นางสาวผ่องพรรณ เจียรวิริยะพันธ์ อธิบดีกรมพัฒนาธุรกิจการค้า เปิดเผยว่า ขณะนี้กรมพัฒนาธุรกิจการค้า ได้ร่วมกับกรมการท่องเที่ยว และกรมสอบสวนคดีพิเศษ ลงพื้นที่ตรวจสอบนอมินีธุรกิจท่องเที่ยวและธุรกิจที่เกี่ยวเนื่อง ตามแผนปฏิบัติการมาโดยตลอดตั้งแต่เดือน ม.ค.2558 -ปัจจุบัน โดยได้ดำเนินการไปแล้วใน 5 จังหวัดที่เป็นแหล่งท่องเที่ยวสำคัญ ได้แก่ กรุงเทพมหานคร พัทยา จ.ชลบุรี เกาะสมุย จ.สุราษฎร์ธานี หัวหิน จ.ประจวบคีรีขันธ์ และเชียงใหม่ และจากผลการตรวจสอบข้อมูลพบธุรกิจมีพฤติกรรมเข้าข่ายเป็นนอมินีจำนวน 9 ราย อยู่ระหว่างสรุปสำนวนเพื่อส่งให้ กรมสอบสวนคดีพิเศษดำเนินการตามกฎหมายต่อไป

ทั้งนี้ กรมฯ ยังมีแผนลงพื้นที่ครั้งต่อไปในเดือน ก.ค.2558 ที่ จ.ภูเก็ต ซึ่งขณะนี้ได้คัดกรองธุรกิจกลุ่มเป้าหมายเบื้องต้นแล้วจำนวน 81 ราย และหากตรวจสอบพบการกระทำผิดก็จะส่งดำเนินคดี ถึงที่สุดทุกราย เพื่อปราบปรามไม่ให้มีการใช้ตัวแทนอำพราง และอาจลงพื้นที่เดิมซ้ำหรือพื้นที่อื่นๆ เพิ่มเติมหากพบว่ามีข้อมูลผู้ประกอบธุรกิจที่เข้าข่ายเป็นนอมินี "กรมฯ ขอเตือนคนไทยที่ให้ความช่วยเหลือ สนับสนุนหรือถือหุ้นแทนคนต่างด้าวเพื่อให้คน ต่างด้าวสามารถเข้ามาประกอบธุรกิจโดยหลีกเลี่ยงหรือฝ่าฝืนกฎหมาย รวมทั้งคนต่างด้าวที่ให้คนไทยถือหุ้นแทน รวมทั้งกรรมการบริษัทก็ต้องรับผิดด้วย ซึ่งจะมีความผิดโทษจำคุกไม่เกิน 3 ปี หรือปรับตั้งแต่ 100,000-1,000,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ และยังมีโทษปรับรายวันอีกวันละ 10,000-50,000 บาท จนกว่าจะเลิกฝ่าฝืน"
สำหรับการแก้ไขปัญหานอมินี กลุ่มธุรกิจท่องเที่ยว ทางคณะกรรมการนโยบายการท่องเที่ยวแห่งชาติ (ท.ท.ช.) ได้มอบหมายให้กระทรวงพาณิชย์เป็นเจ้าภาพหลักในการจัดการ ซึ่งนางอภิรดี ตันตราภรณ์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงพาณิชย์ ได้สั่งการและมอบหมายให้กรมพัฒนาธุรกิจการค้าซึ่งมีภารกิจโดยตรงในการกำกับดูแลธุรกิจให้มีความโปร่งใส และมีธรรมาภิบาล เป็นผู้แทนในการดำเนินการแก้ปัญหาดังกล่าวอย่างจริงจัง และเมื่อวันที่ 24 ธ.ค. 2557 ที่ผ่านมา 4 หน่วยงานที่เกี่ยวข้องได้แก่ กรมพัฒนาธุรกิจการค้า สำนักงานปลัดกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา กรมการท่องเที่ยว และกรมสอบสวนคดีพิเศษ ได้สร้างความร่วมมือจัดทำบันทึกข้อตกลงความร่วมมือ(MOU) ขึ้น เพื่อร่วมกันแก้ไขปัญหานอมินีท่องเที่ยวในประเทศไทยให้หมดไป อย่างไรก็ตาม จากการลงนาม MOU ที่ผ่านมาหน่วยงานพันธมิตรได้ร่วมกันอย่างจริงจังโดย จัดทำแผนปฏิบัติการแก้ไขปัญหา ใน 4 ด้านคือ มาตรการด้านการจดทะเบียน กำหนดให้การประกอบธุรกิจนำเที่ยวจะต้องได้รับความเห็นชอบจากกรมการท่องเที่ยวในฐานะผู้รับผิดชอบก่อน จึงจะสามารถจดทะเบียนนิติบุคคลต่อกรมพัฒนาธุรกิจการค้าเพื่อให้มีวัตถุประสงค์ในการประกอบธุรกิจนำเที่ยวได้ ซึ่งขณะนี้กรมการท่องเที่ยวอยู่ระหว่างพิจารณากำหนดหลักเกณฑ์ การเชื่อมโยงข้อมูลการจดทะเบียนไปยังกรมการท่องเที่ยว เพื่อให้กรมการท่องเที่ยวสามารถดูแลคุณสมบัติของผู้ที่ได้รับอนุญาตดำเนินธุรกิจไปแล้วได้อย่างต่อเนื่อง การคัดกรองและตรวจสอบธุรกิจท่องเที่ยวที่เข้าขายนอมินี เป็นการนำข้อมูลที่แต่ละหน่วยงานได้รับมากำหนดกลุ่มเป้าหมายเพื่อตรวจสอบร่วมกัน ซึ่งจะทำให้สามารถเข้าถึงกลุ่มที่เข้าข่ายเป็นนอมินีได้อย่างแท้จริง และการดำเนินการทางกฎหมาย ซึ่งได้จัดชุดปฏิบัติการลงพื้นที่ต้องสงสัยเพื่อตรวจสอบร่วมกันอย่างสม่ำเสมอ

หมายเหตุ : ภาพประกอบบทความ บางภาพไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับเนื้อหาแต่อย่างใด Photo credit by : pantip.com

ขอบคุณข้อมูลจาก : ryt9.com