นายบุญชัย เกียรติธนาวิทย์ กรรมการผู้จัดการ และประธานเจ้าหน้าที่บริหารการลงทุน บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน (บลจ.) ธนชาต เปิดเผยว่า ตลาดหุ้นไทยในครึ่งปีหลังมีโอกาสปรับตัวขึ้นได้ดีกว่าครึ่งปีแรก โดยมองกรอบดัชนีไว้ในช่วง 1,500-1,600 จุด คาดว่า ดัชนีหุ้นไม่น่าลดลงไปต่ำกว่าระดับ 1,470 จุด แต่ขึ้นอยู่กับภาครัฐว่าจะมีการผลักดันการลงทุนได้มากน้อยเพียงใด เพราะปัจจัยบวกในครึ่งปีหลังมาจากการลงทุนโครงสร้างพื้นฐานของภาครัฐ ที่คาดว่าจะเริ่มมีการประมูลงานโครงการต่างๆ และประเมินว่าการท่องเที่ยวยังคงเติบโต จากจำนวนนักท่องเที่ยวที่เข้ามามาก แม้ขณะนี้ได้รับผลกระทบจากไวรัสเมอร์ส แต่จะกระทบต่อจิตวิทยาการลงทุนระยะสั้นๆเท่านั้น
นายธีรนาถ รุจิเมธาภาส กรรมการผู้จัดการ บลจ.ทิสโก้ กล่าวว่า ดัชนีหุ้นไทยได้ผ่านจุดต่ำสุดไปแล้ว มองว่าครึ่งปีหลังมีโอกาสที่ดัชนีจะปรับขึ้นได้ถึง 1,640 จุด จากปัจจุบันอยู่ที่ 1,500 จุด เนื่องจากได้ผลดีจากการลงทุนโครงสร้างพื้นฐาน โดยปัจจัยเสี่ยงคือการปรับขึ้นดอกเบี้ยของธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด) แต่นักลงทุนต่างชาติได้ขายหุ้นไทยออกไปมากแล้ว หากเฟดปรับขึ้นดอกเบี้ยมากกว่าที่คาดไว้ ก็จะมีเงินไหลออกจากตลาดหุ้นไทยไม่มาก จึงขอแนะนำให้เลือกลงทุนหุ้นที่ได้ผลดี คือกลุ่มวัสดุก่อสร้าง รับเหมาก่อสร้าง กลุ่มธนาคารพาณิชย์ โดยเลือกหุ้นรายตัวที่มีแนวโน้มการเติบโตสูง ควรหลีกเลี่ยงหุ้นกลุ่มที่เกี่ยวกับการอุปโภคบริโภคภายในประเทศ และกลุ่มส่งออก นายวิน อุดมรัชตวนิชย์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บลจ.วรรณ กล่าวว่า คาดว่า ดัชนีหุ้นไทยปีนี้อยู่ที่ระดับ 1,480-1,650 จุด บนพื้นฐานที่ว่า กำไรของบริษัทจดทะเบียนเติบโตที่ 10% จึงขอแนะนำกลยุทธ์การลงทุน คือ ให้เลือกหุ้นกลุ่มที่ไม่ได้รับผลกระทบจากการชะลอตัวของเศรษฐกิจ เช่น หุ้นกลุ่มสื่อสาร กลุ่มบริโภค.

ขอบคุณข้อมูลจาก : ไทยรัฐออนไลน์