างการเติบโต ทั้งนี้ มาตรการช่วยเหลือธุรกิจเอสเอ็มอี สอดคล้องกับยุทธศาสตร์ของธนาคารปีนี้ ที่ได้เปลี่ยนกลยุทธ์มุ่งขยายสินเชื่อรายขนาดกลางมากขึ้นจากเดิมเน้นลูกค้ารายใหญ่ โดยเน้นมาสนับสนุนสินเชื่อเอสเอ็มอีขนาดกลาง ที่มียอดขาย 100-500 ล้านบาทต่อปีให้มากขึ้น ส่วนสินเชื่อเอสเอ็มอีขนาดเล็กที่มีวงเงินกู้ตั้งแต่ 1-20 ล้านบาท ธนาคารยังทำตลาด เพื่อให้ผู้ประกอบการสามารถเข้าถึงแหล่งเงินทุน
สำหรับเอสเอ็มอีขนาดกลาง ในปีนี้ธนาคารตั้งเป้าเพิ่มพอร์ตสินเชื่อจาก 60,000 ล้านบาท เป็น 80,000 ล้านบาท หรือมีอัตราการเติบโต 30% โดยช่วง 4 เดือนแรก ได้ปล่อยสินเชื่อใหม่ไปแล้ว 20,000 ล้านบาท ขณะที่พอร์ตสินเชื่อเอสเอ็มอีรวมอยู่ที่กว่า 300,000 ล้านบาท ปีนี้ตั้งเป้าเพิ่มเป็น 400,000 ล้านบาท “การช่วยเหลือเอสเอ็มอี ธนาคารได้ปรับกระบวนการอนุมัติสินเชื่อเพื่อช่วยเหลือธุรกิจเอสเอ็มอีกลุ่มนี้ให้เร็วขึ้นภายใน 7 วัน เมื่อเทียบกับธนาคารอื่นใช้เวลาอนุมัติสินเชื่อ 30 วัน และพร้อมประสานกับบรรษัทประกันสินเชื่ออุตสาหกรรมขนาดย่อม (บสย.) ทำโครงการช่วยเหลือเอสเอ็มอีเพิ่มเติม จากที่ผ่านมาธนาคารได้ร่วมกับ บสย.สนับสนุนสินเชื่อเอสเอ็มอีอยู่แล้ว ขณะที่ผู้ประกอบการเอสเอ็มอีที่ได้รับผลกระทบจากภาวะเศรษฐกิจ ธนาคารได้เข้าไปช่วยเหลือปรับโครงสร้างหนี้เป็นรายๆไป เช่น การปรับลดดอกเบี้ยเงินกู้ หรือยืดระยะเวลาการชำระหนี้”.

ขอบคุณข้อมูลจาก : ไทยรัฐออนไลน์