สหรัฐฯยาหอมไทยคู่ค้าอันดับหนึ่ง
นางดวงกมล เจียมบุตร โฆษกกระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยภายหลังนายแพทริค เมอร์ฟี่ อุปทูตสหรัฐอเมริกาประจำประเทศไทย เข้าหารือ พล.อ.ฉัตรชัย สาริกัลยะ รมว.พาณิชย์ว่า อุปทูตสหรัฐฯมีนโยบายที่จะขยายการค้าระหว่างไทยกับสหรัฐฯมากขึ้น โดยตั้งเป้าหมายเป็นคู่ค้าอันดับหนึ่งของไทย จากปัจจุบันเป็นคู่ค้าอันดับ 3 มีมูลค่าการค้าระหว่างกัน 35,560 ล้านเหรียญสหรัฐฯ รองจากจีน และญี่ปุ่น ทั้งนี้ สหรัฐฯแจ้งว่าล่าสุดร่างกฎหมายการค้าเกี่ยวกับการให้สิทธิพิเศษทางภาษีศุลกากร หรือจีเอสพี ได้รับความเห็นชอบจากวุฒิสภาเมื่อเดือน พ.ค.ที่ผ่านมา ขณะนี้รอให้รัฐสภาเห็นชอบ หากเห็นชอบแล้วจะทำให้ไทยส่งออกสินค้าภายใต้สิทธิจีเอสพีไปยังสหรัฐฯ เพิ่มมูลค่าสูงขึ้นอีก โดยเฉพาะส่วนประกอบเครื่องปรับอากาศ อาหารปรุงแต่ง เครื่องดื่ม ถุงมือยาง ผลไม้ปรุงแต่ง เลนส์แว่นตา และชุดสายไฟ
ทั้งนี้ สองฝ่ายได้หารือและแลกเปลี่ยนแนวคิดกันหลายด้านก่อนที่เอกอัครราชทูตคนใหม่จะเข้ามารับตำแหน่ง และสองประเทศอยากที่จะคงความสัมพันธ์ทางการค้าแบบนี้ต่อปี และจะเพิ่มมูลค่าการค้าระหว่างวันเพิ่มขึ้น เพราะปัจจุบันสหรัฐฯมีบริษัทที่ทำการค้าในไทย 500 บริษัท ส่วนแง่การลงทุนสหรัฐฯถือเป็นนักลงทุนต่างชาติลำดับที่ 4 ที่เข้ามาลงทุนในไทยรองจาก ญี่ปุ่น สหภาพยุโรป และไต้หวัน มีโครงการลงทุนโดยตรงจากต่างประเทศ (เอฟดีไอ) ที่ได้รับสิทธิประโยชน์จากสำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน (บีโอไอ) ในปี 2557 จำนวน 38 โครงการ มีมูลค่าการลงทุนเพิ่มขึ้น 50,158 ล้านบาท
นอกจากนี้ พล.อ.ฉัตรชัย ยังได้เชิญให้นักธุรกิจสหรัฐฯเข้ามาลงทุนเพิ่มเติมในเขตเศรษฐกิจพิเศษเพื่อเพิ่มมูลค่าการค้าให้ก้าวขึ้นเป็นคู่ค้าอันดับ 1 ของไทย ขณะเดียวกัน ได้หารือด้านการเมืองซึ่งแจ้งว่ารัฐบาลอยู่ระหว่างการดำเนินตามแผนโรดแม็ปในระยะที่ 2 ที่มุ่งเน้นการตรวจสอบ ปฏิรูป และเร่งฟื้นฟูประชาธิปไตยที่แท้จริงและเหมาะสมกับประเทศ ส่วนการแก้ปัญหาที่สหรัฐฯจัดให้ไทยอยู่ในระดับ 3 หรือเทียร์ 3 ตามรายงานการค้ามนุษย์ของสหรัฐฯ ยืนยันว่ารัฐบาลไทยให้ความสำคัญกับการแก้ไขปัญหาการค้ามนุษย์ การใช้แรงงานเด็ก และแรงงานที่ถูกบังคับ โดยกำหนดเรื่องนี้เป็นวาระแห่งชาติ และจะมุ่งมั่นเดินหน้าขจัดปัญหาให้หมด ซึ่งอุปทูตสหรัฐฯได้แสดงความชื่นชมไทยด้วย.
ขอบคุณข้อมูลจาก : ไทยรัฐออนไลน์
Discussion
Follow breaking news Investment property articles on Facebook, click here.